ผกก.แจงคลิปลูกน้องดักจับ จยย.ฝ่ากฎคว่ำ 2 คันซ้อน โต้ด่านลอยแค่คว้าแฮนด์ บิดหนีล้มเอง (คลิป)

15 ก.ค. 63

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ก.ค.63 เฟซบุ๊ก “ช่างฟอร์ด บาร์เบอร์” โพสต์คลิปการตั้งด่านจับกุมรถจักรยานยนต์หน้าซอยอ่อนนุช 43 โดยขณะที่ทำการตั้งด่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดึงคนที่ขับรถจักรยานยนต์ผ่านด่าน ทำให้รถของประชาชนล้มลง ซึ่งปรากฎให้เห็นถึง 2 ครั้งด้วยกัน

446663817418

นอกจากนี้ภายหลังจุงทำให้คลิปดังกล่าว กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่

868747

ล่าสุดวันที่ 15 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนายจักรกฤษณ์ โนนทัน อายุ 24 ปี ผู้ถ่ายคลิป เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นช่างตัดผมอยู่บริซอยอ่อนนุช 43 มาได้ 1 ปี โดยตนมักจะเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง นำกำลังออกมาตั้งด่านอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยอ่อนนุช 43 อยู่เป็นประจำ (เดือนละ 3-5 ครั้ง) ซึ่งแต่ละครั้งที่ตำรวจมาตั้งด่าน เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งมักจะไม่อยู่ประจำด่าน แต่จะมาแอบดักตามซอยต่าง ๆ เช่น ซอยอ่อนนุช 43 เพื่อคอยจับรถจักรยานยนต์ และทำพฤติกรรมชอบดึง ฉุดรั้ง ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จนรถล้มอยู่บ่อยครั้ง หากใครแอบถ่ายคลิปวิดีโอ ตำรวจก็จะหนีกลับไป 

717361

โดยเมื่อวานนี้ ตนได้ไลฟ์เผยแพร่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งรถจักรยานยนต์คันแรกที่ถูกเจ้าหน้าที่ดึงจนล้ม เป็นรถจักรยานยนต์สีเหลืองที่ก่อนหน้านี้ขับย้อนศรเข้าไปในซอยอ่อนนุช 43 แล้วขับออกมาอีกครั้ง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดึง

ส่วนคันที่ 2 เป็นรถจักรยานยนต์สีดำ ที่ลงมาจากสะพานข้าม 4 แยก แล้วหักรถย้อนศรผ่านหน้าซอยอ่อนนุช 43 เจ้าหน้าที่จึงวิ่งเข้าไปดึงผู้ขับขี่จนล้ม

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่ารถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันทำผิดกฎจราจร แต่การที่ตำรวจวิ่งเข้าไปดึงผู้ขับขี่รถจักยานยนต์จนล้ม ตนคิดว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนได้ แล้วหากประชาชนเป็นอะไรไป ใครจะรับผิดชอบ ประชาชนคงจะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเอง ตนจึงอยากให้ตำรวจพิจารณาการตั้งด่านและการกระทำเช่นนี้ เพราะทำให้ประชาชนได้รับความบาดเจ็บ และทำให้ร้านค้าบริเวณนั้นขายของไม่ได้

257749

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง เพื่อพูดคุยกับ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บุญพูล ผกก.สน.พระโขนง ถึงกรณีที่เกิดขึ้น กล่าวชี้แจงผ่านทีมข่าวว่า ไม่ใช่ด่านลอย ด่านอยู่ห่างไป 100 เมตร รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันในคลิปทำผิดกฎจราจร คลิปไม่ได้ถ่ายไว้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ อยากให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของตำรวจ หากพบคนมีพิรุจต้องเข้าจับกุมพร้อมของกลาง เช่น อาวุธ ยาเสพติด 

ตนจึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1-2 นาย ไปยืนประจำจุดในซอยอ่อนนุช 43 และซอยอ่อนนุช 56 ตามยุทธวิธีการตั้งด่าน (ผู้ตรวจการหน้า) เพื่อสกัดจับผู้ขับขี่ที่ทำผิดกฎจราจรและผู้ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ซึ่งอาจมีสิ่งของผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง

159629

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผู้ที่ถ่ายคลิป ไม่ได้ถ่ายให้เห็นด่านตรวจที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร และไม่ได้ถ่ายให้เห็นว่ารถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันทำผิดกฎจราจร รถจักรยานยนต์คันแรกขับขี่รถย้อนศรวนเข้าไปในซอยอ่อนนุช 43 แล้วขับออกมาอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้หยุด แต่คนขับไม่หยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคิดว่าผู้ขับขี่มีพิรุจ

ส่วนรถจักรยานยนต์คันที่ 2 นั้นได้กลับรถหนีด่าน ตำรวจได้ข้ามถนนไปบอกให้ผู้ขับขี่หยุด แต่ผู้ขับขี่ไม่หยุด เจ้าหน้าที่กลัวว่าหากเอื่อมไปจับแฮนด์รถอีก จะทำให้รถจะล้มเหมือนคันแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเอื่อมมือไปจับท้ายรถจักรยานยนต์แทน แต่รถกลับเสียหลักล้มลง

ทั้งนี้ตำรวจได้ตรวจสอบวัดปริมาณแอลกอฮอล์และใบขับขี่ของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันแล้ว ไม่พบความผิดปกติ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ต่างฝ่ายต่างได้ปรับความเข้าใจกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนทั้ง 2 คนไปว่าอย่าทำผิดกฎจราจรอีก ก่อนจะปล่อยตัวไป

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บุญพูล ผกก.สน.พระโขนง บอกว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจทำรถจักรยานยนต์ของประชาชนล้มแบบในคลิป เพิ่งจะปรากฎให้เห็น ตนมักจะบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจใต้บังคับบัญชาเสมอว่าหากประชาชนทำผิดกฎจราจร เจ้าหน้าที่สามารถตามจับในภายหลังได้ แต่หากประชาชนคนใดมีพิรุจมีสิ่งของผิดกฎหมายในครอบครอง ให้จับในทันที 

เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ แต่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากประชาชนคนใดมีพิรุจ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องจับไว้ก่อน เคยจับยาบ้าได้ 20,000 เม็ด เพราะมีคนหนีด่านแบบในคลิป ตนเชื่อว่าหากประชาชนพิจารณาจากเหตุการณ์และสิ่งที่ตนพูดก็คงจะเข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้น และต้องขอโทษประชาชนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ประชาชนคิดว่าไม่เหมาะสมด้วย

ทั้งนี้ ผู้ที่เผยแพร่คลิปดังกล่าว ไม่มีความผิด เพราะคือการถ่ายทอดความจริง แต่เป็นความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น ตำรวจจะใช้คลิปนี้เป็นสิ่งที่นำไปปรับปรุงการทำงานต่อไป

advertisement

ข่าวยอดนิยม