“เจ้านาย จินเจษฎ์” รับกดดันหลังรับงานละครครั้งแรก ! แฮปปี้มีสาวข้างกายแต่ยังไม่พร้อมเรียก “แฟน”

ช่วงนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น หลายๆอย่างเริ่มปลดล็อคมากขึ้น คนบันเทิงก็เลยได้กลับมาทำงานกันอีกครั้ง อย่างวันที่(30 มิถุนายน 2563) ที่ผ่านมา น้องเจ้านาย จินเจษฎ์ ลูกชายคนโตของบ้านวรรธนะสิน ก็มีคิวถ่ายเอ็มวีเพลงใหม่ ที่เจ้าตัวแต่งเอง เพื่อนำไปเป็นเพลงประกอบละครที่ตัวเองเล่นด้วยอย่างเรื่อง ฉลาดเกมส์โกง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “เธอมีเขา” New Single ของ”เจ้านาย จินเจษฎ์”
- “เจ้านาย” แฮปปี้มีสาวข้างกายแต่ยังไม่พร้อมเรียก “แฟน”

โดยในระหว่างที่กำลังถ่ายทำกันอยู่ดีๆ ก็มีเซอร์ไพรส์จากทีมงาน ยกเค้กมาให้น้องเจ้านาย ฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ 19 ปี ย้อนหลัง เจ้าตัวก็ดูตกใจสุดๆ ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว

หลังจากนั้นก็ได้มาให้สัมภาษณ์ถึงเพลงใหม่ กับเพลงโกงรักไม่ได้ ที่เจ้าตัวมาถ่ายเอ็มวีในวันนี้ โดย น้องเจ้านายบอกว่า ใช้เวลาแต่งถึง 3 วันเลยทีเดียว เรียกว่าทุ่มสุดตัว ซึ่งจากปล่อยให้ได้ฟังพร้อมกับละคร

ในส่วนของการเล่นละครครั้งแรกในชีวิต เจ้านาย ยอมรับตรงๆเลยว่า กดดันมาก เพราะเรื่องนี้เคยเป็นหนังมาก่อน จึงกลัวถูกนำไปเปรียบเทียบ อีกทั้งบทยังยากมาก เพราะต่างจากตัวเองอย่างสิ้นเชิง ทำให้ต้องปรึกษาคุณพ่อคุณแม่อย่างหนัก หากออนแอร์ไปแล้วกระแสจะเป็นยังไงก็รับได้หมด เพราะตนเต็มที่ที่สุดแล้ว

สุดท้าย เจ้านาย ก็ได้อัปเดตถึงสาวคนสนิทที่กำลังคุยๆอยู่ว่า ยังแฮปปี้เหมือนเดิม แต่ยังไม่พร้อมขยับสถานะเป็นแฟน รวมถึงยังไม่ได้พาไปเจอครอบครัว เพราะอยากจะรอให้ชัวร์กว่านี้ก่อน หากเปิดตัวจริงๆก็ได้แต่หวังว่าแฟนคลับจะเข้าใจ

วันนี้มาถ่ายเอ็มวีเพลง ?
“ เป็นเพลงที่แต่งเองครับ ประกอบละคร bad genius ที่กำลังจะออกอากาศ “
 
เพลงนี้แต่งเองด้วย ?
“ ก็ทุ่มสุดตัวมาก ๆ เป็นเพลงที่ตรงกับคอนเสปต์ที่ทุกคนต้องการ “
 
แนวเพลงเป็นอย่างไร ?
“ เป็นเพลงช้า ๆ ซึ้ง ๆ เล่าเรื่องจากตัวละคร “
 
ใช้เวลาในการแต่งนานแค่ไหน ?
“ จำได้ว่าสามวันครับ แล้วก็ได้กลับมาร่วมงานกับวง Kidnappers วงเก่าของแม่ มีเสียงแม่ในเพลงนี้ด้วยนะครับ ก็รู้สึกสนุกเพราะเป็นการทำงานอีกแบบหนึ่งกับผู้ใหญ่ที่เราชื่นชอบ “
 
