"หนอ วีระชัย" พูดเองเป็นตำรวจ! เหยื่อโต้ทนายดัง โชว์ภาพและเสียงมาบุกจับ ท้าสอบใครทำผิดกฎหมาย (คลิป)

จากกรณีนายวีระชัย ศรีวณิก หรือ หนอ วรรณึกกุล อายุ 38 ปี อดีตดารานักแสดง, นายศิวัช หล่ำศรี อายุ 36 ปี และ นายณรงค์ฤทธิ์ ทองพันธุ์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ก่อเหตุบุกเข้าไปตรวจค้นอู่ทำสีรถ ของนายณัฐพงศ์ จิตสงวน อายุ 26 ปี อ้างว่ามีหมายจับคดีครอบครองยาเสพติดและฟอกเงิน โดยนายชมะนันทน์ วรรณวินเวศร์ ทนายความ ของหนอ ได้มาให้สัมภาษณ์ในรายการ ทุบโต๊ะข่าว ระบุว่า อยากให้สังคมมองอย่างรอบด้าน รวมถึงขอโอกาสให้ลูกความตน และยืนยันว่า หนอไม่ได้กล่าวอ้างว่าเป็น เจ้าหน้าที่ ปปส.แต่อย่างใด

ล่าสุด (9 ธ.ค.) ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายณัฐพงษ์ จิตสงวน หรือ อั้ม ผู้เสียหาย ซึ่งได้เปิดภาพกล้องวงจรปิดที่มีเสียงชัดเจน โดยหนอเข้ามาภายในร้าน ก่อนชักปืนขึ้นมา อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ปปส. ทั้งยังถือหมายจับมาด้วย นอกจากนี้ยังมีภาพจากหน้าบ้านช่วงที่พ่อของอั้ม ซึ่งใส่เสื้อยืดสีขาวสกรีนตราทหารอากาศเดินเข้าไปในบ้าน ทำให้ผู้ต้องหารีบเดินออกมาจากบ้านทันที นายอั้ม เผยว่า นายหนอ ได้อ้างตัวเป็นตำรวจ ปปส.จริง ทั้งยังใช้หมายจับปลอมมายื่นให้ตนดูอีกด้วย นอกจากนี้ยังใช้กุญแจมือล็อคตน โดยไม่ได้มีการขออนุญาตก่อนตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง ทั้งนี้เมื่อพ่อตนใส่เสื้อสกรีนตราทหารอากาศเข้ามา ทั้งหมดก็รีบออกจากบ้านไป

ส่วนตนและ นายเกียรติศักดิ์ สาระวดี หรือ กอล์ฟ ผู้เสียหายอีกราย ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยทราบเรื่องของกอล์ฟจากรุ่นพี่ ที่โทรมาบอก ว่ากอล์ฟถูกกระทำจากบุคคลกลุ่มเดียวในลักษณะคล้ายกัน ตนจึงทักแชทเฟซบุ๊ก กอล์ฟ เพื่อขอเบอร์โทรศัพท์ และได้พูดคุยกัน

สำหรับธุรกิจขายอะไหล่รถยนต์ที่ทำอยู่ ยืนยันว่า มีใบประกอบการถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ได้ทำธุรกิจผิดกฎหมายตามถูกกล่าวหา ส่วนรถมีหลายคันจริงแต่ไม่ถึง 10 คัน ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อมาในราคาถูกและนำมาซ่อมตกแต่งให้สวยงามเหมือนใหม่ รวมถึงไม่มีคันไหนที่สวมทะเบียน โดยยินดีหากเจ้าหน้าที่จะเข้ามาตรวจสอบ โดยอยากถามอีกฝ่ายว่า หากไม่ได้ทำผิด จะตกใจจนต้องโยนปืนทิ้งน้ำทำไม ? และอยากฝากบอกผู้ที่ออกมาแก้ต่างว่า "ไม่รู้จริงอย่ามั่ว"

