นาคร่ำไห้หน้าเมรุไร้เงินเผาแม่ คาใจหาย 4 วันเป็นศพ เพื่อนวงเหล้ายันหัวฟาดพื้นตาย (คลิป)

สืบเนื่องจากกรณีลูกชายของนางลอด อายุวงษ์ อายุ 44 ปี ที่หายตัวไปจากวงเหล้า บริเวณโคนต้นตะเคียน หลังวัดบ้านฉาง ต่อมา ลูกชายทั้ง 3 คน

ประกอบด้วย นายต้น นางาม อายุ 21 ปี ลูกชายคนโต, นายกิตินัท เป่งจ่า อายุ 16 ปี ลูกชายคนรอง และ ด.ช.กิติศักดิ์ เป่งจ่า อายุ 14 ปี ลูกชายคนเล็ก ได้ออกติดตามหาแม่

จนกระทั่งวันที่ 20 มิ.ย. 63 ทราบว่าแม่ถูกทุบตีด้วยของแข็ง มีเลือดคั่งในสมอง ตามใบชันสูตรของแพทย์ โดยครอบครัวมีเงินเพียง 500 บาท มูลนิธิที่เกี่ยวข้องจึงเข้ามาช่วยเหลือดำเนินการจัดการศพให้นั้น 

ล่าสุดวันที่ 24 มิ.ย.63 นายต้น นางาม อายุ 21 ปี, นางสาวสุภัสสร วงบุญ หรือ จิ๊บ 29 ปี ลูกชายคนโตและลูกสะใภ้ของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนทำงานโรงงานอยู่กับภรรยาที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ไม่ค่อยได้กลับมาเยี่ยมแม่ ครอบครัวของตนมีฐานะไม่สู้ดี เนื่องจากแม่มีอายุมากและทำงานไม่ไหว

โดยแม่ของตนออกไปนั่งดื่มสังสรรค์ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 63 และไม่กลับมาที่บ้า น้องชายของตนทั้ง 2 คนออกตามหา แต่ก็ไปพบ จนเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 63 ตนได้เดินทางกลับมาที่บ้าน เพื่อมารับเอกสารการเกณฑ์ทหาร และได้รับรู้ข่าวจากชาวบ้านว่าแม่เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 63 ตนตกใจมาก เพราะไม่มีลางบอกเหตุมาก่อน

ทั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจที่มีเพียงเงินแค่ 500 บาท จัดงานศพให้แม่เพียง 1 คืน และตนยังไม่ทันได้ดูแลตอบแทนบุญคุณของแม่ ขณะนี้ตนเหลือครอบครัว คือน้องเพียง 2 คน จากนี้ตนจะดูแลน้อง ๆ ตามที่รับปากกับแม่ไว้

ด้านนายปัญญา อยู่คง หรือ ช้าง อายุ 46 ปี อาชีพก่อสร้าง ผู้ที่ร่วมวงเหล้ากับผู้ตาย เล่าว่า ตนรู้จักกับผู้ตายมานานกว่า 1 ปีครึ่ง เนื่องจากเป็นเพื่อนร่วมดื่มสังสรรค์ใต้ต้นตะเคียนด้วยกัน โดยในวันที่ 17 มิ.ย. 63 ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านต้นตะเคียนหลังวัดบ้านฉาง และได้รับผู้ตายไปดื่มสังสรรค์ต่อด้วยกันที่ห้องพักของตน โดยไม่มีเรื่องชู้สาว ซึ่งผู้ตายเคยไปมาแล้วเกือบ 10 ครั้ง แต่ครั้งนี้มีอาการเมาหนักมาก

โดยในช่วงเที่ยงของวันที่ 18 มิ.ย. 63 ผู้ตายได้ตื่นขึ้นมาอาเจียนหลายครั้ง ก่อนเดินออกจากห้องของตน แต่กลับลื่นพื้นลาดที่หน้าห้องพัก หน้าผากฟาดพื้น ไม่มีเลือดไหล จากนั้นกลับเข้ามาในห้องของตน และล้มท้ายทอยฟาดพื้นอีกครั้ง ไม่มีเลือดไหล จากนั้น 17.00 น. ผู้ตายมีอาการชักเกร็ง ตนตกใจจึงได้โทรศัพท์เรียกกู้ภัยมารับตัวส่งโรงพยาบาล

ส่วนที่ชาวบ้านและครอบครัวของผู้เสียชีวิตสงสัยตนว่าเป็นคนทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิตหรือไม่ ตนขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนเข้าใจว่าตนอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมด้วย