ชีวิตรันทด! ลุงค้ำประกันญาติซื้อรถ ไม่มีเงินผ่อนถูกยึดบ้านขายทอดตลาด โทรหากลับบ่ายเบี่ยง (คลิป)

จากกรณีชายชาวเชียงใหม่คนหนึ่งได้เซ็นค้ำประกันให้ญาติซื้อรถบรรทุก 6 ล้อ แต่ญาติไม่มีเงินผ่อนค่างวดถูกนายทุนยึดรถขายทอดตลาดแต่วงเงินไม่พอกับยอดหนี้ ก่อนที่บ้านของหนุ่มผู้ค้ำรายนี้จะถูกยึดไปอีกนั้น

ล่าสุดวันที่ 3 มิ.ย.63 นายสิฐ สิทธิสอน อายุ 51 ปี ผู้เสียหาย บอกว่า เมื่อต้นปี 2562 ชายอายุ 50 ปี ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ได้ไปเช่าซื้อรถบรรทุก 6 ล้อ กับบริษัทขายรถแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยให้เขาเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาชื้อขาย แต่หลังจากซื้อมาได้ไม่นาน ชายอายุ 50 ปี กลับเบี้ยวผ่อนชำระค่างวด ทางบริษัทขายรถยนต์จึงยึดรถบรรทุกขายทอดตลาด

ซึ่งยอดขายรถไม่เพียงพอกับยอดชำระหนี้ เขาและชายอายุ 50 ปี (ผู้กู้) จึงได้ทำหนังสือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ยอมรับสภาพเป็นลูกหนี้กับบริษัทขายรถ โดยมียอดค้างชำระ 204,169 บาท ซึ่งเขาได้ชำระงวดแรกเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2562 จำนวน 10,000 บาท และจะผ่อนชำระงวดต่อไปเดือนละ 3,000 บาท 

แต่เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 ทางบริษัทขายรถ กลับนำโฉนดที่ดินของตนเอง ที่ติดจำนองกับธนาคารของรัฐแห่งหนึ่งอยู่ ไปขายทอดตลาดกับกองบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ 

และขณะนี้อยู่ในระหว่างชำระหนี้กับทางบริษัทฯแต่ปรากฏว่าทางบริษัทฯ ได้นำเอาโฉนดที่ดินไปขายทอดตลอด และไม่แจ้งให้นายมนูญ กับตนเองรู้ ซึ่งก่อนหน้านั้นนายมนูญ และตนเองมีความต้องการจะของดการขายทอดตลาด บังคับคดีไว้ชั่วคราว แต่บริษัทขายรถยนต์ผิดสัญญา ไม่มีการแถลงข่าวขายทอดตลาด และไม่แจ้งให้นายมนูญและตนเองทราบ จนมีนายทุนได้เข้าไปสำนักงานบังคับคดีและชื้อโฉนดที่ดินนั้นไป

จึงทำให้ตนเองไม่มีที่อยู่อาศัย ได้รับความเดือดร้อนไม่มีเงินแม้กระทั่งซื้อแก๊สมาเปลี่ยนในห้องครัว ต้องหาฟืนหุงหาอาหาร อยากขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และบริษัทขายรถยนต์ทราบ และขอร้องให้ความยุติธรรมและความช่วยเหลือด้วย เนื่องจากตนเป็นเพียงผู้ค้ำประกันเท่านั้น 

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลองให้นายสิฐ โทรศัพท์หานายมนูญ น้องชาย เพื่อสอบถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น แต่นายมนุญไม่รับสาย แต่เมื่อใช้โทรศัพท์เบอร์อื่นโทรปรากฏว่า นายมนูญรับสาย แต่เมื่อทราบว่าเป็นนายสิฐ ก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมพูดเรื่องเงิน อ้างว่า "เรื่องที่เกิดขึ้นหากอยากจะให้ช่วยรับผิดชอบ เดือนหน้าจะติดต่อกลับมาเอง"