เหมือนเราได้ประสบการณ์ในการโตขึ้นไหม ?
“ โตขึ้นด้วยครับ พอเราเริ่มได้รับบรีฟ มันทำให้เราต้องคิดมากขึ้น ในการแต่ง “
 
เพลงประกอบละครมันยากกว่าเพลงที่เราแต่งทั่วไปอย่างไร ?
“ มันคนละฟิลลิ่ง เพราะเราแต่งตามที่เขาบรีฟมา   แต่โชคดีที่เราได้ไปเล่นเป็นตัวละครมาแล้ว  ก็เลยไม่ยากเท่าไหร่ครับ “
 
แสดงว่าเราต้องใส่อินเนอร์เข้าไปใช่ไหม ?
“ ใส่อินเนอร์ทุกเพลงเลยครับ “

 
อย่างเพลงต้องสื่อความหมายอะไรบ้าง ?
“ เพลงนี้เล่าในมุมความรักของตัวละครของเราที่ชื่อแบงค์ ซึ่งจะได้เห็นกันในมุมที่คนดูจะไม่คิดว่าจะได้เห็นในตัวแบงค์  “

อย่างเอ็มวีวันนี้มาถ่ายเป็นยังไงบ้าง ?
“ ก็เท่าที่เห็นด้านหลัง ผมพูดได้แค่นี้ “
 
เพลงนี้จะได้ฟังเมื่อไหร่ หรือรอปล่อยพร้อมละคร ?
“ เพลงนี้ผมว่าน่าจะปล่อยตอนละครปล่อยแล้วครับ ก็น่าจะมาไล่ ๆ กัน “
 
เรื่องนี้ได้มาทำอะไรครั้งแรกพร้อม ๆกัน ทั้งเล่นละครแล้วก็แต่งเพลง ?
“ เรื่องนี้ได้เล่นละครครั้งแรก แต่งเพลงเอง ก็รู้สึกสนุกที่ผ่านมาได้เจอพี่ ๆ ทีมงานผู้กำกับและกับนักแสดงคุณภาพ ที่เราอยากร่วมงานมานานมาก ๆ พอได้โอกาสมาก็คว้าไว้ ทำให้เต็มที่ “
 
การเล่นละครเรื่องแรกเป็นอย่างไรบ้าง ?
“ ถามว่ากดดันไหม ผมพูดได้เลยว่ากดดัน เพราะเรื่องนี้เป็นหนังมาแล้วด้วย แล้วต้องไปเล่นกับอีกหลายคน ผมกลัวต้องโดนไปเปรียบเทียบ ไปวัดกับเขา แต่พอได้เล่นจริง ๆ  มันออกแนวการเล่าเรื่องละครของแต่ละคนที่มาเจอกัน “
 
อะไรที่ยากที่สุด ?
“ การตื่นเช้าครับ (หัวเราะ) พูดเล่นๆ ผมว่าเป็นการจูน มากกว่า เพราะตัวละครค่อนข้างจะแตกต่างจากตัวเจ้านายมาก ๆ “
 
เจอฉากหินบ้างไหม ?
“ มีครับ เดี๋ยวรอดู “

เราต้องเรียนแอ็กติ้งเยอะขนาดไหนหรือมีคุณแม่คอยสอน ?
“ ทางจีดีเอชได้เตรียมเวิร์กช็อป แล้วก็มีแอ็คติ้งโค้ช ที่มาช่วยดูแล และเพื่อน ๆ ในกองก็มาช่วยกันแนะนำกัน “

ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ไหม ?
“ ปรึกษาตลอดครับ พ่อแม่ว่าต้องทำยังไง เพราะแรก ๆ เราก็ไม่เข้าใจศาสตร์ของการร้องไห้เลย มันมีมากกว่านั้น  ก็ต้องไล่ระดับอารมณ์ เข้าใจบท “

คุณแม่สอนเรื่องการร้องไห้ไหม ?
“ จริง ๆ แม่ให้คำแนะนำอยู่ห่าง ๆ เพราะอยากให้เราไปลุยเองมากกว่า แต่มาเน้นเรื่องการจำบท “
 
กดดันไหมที่แม่เราเป็นนักแสดงเจ้าน้ำตา ?
“ ไม่กดดันครับ เพราะมันผ่าน process มาตั้งแต่แรก ได้ดูมานิดหน่อยแล้ว รู้สึกว่ามันแตกต่างจากเราเหมือนกัน “
 
