ช่วงดึกวันที่ 12 ก.ค. 63 พ.ต.ท.พรชัย ตรีอุดม สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย บริเวณบ้าซอย 19 บ้านเอื้ออาทรราชบุรี หมู่ 10 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี
ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือนายพรโรจน์ สรุปราษฎร์ หรือ เผือก อายุ 57 ปี เป็นเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันกับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยยืนรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองราชบุรี
ผู้บาดเจ็บ 4 ราย เป็นพ่อแม่ลูกและเพื่อนบ้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. ทราบชื่อคือ นายอนุชา อายุ 58 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด อาการสาหัส, นางอัมพร อายุ 48 ปี ภรรยาของนายอนุชา ถูกยิงเข้าท้อง 1 นัด อาการสาหัส, นายชาคริต อายุ 16 ปี ลูกชาย ถูกยิงเข้าท้อง 1 นัด อาการสาหัส และนางพัชรี อายุ 48 ปี เพื่อนบ้าน ถูกยิงที่เข่าซ้าย 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในเวลาต่อมานางอัมพร และนายชาคริต เสียชีวิตเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
เพื่อนบ้านเล่าว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุ ครอบครัวนายอนุชา ผู้บาดเจ็บ และนายเผือก ผู้ก่อเหตุ ได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารร้านเดียวกัน และเกิดมีปากเสียงกัน ครอบครัวของนายอนุชาจึงได้กลับมาบ้าน จากนั้นนายเผือกก็ตามกลับมาที่บ้าน และเปิดฉากยิงครอบครัวดังกล่าว
วันที่ 13 ก.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านเกิดเหตุ หมู่ 10 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี บ้านไม่มีผู้อยู่อาศัย เนื่องจากปกติจะอาศัยกันอยู่แค่ 3 คน พ่อแม่ลูก แต่ตอนนี้แม่และลูกเสียชีวิต ส่วนพ่ออาการสาหัส
นางดวง (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า วานนี้ เวลาประมาณ 23.00 น. ตนเองนอนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดัง แต่ไม่ได้ออกมาดู เพราะคิดว่าเป็นสามีภรรยาทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เอะใจ จากนั้นไม่นานตนเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเป็นจังหวะต่อเนื่องกัน 2 ช่วง ช่วงละหลายนัด ตอนนั้นก็ยังไม่กล้าออกมาดูเพราะกลัว
โดยนิสัยใจคอของครอบครัวทั้ง 3 คนก็เป็นคนดี ไม่เคยทะเลาะกับใคร แต่สองผัวเมียจะชอบทะเลาะกันเอง และตนก็สนิทกับครอบครัวดังกล่าวด้วย ไม่เคยพบว่ามีปัญหากับใคร อีกทั้งตนก็รู้จักและเคยเห็นหน้าทั้งครอบครัวคนก่อเหตุด้วย ก็เคยมาเล่นด้วยกันประจำ เพราะนายอนุชาเป็นเพื่อนกับคนก่อเหตุ ตนก็ไม่คาดไม่ถึงว่าจะทำกันแบบนี้
ทีมข่าวเดินทางไปที่ร้านอาหารที่คู่กรณีทะเลาะกัน นางสาวน้อย (นามสมมติ) เจ้าของร้านอาหาร เล่าว่า เวลาประมาณ 18.00 น. นายอนุชาพาภรรยาและลูกชายมาทานอาหาร ซึ่งเป็นจังหวะที่นายเผือก ผู้ก่อเหตุ มาร้านเดียวกันด้วย รนั่งคนละโต๊ะ แต่ทั้งคู่ก็ทักทายกันดี และยังชนแก้วเหล้ากันอยู่ กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. นางอัมพร ผู้เป็นภรรยา เห็นว่าสามีเริ่มเมาแล้ว จึงได้เรียกตนไปเก็บเงินค่าอาหาร พร้อมยังได้พาสามีจะพากลับบ้าน จากนั้นนายเผือกผู้ก่อเหตุ น่าจะมีอาการเมาเหมือนกัน ได้เดินเข้ามาใกล้กับนายอนุชา ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มีการฉุดกระชากกันของทั้งคู่ ท่าทางฉุนเฉียว และทะเลาะกันเสียงดัง สามีตนก็พยายามห้าม และให้กลับไป โดยสาเหตุมาจากนายอนุชาคงคิดว่านายเผือกจะทำร้ายภรรยาจึงได้ทะเลาะกัน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา นายพรโรจน์ ไว้ 3 ข้อหา คือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ซึ่งจะนำตัวส่งศาลพรุ่งนี้ พร้อมจะขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ
