ขึ้นแท่นคุณพ่อหลงลูกไปอีกคน สำหรับ "เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์" ที่ยอมเบรกงานในวงการบันเทิง หันไปทุ่มเวลาเลี้ยงดูลูกสาว "น้องเมดา" ด้วยตัวเองแบบเต็มที่ ชนิดที่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ แต่ล่าสุดรายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้ขอแบ่งเวลา คุณพ่อเจมส์ มานั่งคุยอัปเดตชีวิตหลังหายจากหน้าจอไปพักใหญ่ ให้แฟนๆ หายคิดถึง ว่าจะหวนคืนวงการไหม พร้อมกับคำถามซึ่งเป็นความในใจของ ครูก้อย ศรีภรรยาของ เจมส์ เรืองศักดิ์ ที่ได้ฝากเหล่าพิธีกรในรายการขยี้ถามสามีให้หายคาใจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "หมวย สุภาภรณ์" นางร้ายสายโหด เผยวินาทีถีบซุปเปอร์สตาร์ "อั้ม พัชราภา"
- "เอ๋ เชิญยิ้ม" เล่าชีวิตวันที่เคยไม่มีเงิน ไม่มีงาน พร้อมเคลียร์ประเด็นดราม่าหากินกับผี
- "หมอช้าง ทศพร" เปิดดวง 12 ราศี ครึ่งปีหลัง 2563
- "หญิง ธิติกานต์" ยอมรับสวยเพราะเข็มหมอ เก็บเงินเตรียมทำหน้าใหม่!
- "ป๊อป อารียา" เผยหวิดเป็นโรคซึมเศร้า แต่ได้โยคะช่วยชีวิต
ถาม ภรรยาฝากมาเรื่องแรก เจมส์เป็นมนุษย์ตาราง มีคิวจะต้องวิ่ง 6 โมง ขับรถอยู่กลางถนนก็ต้องไปวิ่งตอนนั้นเลย ทำไมต้องถึงขนาดนั้น
เจมส์ : จริงครับ ผมเป็นคนที่มีวินัย มีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าถ้าคนเราสร้างวินัยกับเรื่องหนึ่งได้สม่ำเสมอแล้ว ก็จะมีวินัยได้กับทุกๆเรื่อง คนเราเมื่อมีวินัยจริงๆ ต้องไร้ซึ่งข้ออ้าง
ถาม สมมุติว่าครูก้อยอยู่ด้วย กำลังจะถึงบ้านแล้วมันจะช้ากว่าตารางวิ่งที่เราวางไว้ครึ่งชั่วโมง พอส่งภรรยาเรียบร้อยแล้วค่อยมาวิ่งเป็นแบบนี้ได้ไหม
เจมส์ : ถ้าเป็นเมื่อก่อน ก่อนมีลูกให้รอครับ เจรจากันได้ คุยกันได้ครับ
ถาม แล้วอย่างหลังจากวิ่ง เราอาบน้ำในปั๊ม มันไม่มากไปเหรอ ทำไมเราไม่รอให้ถึงบ้าน แล้วค่อยอาบน้ำก่อนได้
เจมส์ : ไม่ได้ถึงกับนุ่งผ้าขาวม้าเข้าไปอาบน้ำในปั๊มอะไรขนาดนั้น เราก็แค่ถือน้ำเข้าไปล้างตัวอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเอง
ถาม นอกจากเป็นคนที่ทำอะไรเป็นตารางแล้ว จริงหรือเปล่าที่เจมส์มีห้องมิติลี้ลับในบ้าน แม้แต่ภรรยาก็ห้ามเข้า
เจมส์ : ก่อนแต่งงานเรามีโลกส่วนตัวของเรา เวลา 24 ชั่วโมงเป็นของครอบครัวอยู่แล้ว แต่เราก็ขอเวลานิดนึงที่เป็นของเรา ช่วงเวลาหลังจากที่พวกเขานอนแล้ว สักชั่วโมง ครึ่งชั่วโมง
ถาม ทำอะไรในช่วงเวลานั้น
เจมส์ : จะเล่นดนตรี ให้ห้องนั้นมีเปียโน กีตาร์ บางทีเราอยากเรียนรู้เรื่องอะไรบางอย่าง เราก็จะใช้ช่วงเวลานั้นเรียนรู้ผ่านทางออนไลน์ ขอให้มีพื้นที่ส่วนตัวของเราบ้าง
ถาม แต่ทำไมภรรยาห้ามเข้าห้องนี้
เจมส์ : จริงๆ เข้าได้ครับ