พอได้มาลองงานละครรู้สึกชอบไหม ?
“ ชอบครับ  แต่ตอนนี้ขอกลับมาร้องเพลงก่อน “
 
เรื่องนี้จะแตกต่างจากหนังอย่างไรบ้าง ?
“ ผมว่ามันก็โคกัน มันก็เล่าไปด้วยกัน เส้นเรื่องคล้าย ๆ กัน แต่ขยายขึ้น ยาวขึ้น  เจาะลึกมากขึ้น “
 
ตอนนี้มีใครทาบทามเรื่องต่อไปหรือยัง ?
“ ผมยังไม่รู้ครับ “

เราติดใจไหม ?
“ ผมชอบนะ แต่ว่าตอนนี้ขอร้องเพลงก่อนดีกว่า “
 
แอบคาดหวังกระแสไหม ?
“ เราเต็มที่กับงานนี้มาก ๆ  เพราะฉะนั้นกระแสจะมาอย่างไร ผมแฮปปี้กับมัน “

ถ่ายไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ?
“ ตอนนี้ถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว “

มีโอกาสได้ดูบางส่วนหรือยัง ?
“ ได้ดูไปนิดเดียวครับ “
 
ในความรู้สึกที่ได้ดูภาพบางส่วนจากในละครไปแล้ว พอใจไหม ?
“ ผมถ่ายจบปุ๊บ ผมกลับไปเรียนที่นู่นเลย ก็เลยไม่ได้สัมผัสอะไรมาก ก็รอลุ้นดูวันเดียวกันเลยครับ “
 
ฝากแฟน ๆ ทั้งเพลงและละคร ?
“ ผมฝากเพลงประกอบละครด้วยนะครับ  เพลง โกงรักไม่ได้  ประกอบละคร ฉลาดเกมส์โกง ก็อยากให้ทุกคนติดตามกันด้วย   ผมตั้งใจมาก ๆ ครับ  ฝากละครด้วยครับ อยากให้ทุกคนดูกันครับ เต็มที่มากๆทั้งผมและนักแสดงหลาย ๆ ท่าน รวมถึงทีมงานทุก ๆ คนครับ   น้องแบงค์ฝากด้วยนะครับ “

วันเกิดที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง?
“ ก็ได้ไปนั่งทานข้าวกับครอบครัว น้องๆให้ของขวัญ เป็นปีแรกที่น้องๆควักตังค์ซื้อ เจ้าสมุทรยังติดผมอยู่แต่ผมจะไม่ทวง เจ้าขุน ผมแลกกันไปแล้วเพราะเค้าเกิดวันที่9 ก็ถูกใจ เป็นอะไรอุบไว้ดีกว่า”

เป็นไงบ้างกับช่วงชีวิตวัยนี้?
“ ก็ยังเรียนอยู่ครับ แต่จะเริ่มหันมาทำเพลงจริงจังมากขึ้นปีนี้ค่ายเพลงใหญ่ขึ้น ศิลปินใหม่ๆเต็มเลย”

เราเป็นผู้บริหารค่ายเลยใช่ไหม?
“ผมก็ยังไม่อยากใช้คำนั้น ผมคอยดูแนวใหม่ เพราะอยากสร้างเจนนักร้องศิลปินใหม่ที่ไม่ยุ่งกับใคร ปล่อยเพลงมีความสุข”

ต้องกลับมาไทยบ่อยขึ้นไหม?
“ด้วยที่มหาวิทยาลัยให้ผมกลับมาได้นานกว่าเดิม ผมเซ็ตแล้วว่าปีนี้ทำอะไรบ้าง อาจจะอยู่โน่น2เดือน กลับมา1เดือน”

สถานการณ์โควิด-19ทำให้ตารางเปลี่ยนไหม?
“จริงๆมันก็เรียนออนไลน์ได้ แต่ผมว่าอยู่นี้ก่อนแล้วก็เรียนออนไลน์ไปก่อนดูให้มันนิ่งก่อน ยังไม่มีกำหนดกลับ”

