ผู้จัดการ “หยิ่น-วอร์” ซุ่มเงียบให้ปากคำ ตำรวจเตรียมรวมหลักฐานชี้แจง

สืบเนื่องจากกรณีดราม่ากิจกรรมไลฟ์สดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ของดาราคู่จิ้นสายวาย “หยิ่น-อานันท์ ว่อง” และ “วอร์-วนรันต์ รัศมีรัตน์” ซึ่งจัดในโรงภาพยนตร์เมเจอร์ สาขาศูนย์การค้าสยามพารากอน สำหรับคู่จิ้นคู่นี้หลายคนจะรู้จักในฐานะนักแสดงจากซีรีส์วายชื่อดังเรื่อง “กลรักรุ่นพี่” เจ้าของกระแส #ENOFLOVEep8 ที่มีการพูดถึงในโลกทวิตเตอร์กว่า 1 ล้านทวีต โดยทั้งคู่กำลังจะมีผลงานซีรีส์ภาคต่ออย่าง “เหนือพระราม” แต่ก็ต้องเลื่อนการออกอากาศไปเพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั่นเอง

แต่จากกิจกรรมดังเกล่ากลับมีเหล่าแฟนคลับมาดักรอพบดาราหนุ่มทั้ง 2 คนหลังจบงานจำนวนมาก จนพื้นที่ชั้น 5 ของโรงภาพยนตร์เกิดความแออัด ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ในขณะนั้นไม่สามารถจัดระเบียบแฟนคลับให้ปฎิบัติตามกฎของการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ตามที่ทางศูนย์การค้าวางไว้ตั้งแต่แรกและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บอกว่าอาจขัดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั่นเอง

ในเวลาต่อมาทางศูนย์การค้าสยามพารากอนจึงสั่งให้โรงภาพยนตร์เมเจอร์ปิดให้บริการเป็นเวลา 3 วัน (7-9 มิถุนายน) เพื่อทบทวนมาตรการในการดูแล ควบคุมความปลอดภัยและสุขอนามัยให้อยู่ในระดับที่สยามพารากอนได้ประกาศไว้ตั้งแต่แรก แต่ดูเหมือนเรื่องจะไม่จบเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เข้าชี้แจงถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้ตัวแทนจากศูนย์การค้าสยามพารากอน และบริษัท เมเจอร์ กรุ๊ป จำกัด ได้เดินทางมาให้ปากคำที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ปทุมวัน กรุงเทพมหานครแล้ว

ล่าสุดวันที่(12 มิถุนายน 2563) เวลา 14.00 น. ก็ถึงคิวผู้จัดการส่วนตัวของ “หยิ่นและวอร์” เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ปทุมวัน เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาว่าจ้างงาน ว่าแท้จริงแล้วการจัดงานในวันดังเกล่าใคร หน่วยงานไหนเป็นผู้หละหลวมใน พรก.ฉุกเฉินและจัดการดำเนินคดีกับผู้นั้นต่อไป ซึ่งในระหว่างที่สื่อมวลชนต่างเฝ้ารอการสัมภาษณ์นั้น ผู้จัดการดาราทั้ง 2 ท่านก็ได้ซุ่มเงียบเข้าไปให้ปากคำกับตำรวจโดยไม่มีวี่แววจะให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างใด เบื้องต้นทีมข่าวได้สอบถามไปทางเจ้าหน้าที่ผู้สอบปากคำ “พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ” รอง ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่าขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานจากทุกฝ่ายและเตรียมแถลงความคืบหน้าในเวลาต่อไป