ถาม ยังมีอีกเรื่องที่ภรรยาเม้าท์มา คือเขาไม่ให้เจมส์ถือเงินเลย เพราะเมื่อไหร่ที่ถือเงิน หมดทันที
เจมส์ : จริงๆ แล้วเรื่องทั้งหมด ผมเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะต้องเป็นอย่างนั้น ผมรู้สึกว่าเราต้องมีคนช่วยตัดสินใจ เพราะผู้ชายเมื่อได้เงินมา อันโน้นก็อยากได้ อันนี้ก็อยากได้ เราจะตัดสินใจซื้อเลย เมื่อเราอยากได้ของที่เราเห็น ผมเป็นคนเมื่อเวลาที่จะซื้อของ ต้องซื้ออะไรที่อย่างดีที่สุด ภรรยามองเห็นแล้วว่าไม่ดีแน่ๆ เราเองเราก็รู้ตัวแน่ๆ ว่าไม่ได้แล้ว เราก็เลยฝากเงินไว้ที่เขา อยากได้อะไรก็เบิก แต่ก็มีบ่อยนะครับที่เราเขียนรายการเบิกไปแล้วเขาไม่ให้ เพราะเขามองว่าอะไรที่มีแล้ว ซื้อมาแล้วไม่จำเป็นต้องมีอีก
เจมส์ : ช่วงแรกๆ เคยมีทะเลาะกันเหมือนกัน กับเรื่องเงินที่เบิกแล้วเขาไม่ให้ เพราะเราไม่เข้าใจ แต่เราก็เข้าใจสัจจะธรรมอยู่ข้อหนึ่งครับ เงินไม่ได้ซื้อทุกอย่างในชีวิตได้นะ ถ้าเมียไม่อนุญาต
ถาม จริงหรือเปล่าที่ตอนแรกไม่อยากมีลูก แต่พอมีแล้วหลงลูกสาวมาก
เจมส์ : น้องตอนนี้ 1 ขวบกับอีก 4 เดือน ยอมรับเลยครับ มีลูกแล้วหลงมาก โดยเฉพาะลูกสาวนะ เป็นคนไม่เคยคิดเลยว่าจะมีลูกตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพราะเราว่าชีวิตเราก็มีความสุขอยู่แล้ว แต่พอมีลูกสาวแล้ว ชีวิตเป็นอีกแบบเลย ผมติดลูกสาวมาก ชีวิตมันเปลี่ยนเป้าหมาย เหมือนว่าเราเป็นโลกทั้งใบของเขาเลย
ถาม ลูกสาวขวบกว่าแล้ว ยังไม่ให้ลูกสาวเดินบนดินเลยจริงไหม
เจมส์ : ไม่ถึงขนาดนั้น เป็นคนที่รักลูกมาก เป็นคนใจเสาะมาก เขาบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นคนใจเแข็งมากๆ นะ ให้เขามีประสบการณ์ในการบาดเจ็บบ้าง ตอนก่อนที่เราจะมีลูกเราก็อ่านหนังสือ เราคิดเลย เดี๋ยวจะปล่อยให้ทำทุกอย่าง แต่พอเอาเข้าจริงๆพอมีลูกไม่ได้เลย เห็นลูกเดินเข้าตรงขอบโต๊ะ ลูกจะหัวแตก ลูกเดินเข้าไปในสวน จะมีงู คือจินตนาการไปก่อนล่วงหน้าเลย จนภรรยาเริ่มทักว่าไม่ได้นะ พี่ต้องปล่อยบ้าง เราก็เถียงเขาว่าเธอไม่ใส่ใจลูก ผมชอบเอามาอุ้ม แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกตัวแล้วครับว่าไม่ได้ ต้องให้เขารู้จัก ไม่งั้นเขาจะไม่เกิดการเรียนรู้
ถาม หายหน้าหายตาไปจนหลายคนถามว่าจะไม่รับงานในวงการบันเทิงแล้วหรือเปล่า เพราะ 24 ชั่วโมงทุ่มให้กับครอบครัวทั้งหมดเลย
เจมส์ : ผมได้ศึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกนะ พบว่าสิ่งที่สำคัญคือการมีเวลากับลูกตอนที่เขาเด็กๆ เพราะมันจะเกิดสายใยขึ้น เขาจะเกิดความผูกพันกับเรา เวลาที่เขาโตขึ้น เวลาที่เขาจะคิดทำผิด ทำไม่ดี จะมีตรงนี้ดึงเขาอยู่ แต่ถ้าเราไม่มีเวลาให้เขา ตอนโตมันไม่ได้นะ มันจะขาดช่วงไป อย่างงานในวงการบันเทิง ผมตั้งใจที่จะไม่รับงานอย่างละคร พิธีกร หรืออะไรมาปีกว่าๆ แล้ว เพื่อจะใช้เวลาช่วงนี้อยู่กับลูกให้มากที่สุด เรียกว่าเป็นเวลาทองเลย
