วันที่ 10 ก.ค.63 นางบุญงาม คันธนาลิต อายุ 60 ปี พร้อมนายกัณป์ชสาน รัตนะ ทนายความส่วนตัว ร้องขอความช่วยเหลือกับสื่อมวลชนหลังคดีความที่ลูกชายถูกบุกยิงกรอกปากเสียชีวิตอย่างอุกอาจ ต่อหน้ามารดา ทั้งยังประกาศศักดิ์ดาท้าทายให้แจ้งตำรวจ สาเหตุจากการทวงพระเครื่อง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2560 โดยมีร.ต.อ.บุญส่ง ยืนยง รอง สว.(สอบสวน)สภ.ห้วยใหญ่ เป็นเจ้าของคดี แต่ผ่านมานานกว่า 3 ปี คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นางบุญงาม เผยทั้งน้ำตาว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านมานานกว่า 3 ปีแล้ว ตนเองได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทวงถามความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมให้เบาะแสของคนร้าย แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงว่าจำหน้าคนร้ายได้หรือไม่ หากจับผิดตัวจะโดนฟ้องร้องดำเนินคดีได้ จนเมื่อปี 2562 ได้มาติดต่ออีกครั้งก็ยังไม่มีความคืบหน้าอีก จนตนเองเกิดความท้อแท้ ซึ่งผู้ก่อเหตุยังเป็นลูกหลานข้าราชการผู้มีอิทธิพล ตนเองคิดว่าเป็นสาเหตุให้คดีเงียบ
ส่วนในด้านหลักฐานนั้นตนเองจดจำใบหน้าผู้ก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน เพราะในวันที่เกิดเหตุลูกชายถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งตอนนี้คนร้ายก็ยังคงอยู่ในพื้นที่ ทำให้ตนเองเกิดความเกรงกลัว ต้องย้ายที่พักหนีไปเรื่อย ๆ เพราะเกรงว่าคนร้ายจะมาฆ่าปิดปากตามที่ได้ขู่ไว้
ด้าน พ.ต.ท.เอกรินทร์ สิกขากูล รอง ผกก.สืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ หลังทราบเรื่องได้รื้อคดีขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุยังไม่ได้ย้ายมาประจำการที่สภ.ห้วยใหญ่ ก่อนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายรายนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลคนร้ายแล้ว หากผู้เสียหายกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแล พร้อมให้คำมั่นว่าไม่ต้องเป็นห่วงยืนยันจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้อย่างแน่นอน