จากกรณีการหายตัวของ เด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพัก หมู่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. 63 จนกระทั่งพบศพอยู่กลางป่าบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 4-5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่เร่งเก็บหลักฐานหาตัวคนร้าย ซึ่งคาดว่าเป็นคนในหมู่บ้าน และจากคำกล่าวอ้างจากพยานพบจักรยานยนต์สีบรอนซ์-ดำ เป็นผู้ต้องสงสัยนั้น
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
วันที่ 27 มิ.ย. 63 นางสายสมร แสนทะวงศ์ ภรรยานายโชติช่วง เปิดเผยว่า วันที่ 10 พ.ค. 63 ตนเองเห็นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟเก่า สีบรอนซ์-ดำ
มีคนขับเป็นชายสูง เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ หมวกปกปิดใบหน้า จอดรถอยู่ในป่ายาง ห่างบ้านชมพู่ราว 100 เมตร อยู่ตรงต้นยางแถวที่ 4 ต้นที่ 4
จากนั้น ก็เดินมุ่งหน้าเดินขึ้นภูเหล็กไฟไป ซึ่งตนกำลังอาบน้ำให้ลูกที่หน้าบ้านก็มองเห็น แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นคนร้าย เข้าใจว่าเป็นคนมาหาของป่า
จากนั้น วันที่ 11 พ.ค. 63 ตนเองเห็นรถหลายคัน มีรถคันหนึ่งจอดอยู่ เป็นรถฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์-ดำคันเหมือนเดิม จอดอยู่ที่เดิม แต่ตนไม่เห็นคนขับ รวมทั้งวันนั้นมีรถจักรยานยนต์คนอื่นเยอะ เพราะมีคนมาตามหาน้องชมพู่กันเยอะ
จากนั้นจนค่ำ ตนก็เห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ แต่ไม่รู้ว่าขับออกไปตอนไหน เพราะเช้ามาตนก็ไม่เห็นแล้ว แต่รถคันที่ตนเห็นตนไม่คุ้นว่าเป็นของใคร ส่วนรถของนายนริน ตนเองไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น รู้แค่ตามข่าว เพราะก่อนหน้านี้ตนไม่เคยเจอ ไม่เคยคุย รู้ว่าเป็นน้องของนายอ๊อดเท่านั้น
ทีมข่าวเดินทางสำรวจหมู่บ้าน เพื่อหารถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์-ดำ จนกระทั่งพบว่ามีนายฤทธิ์ เชื้อคมตา พี่ของนายนริน เป็นเจ้าของรถ, นายวัชรินทร์ หรือ พ่อแบม และนายเบิร์ด (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ช่างประปา
นายฤทธิ์ เชื้อคมตา พี่ชายนายนริน ระบุว่า ตนเองมีรถฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์-ดำ ส่วนใหญ่ตนและภรรยาจะเป็นคนขับ วันที่เกิดเหตุ 11 พ.ค. 63 ตนเองก็ยังไปช่วยค้นหาชมพู่ โดยไทม์ไลน์ของตน เมื่อ 11 พ.ค. 63 ตั้งแต่ 04.00 น. ตนเองออกไปกรีดยางที่สวนตรงข้ามบ้าน จนถึง 06.00 น. จากนั้นกลับมาพักที่บ้าน ก่อนจะออกไปหยอดน้ำกรดที่สวนเดิม จนถึงช่วง 08.00 น. ตนก็ออกไปที่นา ซึ่งห่างออกไปราว 2 กิโลเมตร จากนั้นก็เข้าบ้านมาช่วงใกล้เวลา 10.00 น. เมื่อถึงบ้านตนก็อาบน้ำกินข้าว และออกจากบ้านเพื่อเข้าไปในหมู่บ้าน
เมื่อตนเข้าไปในหมู่บ้าน เจอกับพ่อแบมบอกตนว่าน้องชมพู่หาย ตนเองก็ออกไปตามหา และเดินไปที่บ้านน้องชมพู่ ซึ่งตอนนั้นพ่อแม่น้องชมพู่ไปหาหมอดู ตนก็หาช่วยหาจนถึงช่วง 16.00 น. ส่วนตัวยอมรับว่าตนมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีบรอนซ์-ดำ แต่ตนไม่เคยเอาไปจอดที่บ้านน้องชมพู่ หรือป่ายางหลังบ้าน
วันที่ 12-14 พ.ค. 63 ตนเองก็ออกไปตามหา ตั้งแต่เช้าจนถึง 16.00 น. ออกไปตามหาทุกทางทั้งหลังบ้าน ป่ายาง ส่วนนายนริน เป็นน้องตนเอง กับคดีอนาจารเด็กและคดีน้องชมพู่ ตนเชื่อว่าไม่ได้ก่อเหตุ ทั้งนี้วันที่ค้นหาชมพู่ ตนเองก็ไม่เห็นนายนรินทั้งวัน ก็คงตอบไม่ได้ว่านรินก่อเหตุจริงหรือไม่
