เมื่อวันที่ 8 ก.ค.63 นายเอก อายุ 46 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี พาน้องเมย์ ลูกสาววัย 5 ขวบ เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอช่วยติดตามคดีกรณีน้องเมย์ ถูกนายต้น อายุ 17 ปี พ่อเลี้ยงใช้ไฟแช็คลนที่บริเวณขาและอวัยวะเพศ จนผิวหนังพุพอง เป็นแผลหลายแห่ง
นายเอก บอกว่า ตนแยกทางกับนางแหม่มมาประมาณปีเศษ โดยตกลงกันว่าจะแบ่งเวลากันดูแลน้องเมย์ วัย 5 ขวบลูกสาวคนเดียวในวันจันทร์-ศุกร์ ลูกอยู่กับแม่ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ลูกจะอยู่กับพ่อ ต่อมานางแหม่มมีสามีใหม่ คือนายต้น อายุ 17 ปี อยู่กินกันที่บ้านนางแหม่ม ใน จ.สุพรรณบุรี
กระทั่งเมื่อปลายเดือน พ.ค.63 ได้ไปรับลูกมาอยู่ด้วย เห็นลูกมีอาการผิดปกติ ซึมเศร้า ไม่ร่าเริง และที่ผิวหนังบริเวณต้นขาหลังทั้งสองข้าง และอวัยวะเพศมีบาดแผลพุพองจากการถูกไฟลน ทั้งรอยเก่าและรอยใหม่ พอถามลูกก็ไม่ยอมบอกว่าไปโดนอะไรมา ตนจึงคิดว่าลูกอาจจะเล่นซน จากนั้นก็พาน้องเมย์ไปส่งคืนกับแม่
ต่อมาวันที่ 5 มิ.ย.63 ได้ไปรับน้องเมย์มาดูแลอีกครั้ง พบว่าบริเวณรอยเดิมที่เป็นแผลใกล้อวัยวะเพศยังไม่หาย และมีแผลใหม่เกิดขึ้นเพิ่มอีก ซึ่งนางแหม่มบอกว่า น้องเมย์อาจจะซุกซนไปนั่งทับยาจุดกันยุงจนเป็นแผล โดยใช้เวลาถามลูกอยู่นาน กว่าลูกจะยอมบอกว่า บาดแผลที่เกิดขึ้น เพราะถูกนายเอกพ่อเลี้ยงใช้ไฟแช็กลนต้นขา และอวัยวะเพศตอนที่นอนอยู่ในห้องกัน 2 คน เวลาที่แม่ไม่อยู่ เพราะนายเอกโมโห ที่น้องเมย์ปัสสาวะรดที่นอน ซึ่งตอนที่ถูกทำร้ายรู้สึกปวดแสบปวดร้อน แต่ต้องอดทน เพราะนายเอกข่มขู่ห้ามบอกใคร
กระทั่งพาลูกไปแจ้งความ ที่สภ.ศรีประจันต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ยังไม่ได้สอบสหวิชาชีพ จึงขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย
น.ส.นุ่น อายุ 34 ปี แม่น้องเมย์ ยืนยันแฟนใหม่ของตนไม่ได้ก่อเหตุ มั่นใจว่าลูกสาวน่าจะนั่งทับไฟแช็กจนเกิดแผลเอง เพราะปกติ ทุกคืนน้องเมย์จะเป็นคนจุดยากันยุงที่บันไดบ้านกับพี่สาววัย 15 ปี โดยเห็นแผลพุพองในช่วงเย็นของวันที่ 5 มิถุนายน เนื่องจากตนได้อาบน้ำให้ลูกสาว ก่อนจะพาลูกไปส่งให้ไปอดีตสามีดูแล ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นภายหลังขณะที่ลูกสาวไปอยู่กับผู้เป็นพ่อ
ทั้งนี้ แฟนใหม่เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ยุ่งกับใคร ถึงจะไม่ได้สนิทกับน้องเมย์ แต่ก็พูดคุยเล่นกันตามปกติ ประกอบกับแฟนใหม่ไม่ได้มีนิสัยโหดร้าย รู้สึกเสียใจมาก สงสารทั้งลูกและแฟน เนื่องจากอดีตสามีไปแจ้งความโดยไม่บอก