จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "ข่าวสารเมืองปราการ V2" ได้โพสต์กล้องวงจรปิดที่ปรากฏภาพชายคนหนึ่งกำลังถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย โดยมีเพื่อนบ้านเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมข้อความว่า "ห้ามไม่ให้มีเรื่องสุดท้ายคนห้ามโดมรุมซะเอง!"
ทั้งนี้ยังมีข้อความอีกว่า "ขอความช่วยเหลือค่ะ พอดีเมื่อวาน เวลาประมาน 3 ทุ่ม มีคนมารุมทำร้ายพ่อหนูค่ะ เหตุเกิดเพราะคนข้างบ้านจะทำร้ายร่างกายคนในซอย พ่อหนูเลยไปช่วยห้าม เขาก็บอกอย่ามายุ่งและพลักพ่อหนู สักพักพอเขาเข้าไปเคลียร์กับคนในซอยเสร็จ เขาก็ออกมาถามพ่อหนูว่า มึงเก๋าเหรอ และต่อยเข้าที่หน้าพ่อ พอต่อยเสร็จก็มีวัยรุ่นเข้ามารุมทำร้ายพ่อหนู ประมาณ 10 กว่าคน"
ล่าสุดวันที่ 22 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ และได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ ผลดี ชายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ตนนั่งทำงานพร้อมกับดื่มเหล้าไปด้วย โดยนั่งดื่มอยู่กับภรรยาที่หน้าบ้าน นายเอกเพื่อนบ้านเดินผ่านหน้าบ้านพอดี ด้วยมารยาทตนจึงยกแก้วเหล้าให้ดื่มตามประสาคนเคยนั่งดื่มอยู่ด้วยกัน นายเอกรับแก้วไปพร้อมกับพูดว่า "วันนี้ดื่มแก้วเดียวพอ" เพราะดื่มจากข้างนอกมาแล้ว
จากนั้นนายเอก ก็ดื่มเหล้าจนหมดแก้วและเดินกลับบ้านไป หลังจากนั้นไม่นาน นายเอกก็เดินกลับมาที่บ้านตนและมานั่งดื่มกินต่อ และบอกว่าให้ตนไปเรียกนายลีฟ หรือนายพุฒิพงศ์ บุญเกื้อหนุน รุ่นน้องอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามมาพูดคุย เพราะเคยมีเรื่องไม่เข้าใจกัน ตนจึงเดินข้ามฝั่งไปเรียก แต่นายลีฟไม่อยากพูดคุยด้วย ตนจึงกลับไปนั่งดื่มกินต่อ พร้อมอธิบายให้นายเอกเข้าใจ แต่นายเอกก็ยังไม่เข้าใจ ให้ตนกลับไปเรียกนายลีฟออกมาคุยให้รู้เรื่อง ซึ่งนายลีฟก็ไม่ยอมออกมา หลังจากนั่งดื่มกินไปได้สักพักประมาณ 20.00 น. ก็เริ่มแยกย้าย ตนได้เดินไปส่งนายเอกที่บ้าน เพราะนายเอกเมามากและโวยวาย ส่วนตนเดินกลับเข้าไปอยู่ในบ้านตามปกติ
ต่อมาเวลาประมาณ 20.30 น. นายเอกได้เดินถือมีดยาวมาวางไว้ที่ท้ายรถกระบะของตน ซึ่งจอดหน้าบ้าน จากนั้นเดินไปกดกริ่งที่บ้านนายลีฟ พร้อมกับด่าทอด้วยคำหลายคาย ตนจึงออกมาดูและได้พยายามพูดเกลี่ยกล่อมให้นายเอกใจเย็นลง ส่วนนายลีฟกับแม่ก็เดินออกมาดูที่หน้าบ้าน ตนจึงพยายามแยกนายเอกออกจากหน้าบ้านนายลีฟ ซึ่งในจังหวะนั้นหางตาเหลือบไปเห็นมีดที่ท้ายรถ จึงรู้สึกโมโหมาก เนื่องจากนายเอก ต้องการจะมาพูดคุยกับนายลีฟ ทำไมต้องเอามีดมาด้วย แบบนี้มีเจตนาอะไรหรือไม่ ตนจึงหยิบมีดทิ้งลงพื้น พร้อมกล่าวเตือนสตินายเอก ซึ่งภรรยานายเอก ก็ด่าทอตัวนายเอกเองด้วย เนื่องจากเวลาเมาแล้วจะกลายเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง
