ผ่าสมอง 2 มือปราบ ใครกันอุ้มชมพู่ "ริน-ชัช-ชายปริศนา" งานนี้ไม่มีแพะ (คลิป)

25 มิ.ย. 63

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้สัมภาษณ์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผบช.น. หรือรู้จักกันในนาม "มือปราปหูดำ" ให้ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ชาย 3 ราย ที่ทีมข่าวไปเจอตัวในที่เกิดเหตุ และที่เจ้าหน้าที่มีการออกหมายจับ

979217

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

โดยเริ่มจากคนแรกชายที่สติไม่สมประกอบ ผู้การแต้มวิเคราะห์ว่า การเสียชีวิตของน้องชมพู่ ตำรวจต้องมาดูปัจจัยหลายอย่าง เช่น ต้องมาดูว่าน้องชมพู่เสียชีวิตเพราะอะไร และมูลเหตุอะไรที่ทำให้น้องต้องมาเสียชีวิต และเป็นไปได้อย่างไรที่น้องชมพู่จะขึ้นไปเสียชีวิตบนนั้น และน้องชมพู่สามารถขึ้นไปถึงตรงนั้นได้อย่างไร ถ้าจะบอกว่าเด็กขึ้นไปเองคงเป็นไปไม่ได้

237206

ทั้งนี้ตนยังเชื่อว่า บุคคลที่กระทำน้องชมพู่ยังคงเป็นคนที่ต้องใกล้ชิดน้องชมพู่ ถ้าไม่อย่างนั้นน้องชมพู่ คงไม่ยอมไปด้วย เว้นเสียแต่ว่าคนร้ายจะอุ้มเด็กไปด้วยการปิดปากหรือใส่ถุงใส่กระสอบ ดังนั้นต้องวิเคราะห์ตรงนี้เสียก่อน

ส่วนคนสติไม่ดีที่ผู้สื่อข่าววิ่งตาม ตนให้น้ำหนักน้อยมากที่จะเป็นคนร้าย 1.ความเชื่อมโยงกับน้องชมพู่ 2.ต้องมาวิเคราะห์อีกว่าชายคนนี้ มีพฤติกรรมทำร้ายคนอื่นหรือไม่ เนื่องจากคนสติไม่ดีมีหลายประเภท เช่น บางคนก้าวร้าว ขี้กลัว บางคนไม่อยากยุ่ง หรือสุงสิงกับใคร ซึ่งถ้าดูจากคลิปที่ผู้สื่อข่าววิ่งไล่ตามแล้ว เขาพยายามปฏิเสธเพราะอาจจะไม่อยากยุ่งด้วย และถ้าเป็นผู้ต้องสงสัย ตำรวจคงไม่ปล่อยมาแบบนี้ คงนำตัวไปสอบปากตำและตรวจดีเอ็นเอแล้ว

ต่อมาคนที่ 2 คือนายชัชชญนันท์ จันทร์ภักดี เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 พ.ค.63 ก่อนเจอศพน้ชมพู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาในคดีมียาเสพติดในครอบครองและจำหน่าย โดยมีของกลางเป็นยาบ้า 4,000 เม็ด นอกจากนี้นายชัชชญนันท์ ยังซิ่งรถตำรวจหนีก่อนจะมาจอดทิ้งไว้หางจากบ้านน้องชมพู่ ประมาณ 40 กม. แต่จุดที่ทิ้งรถตำรวจไว้สามารถเดินลัดเลาะผ่านภูเขา เพื่อข้ามไปที่หมู่บ้านของเด็กได้เช่นเดียวกัน

ส่วนคนสุดท้ายคือนายนริน เชื้อคมตา ผู้ต้องหาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ออกหมายจับในข้อหากระทำอนาจารหลานตัวเอง ซึ่นคนนี้ตนค่อนข้างในน้ำหนัก ถ้าวิเคราะห์จากพฤติกรรม เพราะเคยมีพฤติกรรมอนาจารเด็กมาก่อน คนประเภทนี้จากประสบการณ์การทำงานของตน จะมีความชอบที่แตกต่างกัน เช่น ผู้ต้องหาบางคนข่มขืนหญิง อายุ 70 ปี ก็จะข่มขืนแต่คนที่อายุมาก ๆ เช่นเดียวกันบางคนที่ชอบเด็ก ๆ ก็จะมีความชอบในแบบนั้นตลอด คนพวกนี้มักจะทำทีเข้าหาเด็ก ให้ขนม พูดคุย หยอกล้อแบบไม่ให้คนอื่นรู้ เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าไม่มีพิษมีภัยก็เป็นได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถไปบอกได้ว่าใครเข้าข่าย หรือเป็นผู้ต้องหา เพราะต้องใช้หลักฐานในหลายทาง และการจะไปปรักปรำใคร ทั้ง ๆ ที่อาจจะเคยผิดพลาดในคดีอื่น แต่คดีนี้อาจจะไม่ได้ทำก็ได้ แต่ส่วนตัวก็ยังคงเชื่อว่าผู้ที่ก่อเหตุกับเด็กอาจจะเป็นคนใกล้ชิด

509067

พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ฉายาสารวัตรแรมโบ้ อดีตผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และอดีตสารวัตรกองปราบนครบาล เปิดเผยว่า สำหรับคนที่มีลักษณะเหมือนคนบ้า ก็เป็นไปได้ แต่ให้น้ำหนักน้อย แต่อยากให้ตำรวจไปตรวจดีเอ็นเอ และไทม์ไลน์เก็บไว้ ส่วนพ่อค้ายาเสพติดที่อาจจะข้ามภูเขาเข้ามา ประเด็นนี้ตนไม่ให้น้ำหนัก ไม่น่าเป็นไปได้ ขอให้น้ำหนักไปที่คนในหมู่บ้าน ที่ใกล้ชิดเด็กมากที่สุด เพราะตนมองว่าพ่อค้ายาหนีคดี ไม่น่าจะมาก่อแบบนี้ซ้ำรอยอีก เพราะจะนำไปสู่การถูกจับกุม

143662

นอกจากนี้ สารวัตรแรมโบ้ ย้ำด้วยว่า ดีเอ็นเอและกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด เพราะพยานและพยานแวดล้อมพูดโกหกได้ แต่ดีเอ็นเอและกล้องวงจรปิด โกหกไม่ได้

989590

อย่างไรก็ตาม เมื่อสรุปตามคำให้สัมภาษณ์ของ ผู้การแต้ม มองว่า เป็นไปได้ที่คนร้ายจะเป็นนายนริน และเป็นไปได้ยากที่จะเป็นนายชัชชญนันท์ ส่วนชายปริศนา เป็นไปได้แต่ให้น้ำหนักน้อย ขณะที่สารวัตรแรมโบ้ มองว่า เป็นไปได้ที่คนร้ายจะเป็นนายนริน สำหรับนายชัชชญนันท์ ไม่น่าเป็นไปได้ และชายปริศนา เป็นไปได้ แต่ให้น้ำหนักน้อย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม