หลังจากที่ "ดี้ นิติพงษ์" โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงประเด็นเรื่องการเสียชีวิตของ "น้องเมย" นักเรียกเตรียมทหาร ใจความท่อนหนึ่งเขียนว่า
"ภาษาที่พูดว่า ไม่แข็งแรงก็ไม่ต้องมาเป็นทหาร ผมก็เคยโดนซ่อมมาจนสลบแล้ว...เข้าใจจ้ะ...แต่ไม่ใช่วิธีพูดที่เหมาะสมกับบรรยากาศนี้เลย..ลูกเขาตายนะพี่....พี่ๆ จ๋า ลุงๆจ๋า...ด้วยความเอาใจช่วยมาตลอดนะ ตรวจดูวิธีพูดจาและเอาใจใส่มวลชนกว่านี้หน่อยเถอะจ้ะ"
หลายคนก็โยงไปว่านักแต่งเพลงชื่อดังกำลังสื่อถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้จนกลายเป็นวลีเด็ดว่า
"ผมก็เคยถูกซ่อม แต่ผมไม่ตาย"
ล่าสุด (30พฤศจิกายน2560) เจอ
"ดี้ นิติพงษ์" สื่อมวลชนจึงถามถึงเรื่องนี้ทันที เจ้าตัวก็เผยว่า
"เฟซบุ๊กของเราก็เหมือนนิตยสาร ทุกคนก็ทำการแสดงความเห็นเหมือนคอลัมน์นิสต์ ส่วนในกรณีของเรื่องน้องเมย
ประเด็นแค่อยากจะต้องการแสดงความรู้สึกว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อาจจะต้องระวังการพูดในเรื่องราวที่ละเอียดอ่อนนิดหนึ่ง เพราะว่ามันสะเทือนใจ แล้วมันก็จะเสียหายถึงตัวท่านเอง เรื่องของน้องเมยจะถูกจะผิด สอบสวนออกมายังไงก็เป็นเรื่องที่ต้องทำกันไป ก็แล้วแต่ เราไม่เกี่ยว ที่เขียนวันนั้นก็เพื่อว่าเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วที่สังคมไม่สบายใจ ก็ช่วยพูดจาให้สบายใจหน่อยเท่านั้น"
รู้สึกยังไงบ้างที่ในคอมเมนต์ที่เราโพสต์มีทั้งบวกและลบ
"ไม่ค่อยมีลบหรอกนะ เพราะที่ลบๆ ก็บล็อกไปหมดแล้ว"
คนบันเทิงอย่าง "เจ เจตริน" ก็เข้ามาคอมเมนต์ด้วย
"ก็พี่น้องในแวดวงทั้งนั้น แต่พี่เชื่อว่าทุกคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี หนึ่งเราอาจจะบ่นของเราเอง สองคือ การบ่นของเราอาจจะเป็นประโยชน์บ้าง คนที่ชอบเราเขาก็ชอบ คนที่ไม่ชอบเราอยู่แล้วยังไงเขาก็ไม่ชอบ"
แสดงว่าจากนี้มีเรื่องอะไรก็ยังคงโพสต์ต่อไป
"ก็เหมือนคนอื่นๆ คนอื่นเค้ายังบ่นได้ แล้วทำไมเราบ่นบ้างไม่ได้ ก็ยังเขียนอยู่เพราะว่าก็เป็นสิทธิเท่าๆ กับทุกคน แต่ก็คงจะเขียนอะไรที่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ไม่ไปทำให้ใครเสียหาย"
เรียกว่าการโพสต์ครั้งนี้ผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว
"ผ่านมาแล้วแต่ก็อาจจะมีแรงไปบ้าง แต่ใครจะรับไปแบกก็ตามสบาย"
รู้สึกยังไงที่เราโพสต์อะไรคนก็จับมาเป็นประเด็นตลอดเวลา
"ก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน คนที่มีชื่อเสียงกว่าเราเขียนยังไม่เห็นเป็นเรื่องเป็นราวอะไร"
ใจเราอยากจะให้สารตรงนี้ส่งไปถึงใครไหม
"ถึงก็ได้ไม่ถึงก็ได้ เพียงแต่ว่าเราได้พูดในสิ่งที่อยากพูด"
สิ่งที่เขียนไปมีผลกระทบกลับมาไหม
"แรกๆ ก็อาจจะเป็นเพราะเราไม่ค่อยชิน แต่ตอนนี้ก็ชินแล้วใครจะแชร์ไปไหนก็ไม่เป็นไรตามสบาย แต่ถ้ามาพูดจาไม่ดีในเฟซบุ๊กเราก็บล็อก แต่เราก็ไม่ได้ถือสาอะไรแล้ว ใครจะเอาไปยำที่ไหนก็เรื่องของเขา ก็สิทธิส่วนบุคคลของใครของมัน หลังจากโพสต์ก็ไม่ได้มีใครติดต่อมา"
นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องที่ "ดี้" ไปแจ้งความที่สน.ทองหล่อเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมกับ "เจี๊ยบ วัชระ" กรณีถูกนำรูปภาพไปแอบอ้างในการขายตรง นักข่าวจึงได้ถามถึงความคืบหน้าของคดี
"เรื่องคดีตอนนี้พี่ก็ได้ทำหน้าที่ของพี่เสร็จเรียบร้อยแล้วสองเรื่อง คือหนึ่งปกป้องสิทธิของตัวเองและเพื่อนไม่ให้ใครเอาไปแอบอ้างได้ แล้วก็ข้อสองคือ ดูแลผู้ที่อาจจะถูกหลอก"
คดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
"อันนี้ต้องไปถามตำรวจ ตอนนี้ทั้งทางเจ้าหน้าที่และทางคู่กรณีก็ยังไม่มีใครติดต่อมา แต่จุดประสงค์หลักเราก็แค่อยากจะเผยแพร่ให้คนระวังเกี่ยวกับการเอารูปไปแอบอ้างหรือไปหลอก"
มีคนหลงเชื่อไหม
"มีคนหลงเชื่อไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับภาพพี่หรือเปล่า เห็นบอกว่าเสียไป 20 - 30 ล้าน พี่ก็งงมากเลยนะถ้าเกิดว่าภาพพี่หลอกได้ขนาดนั้นเอามาให้พี่ตรงๆ เลยดีกว่า"
หลังจากแจ้งความมีผู้เสียหายมาติดต่อเพิ่มเติมไหม
"มีๆ ก็มีผู้เสียหายติดต่อเข้ามาบ้าง แล้วก็ไปแจ้งความด้วยกันวันนั้น ซึ่งก็ไปแจ้งความอีกกระทงหนึ่งเพราะว่าเขาเข้าข่ายถูกหลอกลวง แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย"
จะระวังในการถ่ายรูปกับใครมากขึ้นไหม
"เราก็ไประวังอะไรไม่ได้มาก ผมก็รู้สึกว่ายังดีที่มีคนอยากถ่ายรูปด้วย ถ้าไม่มีคนอยากถ่ายรูปด้วยเนี่ยจะแย่ เราก็ยินดี แต่มันก็อาจจะมีเกิดแบบนี้บ้าง ซึ่งถ้าเกิดเราก็จะดำเนินการไปตามคดีความ"
จะเรียกร้องอะไรไหม
"ไม่เรียกร้องอะไร จริงๆ แล้วหลักๆ ก็แค่อยากจะกระจายข่าวว่า อย่าหลงเชื่อธุรกิจที่ผิดกฎหมายแบบนี้ ส่วนจะดำเนินคดีถึงไหนก็สุดแล้วแต่เจ้าหน้าที่"