คิดว่าในอายุ 19 ของเราโตไวกว่าคนอื่นไหมทั้งเรียนทำงานเป็นผู้บริหารค่าย?
“มันก็เป็นอย่างนี้มาตลอด แต่คำว่าผู้บริหารนี่ก็เขินนิดๆนะ(ยิ้ม) เราทำงานตั้งแต่เล็กและได้เจอพี่ๆผู้ใหญ่ที่ให้คำแนะนำมาเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นอาจจะซึมซับได้เร็วกว่าคนอื่น”

ส่วนตัวเราคิดว่าโตกว่าอายุไหม?
“ไม่รู้อันนี้ต้องถามคนอื่น ถ้าเปรียบกับเพื่อนวัยเดียวกันเค้าก็เรียนเหมือนผมนะแต่ผมแค่มีงาน ได้ปล่อยเพลง”

ไม่ได้รู้สึกว่าช่วงเวลาการเป็นวัยรุ่นของเราหายไป?
“ไม่ครับ ตอนแรก ผมคิดอย่างนั้นตอน16-17 แต่ตอนนี้คิดว่าเรายังมีเวลาสนุกอีกเยอะ เพราะฉะนั้นผมไม่รีบ ตักตวงให้มากที่สุด”

เพื่อนที่เมืองนอกว้าวไหมที่เห็นเราทำงานแบบนี้?
“เขาเฉยๆนะกับการที่เราเป็นโน่นเป็นนี่ เป็นคนดีเป็นเพื่อน รักกันก็พอ”

มีแต่เพื่อนรักแล้วคนรักมีบ้างหรือยัง?
“ก็มีคนคุยเหมือนวันนั้นที่ผมบอก เหมือนเดิมครับชีวิตผมแฮปปี้มากๆตอนนี้”

กับคนที่คุยพัฒนาขึ้นขนาดไหน?
“เอาเป็นว่าตอนนี้มีความสุขมาก”

ยังเรียกแฟนไม่ได้เนอะ?
“อย่าเลยๆ(ยิ้ม)”

เป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ?
“คนไทยครับๆ สุดท้ายก็คนไทยครับ”

เจอกันที่ไหนยังไง?
“เป็นเพื่อนกันครับ ในวงๆเป็นเพื่อนของเพื่อน เป็นคนนอกวงการ”

พ่อเจแม่ปิ่นโอเคไหม?
“ผมยังไม่พาไปเจอเลย”

หวั่นๆอยู่หรือยังไง?
“ผมแฮปปี้มากตอนนี้(หัวเราะ) แต่พ่อแม่รับรู้ครับ”

คุยนานหรือยัง?
“ก็ซักพักแล้วครับ ผมพูดแค่นี้ดีกว่า”

พ่อเจแม่ปิ่นแฮปปี้ไหม?
“พ่อเจแม่ปิ่นเป็นพ่อแม่ที่ให้ลูกไปเจอเอง ลูกรักใครพ่อแม่รักด้วย”

แอบปรึกษาไหม?
“มันก็มีเรื่องที่ปรึกษาพ่อได้ ปรึกษาแม่ได้”

พ่อเจเคยพูดว่าถ้ามีก็อยากให้พามาเจอ?
“ใช่ๆ แต่ผมอยากให้ชัวร์ๆก่อนไง(หัวเราะ)”

ถ้าชัวร์แล้วพร้อมเปิดตัวไหม?
“คือผมคิดไว้แล้วแหละว่ามันไม่จำเป็นต้องมาลงไอจีว่านี่แฟนผมครับ แต่ก็ไม่ได้ปิด ออกไปเดินก็เจอได้ ใช้ชีวิตธรรมดา”

เป็นสาวคนพิเศษของเจ้านายทำให้เขาวางตัวยากไหม?
“ด้วยความที่เขาไม่สนใจว่าผมเป็นเจ้านายเป็นนักร้อง ก็โอเค”

กลัวแฟนคลับมีปัญหาไหม?
“ผมว่าแฟนคลับเข้าใจ”

อายุไล่เลี่ยกันไหม?
“เท่ากันครับ”

แฮปปี้เนอะ?
“แฮปปี้มากครับ”