จากกรณีพระครูปลัดมานัส ญาณมานโส หรือ หลวงพ่อนิ้งหน่อง พระสงฆ์ประจำสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก ได้บอกใบ้กับอมรินทร์ทีวีว่า ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 63 ที่จะถึงนี้ จะสิ้นสุดคดีของน้องชมพู่ ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 วัน
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ล่าสุดวันที่ 26 มิ.ย.63 ทีมข่าวได้พูดคุยกับหลวงพ่อนิ้งหน่อง ซึ่งก่อนที่จะให้สัมภาษณ์หลวงพ่อนิ้งหน่องได้เดินไปเด็ดใบชมพู่จากต้นชมพู่ภายในสำนักสงฆ์ออกมา เพื่อเป็นสื่อกลางในการใช้ญาณถึงคดีน้องชมพู่
หลวงพ่อนิ้งหน่อง บอกว่า อาตมาไม่ได้อยากดัง แต่ทุกอย่างมีเหตุมีผลที่ทำให้ทีมข่าวได้มาเจอกับอาตมา ซึ่งอาตมาไม่กลัวที่จะถูกพระผู้ใหญ่ตำหนิ เพราะการพูดอะไรออกไป คนพูดต้องพิจารณาว่าเป็นการโอ้อวดสิ่งที่มองไม่เห็นหรือไม่ การให้ข่าวต้องพูดความจริง การให้ข่าวเป็นกรณีส่วนบุคคล ซึ่งการให้ข่าวของหลวงปู่เดือนชัย ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของท่านเช่นกัน แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่อาตมาให้สัมภาษณ์
ทั้งนี้อาตมาไม่ใช่หมอดู ไม่ได้ทำนาย แต่พูดจากญาณที่อาตมารับรู้ได้ ประกอบกับความคืบหน้าของการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อาตมาพูดว่าคดีน้องชมพู่จะจบภายในวันที่ 28 มิถุนายน 63 หมายความว่า ตำรวจจะรวบรวมหลักฐานทุกอย่างได้ครบภายในวันนั้น แต่จะประกาศว่าสิ้นสุดคดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ อาตมาเชื่อว่าไม่มีคดีใดในโลกที่จะปิดไม่ได้
โดยในขณะนี้ ดวงจิตของน้องชมพู่ได้ก้าวไปสู่อีกภพภูมิแล้ว ซึ่งก้าวไปตั้งแต่หลังเสียชีวิต และไม่ได้ข้องเกี่ยวหรือมายุ่งกับเรื่องทางโลก ขณะนี้น้องชมพู่มีความสุขดี มีความสุขที่พ่อแม่ปลูกต้นชมพู่เพื่อระลึกถึง น้องชมพู่รับรู้ว่ามีความรักจากพ่อแม่ส่งไปให้
อย่างไรก็ดี หลวงพ่อนิ้งหน่อง ยังพูดถึงความรักของแม่น้องชมพู่ ผ่านกลอนซึ่งแฝงการบอกใบ้ถึงคดีเอาไว้ด้วย “รักดาษดื่นหมื่นแสนนั้นคือแม่ รักแน่แท้พิสุทธิ์สุดผ่องใส รักของแม่ชมพู่เหนือสิ่งใด รักห่วงใยคือลูกว่าผูกพัน รักคนรักนั้นยังไม่ยั้งยืน รักสหายพงษ์ญาติอาจแปรผัน รักสินทรัพย์อาจสลายมลายพัน รักของแม่ชมพู่นั้นมั่นอยู่คู่ฟ้าดิน”
โดยหลวงพ่อนิ้งหน่อง ได้สวดมนต์ทำวัตรเย็นและได้แสดงธรรมเทศนาถึงญาณน้องชมพู่ พร้อมบอกว่า อาตมาก็อยากจะบอกกับผู้กระทำผิดว่า อาตมารู้อยู่แก่ใจ ความลับไม่มีในโลก หวังว่าผู้กระทำผิดจะยอมรับผิดในเรื่องของทางโลก ไม่คิดสั้นรับกรรมหลังความตาย
ทีมข่าวยังได้สอบถามเกี่ยวกับของกลางที่ตำรวจยึดได้จากนายสงบ หลวงพ่อนิ้งหน่อง บอกว่ากระดาษที่เขียนด้วยตัวอักษรสีแดงคือ “เดรัจฉานวิชา” ซึ่งหมายถึงพวกวิชามนตร์ดำทำเสน่ห์ของขลังต่าง ๆ ดังที่ตำรวจตรวจพบเส้นผม และสิ่งคล้ายเครื่องรางจากนายสงบ โดยที่นายสงบ บอกว่าเป็นคำที่เขียนขึ้นตามเสียงที่ได้ยิน ก็อาจจะเป็นไปได้ เนื่องจากเดรัจฉานวิชาบางครั้งก็ส่งผลให้คนคนนั้นเสียสติ บางครั้งก็มีสติ บางครั้งก็ไม่มี
ภายหลังจากที่การให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น พระนิ้งหน่อง กระซิบผู้สื่อข่าวว่า คนร้ายในคดีของน้องชมพู่ คือ คนที่เคยปรากฎเป็นข่าวไปแล้ว โดยคนร้ายรายนี้ได้อุ้มน้องชมพู่และใช้มือปิดปากน้องชมพู่ไว้ หวังว่าจะพาไปข่มขืน แต่น้องชมพู่นั้นขาดใจสิ้นใจเสียชีวิตไปก่อน คนร้ายจึงนำร่างของน้องชมพู่ไปทิ้งตามที่ปรากฏในข่าว