นายวัชรินทร์ หรือ พ่อแบม ผู้ที่รถจักรยานยนต์เวฟบรอนซ์-ดำ เปิดเผยว่า ตนเองมีรถเวฟสีบรอนซ์-ดำ มาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งไม่ได้ขับรถเวฟในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค. 63 เพราะวันที่ชมพู่หาย ตนเองขับรถจักรยานยนต์ลูกสาวเข้าไปจอดที่ต้นจำปาในซอยบ้านชมพู่ รถของตนก็จอดอยู่บ้าน ส่วนวันที่ 10 พ.ค. 63 ตนเองก็อยู่บ้านของนายบอส (นามสมมติ) ไปทำบ้านกันอยู่ทั้งวัน
จากนั้นวันที่ 11 พ.ค. 63 ตนเองก็อยู่บ้าน จนถึงช่วง 11.00 น. ก่อนออกไปตามหาน้องชมพู่ ส่วนตัวไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครผิดแปลกหรือไม่ แต่ไม่เห็นรถของนายนริน รวมทั้งไม่เห็นนายนรินทั้งวัน และไม่เห็นใครปั่นจักรยาน
ส่วนนายนรินนั้นนเองก็รู้จักกัน ไม่ถึงขั้นสนิทมาก นายนรินเป็นคนไม่ค่อยออกไปไหน ชอบอยู่ในป่า หาของป่า เวลาคนมาถามแล้วตอบไม่ตรงกัน ตนเองคิดว่านายนรินอาจจะตกใจ และตอบอะไรผิด ๆ ถูก ๆ ซึ่งนายนรินไม่คุ้นเคยกับคน
จากนั้น ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร นายเบิร์ด (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ช่างประปาประจำหมู่บ้าน ที่มีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีบรอนซ์-ดำ เปิดเผยว่า ตนไม่เคยเอารถไปจอดในสวนยางของนายแต ในช่วงที่น้องชมพู่หายไป เนื่องจากในวันที่ 11 พ.ค. ที่น้องชมพู่หายไป รถมอเตอร์ไซค์ของตนยังเสียอยู่ในสภาพเก่า ยางรั่ว ใช้งานและขี่ไปไหนไม่ได้
ซึ่งตนได้ซ่อมและประกอบใหม่ในวันที่ 14 พ.ค. และนำไปขับเป็นครั้งแรกในวันที่ 15 พ.ค. ซึ่งหลังจากประกอบเสร็จ ตนก็ไม่เคยเอาไปขับในสวนยาง จะเอาไปขับบนถนนใหญ่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตนไม่เคยสวมชุดดำเดินเข้าไปในสวนยางหลังบ้านน้องชมพู่ และแม้จะมีกระแสข่าวว่าจะมีเรื่องรถเวฟสีบรอนซ์-ดำจอดในสวนยาง ก็ไม่ได้สร้างความกังวลให้ตน
โดยพบผู้ที่มีรถจักรยานยนต์สีบรอนซ์-ดำ เป็นของนายฤทธิ์ เชื้อคมตา พี่ของนายนริน เป็นเจ้าของรถ, นายวัชรินทร์ หรือ พ่อแบม และนายเบิร์ด (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ช่างประปา ซึ่งทั้งหมดยืนยันว่าไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องกับคนร้าย และไม่ได้ขับขี่ไปที่บ้านของน้องชมพู่
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากนางสายสมร พบคนขับจักรยานยนต์สีบอรนซ์-ดำ คนขับเป็นชายสูง เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ หมวกปกปิดใบหน้า จอดรถอยู่ในป่ายาง ห่างบ้านชมพู่ราว 100 เมตร อยู่ตรงต้นยางแถวที่ 4 ต้นที่ 4 ซึ่งตรงกับข้อมูลของเด็กในหมู่บ้านที่บอกว่าพบผู้ต้องสงสัยแต่งกายด้วยชุดสีดำเช่นกัน
ทีมข่าวจำลองเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ ขับขี่ความเร็วราว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผ่านซอย 3 ไปยังสวนยางหลังบ้านน้องชมพู่ ข้างทางเป็นป่า จากนั้นข้ามถนนหลักของหมู่บ้านเข้าซอยที่ 3 พบว่าไม่มีคนอยู่บริเวณบ้าน ซึ่งไม่มีใครเห็นทีมข่าวไปจรดท้ายซอย จุดท้ายซอยลับตาคนมาก เพราะไม่มีบ้านคน จอดรถที่ป่ายางต้นที่ 4 ของแถวที่ 4 ใช้เวลารวม 1.30 นาที
จากนั้น ทีมข่าวเดินเท้าต่อไปถึงตีนเขา ซึ่งเดินไปถึงจุดถังพักน้ำท้ายหมู่บ้าน ใช้เวลารวม 3.40 นาที จุดนี้จะไม่ผ่านบ้านคน