ลิงกัง เก็บมะพร้าวเปลี่ยนอาชีพหันมาเฝ้าศาลากลางจังหวัดป้องกัน ลิงแสม รื้อหลังคา
จากกรณีกรณีสหภาพยุโรปและองค์กรพิทักษ์สัตว์ (PETA) รณรงค์ไม่ให้ใช้กะทิแปรรูปจากประเทศไทย เนื่องจากมีการใช้กังในการเก็บผลมะพร้าวว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ ส่วนที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีการนำลิงกังมาเฝ้าศาลากลางเพื่อป้องกันการรื้อหลังคาของฝูงลิงแสมซึ่งเป็นปัญหามาช้านาน โดยศาลากลางหลังเก่าเป็นอาคารไม้ถูกลิงแสมเขาช่องกระจกที่มีอยู่กว่า 2,000 ตัว รื้อกระเบื้องหลังคาทิ้งลงพื้นฝาเพดานทะลุและเข้าไปรื้อค้นสิ่งของภายในสำนักงาน กระทั่งหน่วยงานต่างๆ ทยอยย้ายออกไปจากอาคารจนหมด
นายเอกดนัย ช่วยทิพย์ อายุ 27 ปี ชาวบ้านตำบลอ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาชีพรับจ้างนำลิงกังเฝ้างานกล่าวว่า ตนเลี้ยงลิงกังมากว่าสิบปี ซึ่งในละแวกบ้านตนเองนอกจากลิงกังที่ขึ้นมะพร้าวแล้วยังนำลิงกังมาเฝ้าตามงานสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่รอบข้างเขาช่องกระจกที่มีลิงแสมกว่าสองพันตัวมีการจัดงานประจำปี เช่น งานกาชาดจังหวัด งานวัดธรรมิการาม งานท่องเที่ยว งานเทศกาลออกพรรษา
แต่ละครั้งจะมีคาราวานร้านค้าหลายร้อยร้านประสบปัญหาคือ ลิงแสมจะลงจากเขาช่องกระจกรื้อทำลายสิ่งของภายในเต็นท์สร้างความเสียหายมาก ผู้จัดงานจึงจำเป็นต้องจ้างลิงกังเฝ้าอาณาบริเวณจัดงาน ซึ่งกลิ่นสาปของลิงกังส่งผลให้ลิงแสมไม่เข้าใกล้เพราะกลัวการถูกกัด เนื่องจากลิงกังมีลักษณะตัวใหญ่กว่าเขี้ยวแหลมคมและดุ
สำหรับศาลากลางหลังเก่าแห่งนี้ ทางจังหวัดได้ว่าจ้างลิงกังมาเฝ้าเป็นเวลา 3 เดือนเพื่อให้ผู้รับเหมาทำการปรับปรุงหลังคาและฝ้าเพดานให้แล้วเสร็จ โดยตนได้นำลิงกังมาประจำจุดที่ข้างศาลากลางทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกจำนวน 3 ตัวด้วยกัน พร้อมทั้งนำแผงเหล็กและเชือกมาล้อมบริเวณและเขียนข้อความระวังอันตรายลิงกังกัด เนื่องจากลิงกังจะมีความดุร้ายกับคนแปลกหน้าและบางครั้งมีคนมาแกล้งจนลิงกังเข้าทำร้ายซึ่งเป็นสัญชาติญาณป้องกันตัว
ส่วนการนำลิงกังมาเฝ้าศาลากลางคนเลี้ยงต้องมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย เพื่อไม่ให้ลิงกังรู้สึกเหงาหรือแปลกถิ่น และต้องคอยให้น้ำให้อาหารครบทุกมื้อโดยเฉพาะน้ำดื่ม ซึ่งลิงกังที่เลี้ยงไว้ชอบกินน้ำใหม่ทุกครั้ง เมื่อเทน้ำใส่ภาชนะก็จะกินแค่ครั้งเดียวและยกคว่ำเทน้ำทิ้ง ทำให้ต้องเทน้ำให้กินบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายสะสมความร้อนจากสภาพอากาศ