เจมส์ : ผมก็ทำหน้าที่อาบน้ำแต่งตัวให้ลูก อ่านนิทานให้เขาฟัง ตั้งแต่เขาเกิดมาเลย ส่วนครูก้อยจะเป็นคนให้นมลูก เพราะลูกจะติดนม เราจะมีคนช่วยเลี้ยง แต่ช่วยในที่นี้ คือเป็นคนเตรียมข้าว ล้างขวดนม แต่ในส่วนของเรื่องการป้อนอาหารืเราเป็นคนทำเอง
เจมส์ : ลูกผมจะตื่นช้า จะตื่นตอน 09.00 น. ซึ่งถือว่าช้าสำหรับเด็กๆ เลย แล้วมาทานข้าวตอนเช้า 09.30 น. อาหารกลางวันตอนเที่ยงครึ่ง แล้วอาหารเย็นคือหกโมง แล้วนอน เราตั้งใจให้นอนสามทุ่ม แต่พ่อแม่ยังไม่นอน เขาก็จะเล่นกับเรา ถ้าเราต้องออกไปทำงานจริงๆ ครูก้อยกับพี่เลี้ยงจะเป็นคนดูแลเขา ผมจะเลี้ยงทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติ แต่ก็เป๊ะเรื่องเวลานิดหน่อย
เจมส์ : เราได้อยู่ใกล้เขา เราจะเห็นการพัฒนาของเขา คือเร็วมากนะ สำหรับเมดา อายุ 1 ขวบ 4 เดือน เขาเดินได้ เขาสามารถจำ กอ ไก่ ถึง ฮ นกฮูก ได้แล้ว ไม่ได้บอกว่าเมดาเก่งกว่าเด็กทั่วไป แต่เด็กมีการพัฒนาไม่เหมือนกัน ต้องเป็นพ่อแม่ที่ช่วยลูกด้วย ถ้าเราอยู่ ลูกเราก็จะกล้าที่แสดงออก พัฒนาการของเขาก็จะดี
ถาม ให้เวลาลูกมากขนาดนี้ กับภรรยาดูแลไหม
เจมส์ : ก่อนที่เราจะมีลูกกัน เราสวีทกันมาก เพราะครูก้อยเป็นภรรยาที่น่ารักมาก แต่ตั้งแต่เรามีลูก มีเวลาเท่าไหร่ เราก็จะให้ลูกทั้งหมด แต่เราก็ไม่ได้บกพร่องหน้าที่ของสามีนะ ดูแลเขาให้ดีด้วย
เจมส์ : แต่ผมเป็นคนที่โชคดีมาก เพราะต้องยกให้ครูก้อย เป็นอภิชาตเมียเลย เพราะเขาดูแลผมดีมาก เขาเป็นภรรยาที่กราบเท้าสามีสามทีก่อนนอนเลย กราบเท้ากราบหน้าอก ขอบคุณที่เลี้ยงดูเขาอย่างดี ขอบคุณที่อยู่กับเขา
เจมส์ : แต่หลังจากมีลูก เราเข้าใจเขานะ ก่อนที่จะมีลูก ผมนั่งเคี้ยวข้าวอย่างเดียว แต่พอมีลูก ต้องกลับกัน ผมต้องเป็นคนมาเตรียมอาหารให้เขา ถ้าผมไปเรียกเขา มาทานข้าวนะ แล้วใช้น้ำเสียงไม่ดี โดนด่าครับ คือเราเข้าใจนะ เขามีภาระที่จะต้องรับผิดชอบมากขึ้น ผู้หญิงพอมีลูก ฮอร์โมนจะเปลี่ยนไป ผมบอกกับคุณผู้ชายเลยนะ
ถาม กลัวเมียไหม
เจมส์ : ไม่มีผู้ชายคนไหนกลัวเมีย มีแต่เคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตอนนี้ตั้งใจมีคนที่สองมากๆ เลย แต่ติดตรงที่น้องเมดายังติดเต้าแม่อยู่ ต้องรอก่อน ไม่ได้มีแพลนว่าจะให้น้องหยุดทานนมเมื่อไหร่ เพราะเราเห็นเขามีความสุข เวลาที่เขากินนม เราก็เลยปล่อยไปก่อน แล้วแม่ก็ยังติดที่จะให้นมลูกอยู่ด้วย เลยให้เวลาเขาก่อน
ถาม งานในวงการยังไง
เจมส์ : พอลูกที่กำลังเริ่มโตแล้ว เราจัดเวลาได้แล้ว เราก็เริ่มที่จะกลับมารับละครแล้ว จะคิดถึงลูกแน่นอนเพราะเราอยู่กับเขาตลอดเวลา แต่ก็บริหารเวลาเอาครับ เพราะชีวิตเราต้องทำงาน เราก็จัดเวลาเอา
Advertisement