เจ้าของร้านกาแฟเตือนภัยมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ สั่งของแล้วหลอกให้โอนเงิน

เจ้าของร้านกาแฟนครพนมเตือนภัยมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกโทรสั่งกาแฟแถมฝากโอนเงินสูญเงินกว่า 3,000 บาท

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายเป็นเจ้าของร้านกาแฟน้ำผลไม้ปั่นในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ โทรศัพท์หลอกสั่งกาแฟและฝากโอนเงินให้ญาติ จนกระทั่งหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจึงได้ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อและแฉพฤติกรรมสุดแสบของแก๊งมิจฉาชีพรายนี้เพื่อเตือนภัยสังคมและช่วยกันแจ้งเบาะแสไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก

ผู้เสียหายรายนี้ชื่อ นางสาวภัควลัญสน์ ธเนศร์กฤติพงศ์ หรือ เจ๊เก๋า อายุ 45 ปี เจ้าของร้านเก๋ากาแฟโบราณ ตั้งอยู่ชุมชนหลังวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พร้อมนำหลักฐานมาแฉพฤติกรรมของแก๊งมิจฉาชีพ โดยเจ๊เก๋าเล่าว่าเหตุเกิดช่วงสายของวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนเปิดร้านขายกาแฟและน้ำผลไม้ปั่นบริการส่งถึงที่ในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนมเพราะมีการลงโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งปกติจะมีลูกค้าโทรศัพท์สั่งซื้อประจำในราคาแก้วละ 40 บาท ปรากฏว่ามีลูกค้ารายหนึ่งโทรมาสั่งกาแฟรวมจำนวน 16 แก้วแต่ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะคิดว่าเป็นลูกค้าทั่วไป และตกลงให้นำไปส่งยังที่ว่าการอำเภอธาตุพนม ทำให้ตนหลงเชื่อเพราะเป็นสถานที่สำคัญเร่งทำกาแฟตามสั่งให้

สักพักลูกค้ารายดังกล่าวโทรกลับมาอีกว่าขอรบกวนฝากโอนเงินทางแอปพลิเคชั่นให้ญาติหน่อยเพราะเขาเดือดร้อนต้องการใช้เงินด่วนและอ้างว่ามีแต่เงินสดจึงฝากโอนให้จำนวน 3,000 บาท และบอกให้ตนไปเก็บเงินที่ว่าการอำเภอพร้อมกับค่ากาแฟที่จะไปส่ง เมื่อไปถึงที่ว่าการอำเภอถามหาคนสั่งกาแฟเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างยืนยันว่าไม่มีใครอะไรทั้งนั้น ครั้นโทรไปหมายเลขดังกล่าวก็ปิดเครื่องหนีจึงรู้ว่าถูกหลอกเสียทั้งเงิน 3,000 บาทแถมทำกาแฟไปส่งฟรีไม่มีคนรับ รวมแล้วสูญเงินไปประมาณ 3,500 บาท และยอมรับตนเผอเรอเองที่ไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด พอมีคนที่เป็นลูกค้าโทรมาสั่งกาแฟและขอความช่วยเหลือฝากให้โอนเงินจึงยอมโอนให้เพราะอยากบริการช่วยเหลือลูกค้าแต่ไม่ได้เอะใจและถามชื่อรวมถึงรายละเอียดไม่คิดว่าจะมีใครมาหลอกกันแบบนี้

เจ๊เก๋ากล่าวต่ออีกว่าหลังรู้ว่าถูกหลอกได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ธาตุพนม เพราะมีการตรวจสอบบัญชีปลายทางรู้ชื่อคนรับเงินแล้วจึงมอบหมายให้ตำรวจสืบสวนติดตาม ส่วนเงินรู้สึกเสียดายเพราะเป็นน้ำพักน้ำแรงจากการทำมาหากินแต่ไม่คาดว่าว่าจะได้คืนแต่ขอให้ตำรวจดำเนินคดีตามขั้นตอน สิ่งสำคัญต้องการที่จะออกมาให้ข้อมูลฝากเตือนภัยไปยังประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ส่วนหนึ่งคิดว่าแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวน่าจะมีเครือข่ายในพื้นที่เพราะในการโทรมาพอรู้ว่าจะสร้างความเชื่อถือให้ไปส่งกาแฟในสถานที่เชื่อถือได้ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นว่ามีตัวตนจริงยอมรับที่ตกเป็นเหยื่อเพราะไม่ได้ตรวจสอบละเอียด ฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยสังคมภัยสังคมรูปแบบใหม่ความสะดวกในการโอนเงินจากโทรศัพท์กลายเป็นภัยสังคม และฝากถึงคนที่ก่อเหตุว่าเวรกรรมมีจริงหากินบนความทุกข์คนอื่นสุดท้ายจะได้รับกรรมเองขอให้หยุดการกระทำจะดีกว่าอย่าไปก่อเหตุซ้ำอีกเลย

ด้าน พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ธาตุพนม หลังรับแจ้งได้สั่งการให้ทางตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดพบหลักฐานชื่อเจ้าของบัญชีปลายทางที่รับโอนเงินเป็นบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.)ซึ่งเจ้าของบัญชีเป็นชาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ทางตำรวจจะได้มีการตรวจสอบประสานเจ้าของบัญชีมาสอบสวน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่ก่อเหตุโทรไปชักชวนหลอกลวงให้โอนเงินเป็นอาชีพ โดยจะมีการสุ่มหาเหยื่อตามเฟซบุ๊กหรือร้านค้าร้านอาหารที่ลงหมายเลขโทรศัพท์ให้ลูกค้าโทรสั่งสินค้า รวมถึงสั่งอาหารและมีการใช้วิธีพูดจาสร้างความเชื่อถือให้ตายใจแล้วหลอกให้ช่วยโอนเงิน เชื่อว่ามีคนตกเป็นเหยื่อแล้วหลายราย พร้อมฝากเตือนประชาชนหากมีบุคคลที่ติดต่อสั่งซื้อสินค้าหรือหลอกให้โอนเงินทุกกรณีถ้าไม่รู้จักหรือไม่มีการยืนยันตัวตนอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด