จากกรณีน้องโอม อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 พลัดตกน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โดยเหลือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าเพียงแค่รองเท้า ซึ่งเหตุเกิดหลังจากที่น้องกลับจากโรงเรียนที่เปิดเทอมได้เพียง 2 วัน
โดยทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท สนง.ปภ.และชาวบ้านออกเรือทำการค้นหาทั้งกลางวันและกลางคืน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค.63 จนถึงขณะนี้ก็ยังไร้วี่แววนั้น
ล่าสุดเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ก.ค.63 นายชาลี แก้วดี พ่อของน้องโอม เปิดเผยด้วยน้ำตาว่า น้องโอมเป็นลูกชายคนเดียวที่ตนมี และเพิ่งไปโรงเรียนหลังเปิดเทอมได้เพียง 2 วัน ซึ่งปกติแล้วน้องโอมจะไม่เคยลงมาเล่นใกล้น้ำเลย ช่วงเกิดเหตุหลังจากน้องโอมกลับจากโรงเรียน ก็เปลี่ยนเสื้อผ้ามาเล่นกับเพื่อน ไม่นานก็มีคนวิ่งไปบอกว่าน้องโอมจมน้ำ ตนวิ่งมาดูก็ไม่พบร่องรอยของน้องแล้ว
พ่อและยายของน้องโอมยังจุดธูปบอกน้องโอม วอนแม่คงคาช่วยให้นำร่างของน้องโอมให้โผล่ขึ้นเหนือน้ำ ขณะที่บรรยากาศบ้านของน้องโอม บรรดาญาติ ๆ ยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า
โดยเฉพาะนายชาลี ที่ยังคงทำใจรับไม่ได้กับการจากไปของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่กำลังอยู่ในวันน่ารัก ซึ่งคุณพ่อมีน้ำตาซึมคลอเบ้าอยู่ตลอดเวลา แม้จะรู้ว่าน้องจากไปแล้ว แต่ถ้าปาฎิหารย์มีจริง ขอตายแทนลูกเพื่อให้ลูกกลับมาก็ยอม
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับชาวบ้านในละแวกนั้นสอบถามถึงกรณีเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติคือ "พรายน้ำ" ที่หลาย ๆ คนเคยเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น
นายชูชาติ ดีที่สุด อายุ 57 ปี เปิดเผยว่า หลายปีก่อนตนเคยปักเบ็ดริม ๆ หาดทรายใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทำเป็นปกติ แต่พอปักไปได้ 4-5 อัน ท้องฟ้าและเส้นทางที่เดิน รวมไปถึงผืนน้ำ กลับไม่เห็นอะไรเลย เห็นเพียงภาพมืดดำ ในสายตาตอนนั้นนึกถึงเพียงพระที่อุปัชฌาย์ให้ ท่องบทสวดฝืนใจเดินไปก็ถึงทางขึ้นฝั่ง จึงรีบวิ่งกลับบ้านและไปทำบุญในตอนเช้า แล้วก็ไม่กล้าลงไปปักเบ็ดอีกเลย คาดว่าน่าจะเป็นผีพรายหรือผีบังตา พยายามลากให้ตนเดินลงไปในน้ำ เพื่อเอาตนไปอยู่ด้วย
ด้านนายสุพจน์ ไม้คำ อายุ 71 ปี กล่าวว่า เมื่อหลายสิบปีก่อน มีผู้หญิงผมยาวหน้าออกเขียว ๆ เหมือนโดนอะไรเข้าสิงพยายามว่ายน้ำข้ามฝั่ง แต่มาได้ถึง แค่กลางแม่น้ำก็จมดิ่งหายไป จนคนมาพบเป็นศพริมตลิ่ง
ส่วนอีกศพก็เป็นเด็กวิ่งเล่นน้ำแล้วพลัดตกจมหายไปต่อหน้าต่อตาชาวบ้านหลายคน ส่วนตัวคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ใครจะเชื่อหรือไม่ ควรใช้วิจารณญาณในการรับฟังและแยกแยะเอาเอง
นายณัฐวุฒิ ตั่งสินชัย ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.เมือง จ.ชัยนาท ระบุว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ทราบข่าว ก็รีบรุดเข้าทำการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นร่วมกตัญญู จ.ชัยนาท นักประดาน้ำ จ.อยุธยา จ.นครสวรรค์ จ.สิงห์บุรี ปฎิบัติหน้าที่ติดตามค้นหา หลังจากที่เด็กจมน้ำจนถึงเวลา 03.00 น. ซึ่ง ณ ขณะนี้เจ้าหน้าที่-ชาวบ้าน ก็ยังทำการค้นหา โดยการใช้เรือออกตระเวนดู รอบ ๆ บริเวณจุดเกิดเหตุ ไปจนถึงบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่พบร่างของน้อง
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหากครบ 24 ชั่วโมงก็น่าจะพบร่างของน้อง สุดท้ายนี้ตนอยากจะฝากถึงผู้ปกครอง ควรดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด เพราะหวั่นจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก โดยเฉพาะครอบครัวที่มีบ้านอยู่ติดแม่น้ำ
นางไพโรจน์ โอชา อายุ 63 ปี ย่าของเด็กที่จมน้ำ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่หลานจมน้ำ ซึ่งในช่วงเย็นวันเกิดเหตุ หลังจากที่หลานกลับมาจากโรงเรียน ก็เห็นหลานเล่นอยู่กับเพื่อนบริเวณลานหน้าบ้าน จากนั้นหลานบอกจะออกไปเล่นข้างนอกกับเพื่อน ตนจึงบอกให้รอก่อน เดียวกินหมากเสร็จจะออกไปด้วย เพราะตนจะต้องคอยดูหลานเล่นทุกวันอยู่แล้ว เนื่องจากหลานยังเล็ก
แต่หลานไม่ยอมฟัง พากันออกไปเล่นนอกบ้านก่อน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ห้ามอะไร เพราะปกติแล้วหลานกับเพื่อนจะไม่เคยลงไปเล่นใกล้ริมน้ำเลย เพราะหลานเป็นเด็กขี้กลัว แค่อาบน้ำรดหัว ยังร้องเลย แต่ขณะที่ตนเองกินหมากอยู่ไม่ถึง 5 นาที เพื่อนของหลานก็วิ่งมาบอกตนเองว่า "หลานชายจมน้ำ ให้รีบไปช่วย " เมื่อตนเองทราบเรื่องจึงรีบวิ่งไปดูหลานบริเวณริมแม่น้ำหน้าบ้านที่อยู่ห่างจากตัวบ้านประมาณ 200 เมตร แต่เมื่อไปถึงก็ไม่พบหลานอยู่แล้ว พยายามเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