จากนั้นไม่นานประมาณ 21.00 น. พี่ชายนายเอกที่ชื่อนายน้อย หรือนายวิเชียร ฉายสำเภา ได้เดินทางมาที่บ้านของนายเอก เข้าไปคุยกับนายเอก ประมาณ 20 นาที นายน้อยจึงเดินไปกดกริ่งที่บ้านนายลีฟ ตอนนั้นตนกลัวว่าจะมีเรื่องจึงรีบเดินไปหานายน้อย และพูดว่าถ้ามีอะไรให้คุยกับตนก็ได้ ตนเป็นคนที่รู้เรื่องและอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด แต่นายน้อยกลับพูดว่าให้ตนหลบไปไม่ใช่เรื่องของตน จากนั้นนายลีฟและแม่ของเขาจึงออกมาจากบ้านและเชิญให้นายน้อยเข้าไปคุยในบ้าน ประมาณ 20 นาที นายน้อยจึงออกมา
จากนั้นตนก็รีบเข้าไปไถ่ถามว่าตกลงเข้าใจกันแล้วหรือไม่ แต่นายน้อยกลับพูดว่า "มึงเก่งนักเหรอ" แล้วก็ชกเข้ามาที่ใบหน้าของตน จากนั้นก็มีรถกระบะที่ขนกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาจอดปากซอย วัยรุ่นหลายคนก็วิ่งเข้ามาทำร้ายคน ตามกล้องวงจรปิดที่ปรากฏ ซึ่งขณะนั้นภรรยาตนก็เข้ามาพยายามช่วย และตอนนั้นตนคิดว่าอย่างไรก็ต้องวิ่งเข้าบ้านให้ได้ก่อน ไม่เช่นนนั้นอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ พอตนเข้าบ้านได้กลุ่มวัยรุ่นก็หนีขึ้นรถหายไป ร่วมถึงผู้ก่อเหตุ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครมาพูดคุยกับตนเลย
ทั้งนี้ตนได้ไปแจ้งความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มีโอกาสพูดคุยกับคู่กรณี ซึ่งทางฝ่ายนั้นได้แจ้งความกลับตน กล่าวหาว่าพวกตนไปทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้มีการรุมทำร้ายคู่กรณีแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และเหตุการณ์ครั้งนี้ยังได้สอนบทเรียนให้ตนอีกด้วย ว่าหลังจากนี้ ใครจะทะเลาะกันอย่างไร ตนจะไม่เข้าไปช่วย หรือไปยุ่งด้วยแล้ว เพราะบางทีผลที่ได้อาจจะพลิกอย่างเรื่องของตนก็ได้
ผู้สื่อข่าวมีโอกาสพูดคุยกับแม่หมู หรือนางสกุลรัตน์ พวงขุนทด แม่ของนายลีฟ และเป็นคนที่เข้าไปช่วยห้ามวัยรุ่นไม่ให้ทำร้ายนายสมศักดิ์ เล่าว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 20 ก.ค.63 ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ที่นั่งกินเหล้าอยู่กับนายเอก ได้เดินมาที่บ้านหลายครั้งเพื่อให้ลูกชายออกไปพูดคุยกับนายเอก แต่ตนไม่ยอมให้ลูกออกไปเพราะนายเอกเมามากแล้ว และกลัวว่าจะมีเรื่อง หลังจากนั้นนายเอกได้โทรให้นายน้อย หรือนายวิเชียร ฉายสำเภา มาหาลูกชายตนที่บ้าน หลังจากได้คุยทำความเข้าใจเสร็จ นายน้อยก็ได้ออกไปจากบ้าน แต่ไม่รู้ไปคุยอะไรกับนายสมศักดิ์ จนเกิดชกต่อยกัน
ทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับนายลีฟ หรือนายพุฒิพงศ์ บุญเกื้อหนุน ซึ่งเป็นตัวตนเรื่องอีกคนหนึ่ง โดยนายลีฟ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อก่อนตอนที่ตนย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้ มีนายสมศักดิ์ และนายเอกอยู่กันมาก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากที่ตนย้ายมาอยู่หลังเลิกงานช่วงเย็น ๆ ก็มีไปสังสรรค์กับนายเอกที่บ้าน เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน แต่เวลานายเอกเมาแล้วชอบโวยวาย ชอบไปมีปัญหากับคนอื่น จนตนต้องช่วยห้าม หลัง ๆ มาตนเริ่มระอา จึงไม่อยากยุ่ง และไม่พูดคุยด้วย
จากนั้นเวลาเมานายเอกก็จะมาโวยวายเรียกตนไปคุยด้วย ช่วยไปเคลียร์ ซึ่งตนไม่มีเรื่องอะไรจะเคลียร์อยู่แล้วจึงไม่ออกไป แต่ด้วยความที่นายสมศักดิ์ดื่มเหล้าเข้าไป อาจจะทำให้น้ำเสียงอาจจะฟังไม่เข้าหู แต่นายสมศักดิ์ไม่ได้พูดคำหยาบหรือคำด่าอะไร แต่นายน้อย บอกไม่ต้องยุ่งไม่ใช่เรื่อง ตนจึงให้นายน้อยเข้าบ้าน นายน้อยจึงถามตนว่าทำไมตนไม่คุยกับนายเอก ซึ่งตนก็ยืนยันคำเดิมว่าไม่มีอะไรจะพูดคุย หลังจากนั้นตนคุยกันประมาณ 20 นาที นายน้อยก็เดินออกไป
ก่อนที่จะเดินออกไป ตนได้ยินว่านายน้อยโทรศัพท์ และพูดกับปลายสายว่าให้รีบมากูถูกล้อม ซึ่งตนยังพูดกลับไปว่า พี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าว่าถูกล้อม เพราะคนที่ยืนอยู่มีแต่เด็ก ๆ ลูก และเมียของนายสมศักดิ์ ที่อยู่ในบ้าน แม่ตนและเพื่อนบ้านที่ออกมาดู แต่นายน้อยไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเดินออกไป
จากนั้นตนเห็นนายสมศักดิ์ เดินเข้ามาจับมือนายน้อย เหมือนจะขอโทษที่ใช้น้ำเสียงในช่วงแรกไม่ดี แต่นายน้อยกับพูดว่า "มึงเก่งนักเหรอ" แล้วก็ชกเข้าไปที่ใบหน้านายสมศักดิ์ จากนั้นก็มีรถกระบะมาจอด และวัยรุ่นก็วิ่งกันเข้ามาทำร้ายนายสมศักดิ์
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัทพ์ไปหานายน้อย หรือนายวิเชียร ฉายสำเภา ผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวอะไรกับนายเอก ตนแค่เข้าไปคุยกับนายลีฟ เพื่อเคลียร์ปัญหาให้น้องชาย และพอเดินออกมากลับถูกวัยรุ่นล้อม ตนจึงโทรศัพท์เรียกให้น้อง ๆ เข้ามาช่วยก็เท่านั้น การที่คู่กรณีบอกว่าไม่ได้มีการล้อมไม่เป็นความจริง เพราะฝั่งคู่กรณีมาล้อมตนถึง 5-6 คน เท่ากับฝ่ายตน ไม่ได้เป็นการรุมทำร้ายแต่เป็นการป้องกันตัว เพราะน้อง ๆ ตนก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ส่วนรายละเอียดใครทำร้ายใครก่อนตนขอไม่ให้ใสรายละเอียด เอาไว้ไปพูดกับพนักงานสอบสวน และตนก็ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับนายสมศักดิ์เช่นเดียวกัน