เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.63 พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร(ผบก.ทว.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ได้พานางเกสร เทียนโสภา อายุ 60 ปี มารดา น.ส.ยุพา ศรีเดช หรือ น้องออย พริตตี้สาววัย 23 ปี มาทำพิธีขุดศพ เพื่อนำโครงกระดูกที่ถูกฝั่งอยู่ภายในสุสานไตรคุณธรรม ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี ไปทำพิธีทางศาสนา โดยเจ้าหน้าที่สุสานทำการสำรวจสภาพโครงกระดูกพร้อมบันทึกรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นได้ให้ทางญาติทำพิธีจุดธูปทำพิธีเชิญวิญญาณ ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำโครงกระดูกใส่โรงศพเพื่อให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลยัง จ.เพชรบูรณ์
นางวีรภรณ์ ศรีเดช อาน้องออย บอกว่า จากผลการชันสูตรของแพทย์ ระบุว่า ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่ขณะที่พบศพฟันล่างของน้องออยหายไปหลายซี่ และฟันบนหายไปประมาณ 4-5 ซี่ โดยออยไม่มีโรคประจำตัวอะไร และเชื่อว่าถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาทิ้งไว้จุดดังกล่าว หลังจากที่ออยหายไป ครอบครัวลำบากมาก ซึ่งตอนนั้นคุณพ่อก็เริ่มป่วยเป็นโรคมะเร็ง จนกระทั่งเดือนที่เเล้วคุณพ่อได้เสียชีวิต เเต่ก่อนตายคุณพ่อของออยได้พูดไว้ว่า "อยากเห็นโครงกระดูกลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต" แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เห็นโครงกระดูกลูก
ซึ่งทันทีที่ทราบว่าศพดังกล่าวคือน้องออย ไม่เกี่ยวกับไอซ์หีบเหล็ก ทางญาติได้จุดธูปบอกดวงวิญญาณคุณพ่อเเล้ว ส่วนสิ่งที่ยังกังวลอยู่ในขณะนี้ คือเรื่องของคดี เพราะคนร้ายที่ก่อเหตุลอยนวลมาหลายปีเเล้ว จึงอยากให้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว นอกจากนี้ น้องออยขาดการติดต่อไปตั้งเเต่เดือนพฤษภาคม แต่ช่วงเดือนมิถุนายน ตนโทรติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ของน้องออย ปรากฎว่ามีผู้ชายรับสาย จึงถามว่า "คุณเป็นใคร เเล้วออยอยู่ไหน" ผู้ชายคนนั้นอ้างว่าเป็นเพื่อนบอกว่าออยอาบน้ำอยู่ หลังจากนั้นก็ติดต่อเบอร์ดังกล่าวไม่ได้อีกเลย
ด้าน น.ส.เฟิร์น เพื่อนสนิทน้องออย บอกว่า วันนี้ดีใจที่ได้มารับเพื่อน เพราะรอคอยมา 6 ปี ดังนั้นในเรื่องการรอคอยถือว่าสิ้นสุดแล้ว แต่หลังจากนี้สิ่งที่จะต้องเริ่มตามหาคือคนที่ฆ่าเพื่อน ซึ่งบุคคลที่สงสัยก็ยังเป็นคนเดิม คือเเฟนเก่าชาวไทยของออย เพราะหลังจากที่ออยหายไป ตนติดต่อไปหาผู้ชายคนดังกล่าว เพราะอยู่กับออยเป็นคนสุดท้ายที่บ้านของผู้ชายคนนี้
โดยเเฟนเก่าออยอ้างว่า ก่อนที่ออยจะหายตัวไป ได้ทะเลาะกับออยเรื่องชู้สาว เพราะมีผู้ชายมาติดพันออยหลายคน และวันดังกล่าวได้เห็นยาคุมฉุกเฉินในกระเป๋าออย จึกมีปากเสียงกันและตบออย 1 ครั้ง จากนั้นออยก็ออกจากบ้านไป โดยมีผู้ชายมารับ ซึ่งตั้งข้อสงสัยว่า ออยมีรถเก๋งส่วนตัว ทำไมไม่ขับไปเอง ทำไมจึงทิ้งไว้ที่บ้านของผู้ชายคนนี้ อีกทั้งเอกสารส่วนตัวที่สำคัญ ทั้งบัตรประชาชน บัตรATM ไม่ได้นำติดตัวไปด้วย
ส่วนรถคันดังกล่าวของออย เเฟนเก่าชาวไต้หวันได้ขายไปเเล้ว เพราะเขาเป็นคนซื้อ สิ่งที่ยังกังวลคือคนร้ายยังไม่ถูกจับ เชื่อว่าผู้ชายคนนี้คือคนก่อเหตุ