กำลังเป็นประเด็นที่หลายคนพูดถึงสำหรับข่าวหวยอลเวง ไม่ว่าจะเป็นคดีฉกหวย 12 ล้าน หรืออย่างกรณีล่าสุดที่กำลังเป็นประเด็นขณะนี้คือคดีหวย 30 ล้าน จ.กาญจนบุรี เป็นที่ถกเถียงกันอยู่เพื่อหาเจ้าของตัวจริง ระหว่าง อดีตนายตำรวจ กับข้าราชการครู ซึ่งนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความฝั่งอดีตตำรวจ ออกมาเปิดเผยว่า ในอดีตเคยมีลูกน้องของนายตำรวจใหญ่คนหนึ่ง ถูกนายตำรวจใหญ่ให้ทำคดีบางอย่าง ทางลูกน้องเครียดกับนายตำรวจคนดังกล่าวมาก
ภายหลังมีข่าวออกมาว่า เมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี พ.ศ.2559 พ.ต.ท.ปัญญาลักษณ์ เปรมปรีดิ์ พงส.สภ.ทุ่งคอก จ.สุพรรณบุรี ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ฆ่าตัวตาย แต่เบื้องต้นไม่ทราบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากสาเหตุใด
ล่าสุด วันนี้ (15 ธ.ค.) ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสมาพร เพชรปานกัน อดีตพี่สะใภ้ของ พ.ต.ท.ปัญญาลักษณ์ เปิดเผยว่า อดีตน้องเขยของตนเป็นคนตรง โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน ที่มักทำคดีแบบตรงไปตรงมา มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยถูกโยกย้าย เพราะไปขัดผลประโยชน์กับผู้มีอิทธิพล ก่อน พ.ต.ท.ปัญญาลักษณ์ เสียชีวิต ได้บ่นเรื่องการทำงานว่ามีความเครียด และอยากจะลาออก ตนจึงสนับสนุนให้ลาออกมาอยู่กับลูก
บางครั้ง พ.ต.ท.ปัญญาลักษณ์ มีอาการเหม่อลอย ดูอ่อนเพลีย ตนรู้สึกว่ามีท่าทีแปลกไป ครั้งสุดท้ายน้องเขยตนได้ฝากฝังให้ตนและแม่ ดูแลลูกๆ ทั้ง 2 คน ก่อนจะยิงตัวตาย
นางสมาพร บอกว่า ส่วนตัวคิดว่าสาเหตุหลัก น่าจะมาจากเรื่องงาน แต่ตนไม่ทราบรายละเอียด โดย พ.ต.ท.ปัญญาลักษณ์ มีโรคประจำตัวเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงกับภาวะซึมเศร้า แต่ได้รักษาอาการมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วงหลังแทบไม่เห็นอาการของโรคดังกล่าว จากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน ถึงสาเหตุการฆ่าตัวตายของ พ.ต.ท.ปัญญาลักษณ์ ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้
ด้าน นางไพลิน วิเศษสิงห์ น้องสาว พ.ต.ท.ปัญญาลักษณ์ ระบุว่า พี่ชายเป็นคนซื่อตรงมาก ที่ผ่านมาเคยบ่นเรื่องงานว่าเหนื่อย ทำคดีหลายอย่าง ประกอบกับร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ต้องกินยาระงับประสาทเพราะความเครียดมาประมาณ 5 ปีแล้ว ส่วนเรื่องที่ถูกฟ้องวินัย พี่ชายไม่เคยเล่าให้ฟัง แต่เชื่อว่าสาเหตุที่พี่ชายฆ่าตัวตายส่วนหนึ่งเกิดจากความเครียดจากการทำงาน