เมื่อวันที่ 14 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่บ้านของน้องชมพู่ หมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ไปพูดคุยกับนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา และนายอนามัย วงศ์ศรีชา ซึ่งทั้งคู่มีสีหน้าที่อิดโรยและบอกกับทีมข่าวว่าไม่สะดวกให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ เนื่องจากเหนื่อยและต้องการพักผ่อน เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาสื่อบางสำนัก ได้นำเสนอข่าว โดยการสัมภาษณ์คนในหมู่บ้านที่อาจจะไม่หวังดี และพูดถึงเรื่องหนี้สินของครอบครัว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีการตายของน้องชมพู่ จึงไม่เข้าใจว่าสื่อสำนักนั้นนำเสนอข้อมูลนี้เพื่ออะไร
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
บรรยากาศที่บ้านน้องชมพู่ในวันนี้ ก็ยังมีสื่อปักหลักเฝ้าดูเหตุการณ์ และมีคนจากต่างพื้นที่มาเยี่ยม นั่งพูดคุยเพื่อให้กำลังใจกับครอบครัวของน้องชมพู่
นางสาวิตรี ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เมื่อวานได้พาน้องสะดิ้ง ไปพบอัยการและสหวิชาชีพเป็นครั้งที่ 3 ที่ในตัวจังหวัดมุกดาหาร เบื้องต้นเป็นการสอบปากคำเรื่องเดิม และสอบถามว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำให้การหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานนี้น้องสะดิ้ง ก็ยังให้ข้อมูลคงเดิมกับอัยการและเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ
โดยให้ข้อมูลว่า 1.ในวันเกิดเหตุน้องสะดิ้งไม่ได้หลับ 2.น้องสะดิ้งเล่นแอปฯ Tik Tok อยู่บนแคร่หน้าบ้าน ถึงเวลาประมาณ 09.45 น. และ 3.คาดว่าเวลาที่น้องชมพู่หายตัวไป น่าจะประมาณ 08.00 - 09.00 น.
นายจุมพล รักษ์บำรุง ชาวบ้านที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับคำว่า “พล” เป็นรายแรกของบ้านกกตูม ให้สัมภาษณ์ว่า หมู่บ้านของตนไม่มีคนชื่อ อำพล แม่แต่คนเดียว สำหรับตนเป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี และมีภรรยาที่บ้านกกตูม อยู่ที่บ้านกกตูม ได้กว่า 20 ปีแล้ว
ส่วนตัวก็ไม่รู้จักกับครอบครัวน้องชมพู่ เคยเจอน้องชมพู่ และนางสาวิตรีเป็นบางครั้ง ตอนที่มาทานข้าวที่ร้านของตน เนื่องจากตนเปิดร้านขายข้าวแกงปักษ์ใต้ และวันที่ 11 พ.ค.63 ตนก็ไม่ได้ไปแถวบ้านน้องชมพู่อีกด้วย ตนมารู้ว่าน้องชมพู่หายตัวไป ในช่วงบ่ายในที่ 11 พ.ค.63 และภรรยาตนก็ได้ไปช่วยออกตามหาน้องชมพู่เช่นกัน
ด้านนายพล เชื้อคมตา อดีตครูใหญ่บ้านกกตูม ให้สัมภาษณ์ว่า หมู่บ้านกกตูมไม่มีคนชื่ออำพล สำหรับตนเป็นครูใหญ่ที่เกษียณอายุราชการกว่า 10 ปีแล้ว ตนไม่รู้จักครอบครัวน้องชมพู่เป็นการส่วนตัว รู้จักแต่ตาชาญ ตาของน้องชมพู่ และก็รู้จักพ่อของนายอนามัย หรือปู่ของน้องชมพู่ ซึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อน เคยมาขอคำปรึกษาตนในเรื่องของคดี
ทั้งนี้ครูพล ยืนยันว่า ตนไม่เคยไปบ้านของน้องชมพู่ เคยแค่ขับผ่าน ถนนกลางหมู่บ้านเท่านั้น สำหรับวันที่ 11 พ.ค.63 ตนก็อยู่บ้านที่บ้านกกตูมทั้งวัน
ต่อมานายรัตนพล (สงวนนามสกุล) หนึ่งในชาวบ้านกกกอก ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า หมู่บ้านของตนไม่มีคนชื่ออำพล แม้แต่คนเดียว แต่คนที่ชื่อติดคำว่า “พล” นั้น ก็มีลุงพล และตนเอง จึงมีเพียง 2 คนเท่านั้น
นายรัตนพล เล่าต่อว่า วันที่ 11 พ.ค.63 ตอนเช้าตนไปทำงานส่งวัสดุก่อสร้างที่ อำเภอเต่างอย และเวลาประมาณ 10.00 น.ตนเองขึ้นมาส่งของที่บ้านกกกอกอีกครั้ง ก็มาทราบข่าวการหายตัวไปของน้องชมพู่ และจากนั้นตนเองก็ไปทำงานที่ อ.เต่างอย จ.สกลนครอีกเช่นเคย และก็มีเพื่อนร่วมงานเป็นพยานยืนยันได้ว่าตนทำงานอยู่
ทั้งนี้ตนไม่ได้มีความสนิทสนมกับครอบครัวน้องชมพู่ และเคยไปส่งวัสดุก่อสร้างที่ตรงข้ามบ้านน้องชมพู่ เมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา จากนั้นตนก็ไม่เคยไปบ้านน้องชมพู่อีกเลย อย่างไรก็ตามตนเป็นคนภูมิลำเนา บ้านจันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร และเพิ่งมาเป็นเขยที่บ้านกกกอก ประมาณ 4 ปี