แม่วอนโซเชียลช่วยเหลือ ลูกสาวลืมมือถือไว้บนรถแท็กซี่ คนขับเก็บได้ไม่ยอมคืน แถมเปลี่ยนรูปบนโปรไฟล์เฟซบุ๊กเย้ยอีก
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือ โดยระบุข้อความว่า "ขอความช่วยเหลือ ขอความเห็นใจเถอะค่ะ‼️ ช่วยแชร์หน่อยนะคะ ขอร้องจริงๆ ค่ะ
ใครมีกลุ่มแท็กซี่แล้วรู้จักคุณลุงคนขับแท็กซี่คนนี้ รบกวนช่วยบอกแป้งหน่อย น้องฟางลืมโทรศัพท์ไว้บนรถแก แต่จำเลขทะเบียนรถไม่ได้
วันแรกที่ลืมแป้งพยายามโทรหาแล้วแต่ไม่มีคนรับเลย ถามลูกหลายรอบมากว่ามั่นใจหรือเปล่าว่าลืมไว้บนแท็กซี่ ลูกบอกมั่นใจมากๆ ไม่ลืมแน่นอน ปลอบใจลูกไปแล้วว่าจะหาเครื่องใหม่ไห้ใช้ แต่น้องฟางบอกว่า....
แม่จ๋าโทรศัพท์เครื่องนี้หนูอุตส่าห์ช่วยยายขายของ ทำงานเก็บเงินซื้อเอง มันเป็นโทรศัพท์เครื่องแรกของหนู เงินที่หนูหาเอง มันมีข้อมูลการเรียน มีคลิปของหนูของน้องของยายที่หนูอัดไว้เต็ม มันมีความทรงจำต่างๆ หนูอยากได้เครื่องเดิมได้มั้ยแม่ ถ้าแม่ติดต่อลุงได้ หนูขอคืนได้มั้ย หนูจะทำงานช่วยแม่ทุกอย่าง... นี่คือคำพูดของลูก ‼️
ตอนแรกถอดใจแล้วพยายามปลอบใจลูก แต่ 2-3 วันมานี้ น้องฟางเริ่มซึม ไม่ค่อยพูดค่อยจา ไม่ค่อยกินข้าว บางครั้งก็นั่งเหม่อ คือสงสารลูกมาก เหมือนลูกเครียด ไม่รู้จะทำยังไงดี จนมาเมื่อวาน น้องฟางเข้ามาเล่นเฟซ แล้วรูปโปรไฟว์ในเฟซถูกเปลี่ยนเป็นรูปคุณลุงที่ขับแท็กซี่คันนั้น เราเลยมีความหวังว่าอาจจะมีคนที่รู้จักคุณลุงอยู่บ้าง ขอพลังโซเชียลช่วยหน่อยนะคะ #สงสารลูกมา จากเด็กร่าเริง กล้าแสดงออก ช่างพูดช่างจา กลายเป็นคนนิ่งขรึม เงียบซึมไปเลย ..."
โดยล่าสุด คุณแม่ได้โพสต์เพิ่มเติมว่า "ในกรณีที่น้องฟางลืมโทรศัพท์ไว้บนรถแท็กซี่ ความเป็นจริงไม่ได้อยากให้เป็นข่าวใหญ่โตอะไรเลยค่ะ เพราะส่วนหนึ่งความผิดพลาดก็เกิดมาจากความประมาทไม่รอบคอบของตัวเราเองด้วยที่ไม่ตรวจดูสิ่งของให้ดีก่อนลงรถ
แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วการที่โพสต์ลงไปคือต้องการแค่ เผื่อใครรู้จักหรือพบเห็นคุณลุง อาจจะช่วยพูดคุยไห้คุณลุงติดต่อกลับมา หรือฝากผ่านคนกลางให้เอามาคืนให้
โดยส่วนตัวตอนนี้ คิดว่า ถ้าได้คืนก็จะส่งผลดีต่อสภาพจิตใจของลูกมากๆ แต่!!! ถ้าจะไม่ได้คืนจริงๆ ก็จะขอฝากไห้เป็นอุทาหรณ์สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือผู้โดยสารทุกท่าน ให้คอยตรวจสอบสิ่งของต่างๆไห้รอบครอบก่อนลงรถทุกครั้งค่ะ
ส่วนคุณลุงเราขอฝากถึงแค่ว่า ถ้าคุณลุงจะคืนให้ หนูขอรับรองว่าจะไม่เอาเรื่องอะไรเลยค่ะ ตอนนี้หลายๆ คนอาจจะรู้จักหน้าคุณลุงแล้ว หนูไม่อยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำลายอาชีพหรืออนาคตของคุณลุงเลยค่ะ แต่หนูขอแค่ไห้คุณลุงเห็นใจและสงสารเด็กคนนึงค่ะ สภาพจิตใจน้องแย่มาก ยิ่งตอนนี้น้องยิ่งมีความหวัง มูลค่าของโทรศัพท์มันอาจจะไม่กี่บาท ไม่ถึงพันด้วยซ้ำ แต่มันมีคุณค่าทางจิตใจของลูกสาวหนูมากๆ ค่ะ มันประเมินค่าไม่ได้เลย หนูขอร้องคุณลุงจริงๆ ค่ะ หรือถ้าลุงจะปฏิเสธ หนูก็อยากให้ลุงออกมาชี้แจงว่าลุงไม่ได้ทำไม่ได้เอาไปจริงๆ ขอบคุณมากๆ ค่ะ"