ด้าน นายเกียรติศักดิ์ สาระวดี หรือ กอล์ฟ เปิดเผยเช่นเดียวกันกับนายอั้มว่า ตนรู้จักกับอีกฝ่ายผ่านรุ่นพี่ที่โทรมาบอก ว่าคนชื่ออั้ม ถูกชายอ้างเป็น ป.ป.ส. ตบทรัพย์ ซึ่งเมื่อตนเข้าไปดูในเฟซบุ๊กอั้ม ก็พบว่า เป็นคนกลุ่มเดียวกัน ก่อนที่อั้มจะทักมาทางแชทเฟซบุ๊ก และได้พูดคุยกัน ยืนยันไม่เคยรู้จักกับอีกฝ่ายมาก่อน ส่วนตนประกอบอาชีพ ทำธุรกิจรถตู้ วิ่งรถที่ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านพระรามเก้า และส่งพนักงานโรงแรม ย่านบางรักช่วงกลางคืน ไม่ได้มีธุรกิจผิดกฎหมาย โดยที่อีกฝ่ายออกมาให้สัมภาษณ์ ตนคิดว่าประชาชนรู้ว่าสิ่งไหนเป็นความจริง เพราะทางตนมีหลักฐานชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ห้ามความคิดใคร ทั้งนี้ยืนยัน นายหนอ ได้อ้างตัวว่า เป็นตำรวจ ปส. ชุดสยบไพรีจริง ตอนเกิดเหตุ

ขณะที่นายชมะนันทน์ วรรณวินเวศร์ ทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ถึงกรณีการเปลี่ยนตัวทีมทนาย ที่จะเข้ามาช่วยดูแลคดีของนายวีระชัย ศรีวณิก หรือ หนอ วรรณึกกุล อดีตนักแสดงและพวกอีก 2 คน ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมหารือของทีมทนายความทั้งหมด คาดว่าจะมีทนายความรุ่นพี่ที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า เข้ามาช่วยดูแลคดีเพิ่มอีกประมาณ 2 คน และตนจะยังทำหน้าที่ทนายต่อไป หลังเกิดเหตุการณ์ได้มีการพูดคุย กับครอบครัวของลูกความทั้งหมดอยู่ตลอด เนื่องจากสภาพจิตใจเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะภรรยาและลูกของ นายวีระชัย ที่ได้รับผลกระทบจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือการปลอบขวัญ และในวันอังคารที่ 12 ธันวาคม นี้ ตนจะเดินทางไปเยี่ยมนายวีระชัย ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี พร้อมยื่นขอประกันตัวอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเอกสารเพิ่มเติม และพิจารณาหลักทรัพย์

ส่วนกรณีที่ทนายเกิดผล ออกมาให้ความเห็นว่า การเข้ามาดูแลคดีนี้ของตน เป็นการออกตัวแรง นายชมะนันทน์ ตอบเพียงสั้นๆว่า ขอไม่ตอบโต้อะไร เนื่องจากทนายเกิดผลเป็นทนายรุ่นพี่ พร้อมยืนยันว่า การเพิ่มทีมทนายครั้งนี้ไม่น่าจะทำให้คดีมีความซับซ้อน เพราะ การประชุมลงความเห็นนำความคิดหลายๆด้านมาใช้เป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะหลายหัวดีกว่าหัวเดียวแน่นอน จากการพูดคุยกับ หนอ วีระชัย ยอมรับว่า ตัวเองและพวกเป็นคนที่อยู่ในภาพ ตามที่ปรากฎในสื่อจริง แต่ขอให้แยกแยะคนในครอบครัว และให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกและภรรยา ได้ร้องขอให้ตนช่วยบอกกับสื่อทุกช่อง ให้มองข้อเท็จจริงหลายๆด้าน มองหลายๆมุม เพราะมีความกังวลเรื่องลูก ที่เข้าโรงเรียนแล้ว ขอให้นึกถึงความรู้สึกเด็ก รวมถึงภรรยา รวมถึงครอบครัวของลูกความอีก 2 คน ที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้สื่อช่วยให้เกียรติในความเป็นส่วนตัวด้วย

ที่สำคัญ วันที่ไปเยี่ยมหนอ ก่อนถูกนำตัวไปฝากขัง หนอ วีระชัย ได้ขอให้ตนออกมาพูดกับสื่อว่า จริงๆแล้วเรื่องนี้ยังมีมุมมองอีกหลายมุมที่ยังเปิดเผยไม่ได้ และอยากให้สื่อไปตรวจสอบฝ่ายที่เป็นผู้กล่าวหาบ้าง ส่วนตัวหนอ ในวันที่ไปเยี่ยม ไม่มีความกังวลอะไร และยังมีกำลังใจที่ดีมาก เพราะตอนที่เข้าไปเยี่ยมในห้องขัง ยังวิดพื้นโชว์ 3 เซ็ต ขณะที่ครอบครัวของอีก 2 คน ที่เหลือยังคงมีกำลังใจดีเช่นกัน โดยย้ำว่า ตอนนี้ญาติๆของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ค่อนข้างได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตค่อนข้างมาก