อดีตสจ.ฉุนถูกด่าขโมยของ แบกลูกซองยิงญาติดับ สารภาพเสพยาผสมเหล้าทำขาดสติ (คลิป)

เมื่อวันที่ 22 ก.ค.63 ร.ต.อ.วรวิทย์ ซุยลา รองสว.สอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านหมู่ 3 บ้านนาแอง ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น พบศพนายปริวรรต แก้วมุงคุณ อายุ 29 ปี นอนหงายจมกองเลือดอยู่หน้าประตูบ้าน สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตทับด้วยเสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์ พบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 สีขาว ตกห่างจากศพประมาณ 5 เมตร จากการชันสูตรเบื้องต้น ถูกยิงบริเวณสะโพกขวาด้านหลัง กระสุนลูกปรายเข้าเต็มร่าง

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายทัศนัย อ่อนคำ อายุ 42 ปี อดีตสมาชิกสภา อบจ.อุดรธานี ปี 2551-2555 หลังก่อเหตุได้ถือปืนลูกซองยาวไปมอบตัวกับผู้ใหญ่บ้านนาแอง รับสารภาพว่าก่อเหตุยิงคนตาย ผู้ใหญ่บ้านจึงแจ้งตำรวจให้มาจับกุม

นายปิยะณัฐ แก้วมงคุณ อายุ 37 ปี พี่ชายผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นช่างแอร์ช่างไฟ ช่วงนี้ไม่มีงาน จึงมาซ่อมเล้าไก่เพื่อเลี้ยงไก่ ก่อนเกิดเหตุประมาณ 30 นาที ผู้ตายได้มาขอเงินแม่ 100 บาท ไปซื้ออุปกรณ์มาซ่อมเล้าไก่ แต่แม่ไม่มีเงินให้ ขณะที่ตนและแม่กำลังนอนดูโทรทัศน์อยู่ในบ้าน ก็ได้ยินเสียงคล้ายประทัดดังอยู่หน้าบ้าน

ต่อมาประมาณ 5 นาที ได้ยินเสียงคนร้องโอดโอย ออกมาดูก็พบว่าน้องชายถูกยิง นอนตะแคงจมกองเลือด จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ขอความช่วยเหลือส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตก่อนที่รถกู้ชีพจะมาถึง ทั้งนี้ มือปืนก็เป็นญาติห่าง ๆ กัน

ด้าน นายทัศนัย ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ว่าใช้อาวุธปืนลูกซองยิงนายปริวรรต ซึ่งเป็นญาติ และเพื่อนบ้านจริง เพราะก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้า ผู้ตายเดินไปด่า ท้าต่อยตีกับตนถึงที่หน้าบ้าน และยังกล่าวหาว่าตนไปลักเครื่องมือช่าง ซึ่งตนเองก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ลัก ตนจึงเดินไปหาผู้ตายที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 4 หลังคาเรือน เพื่อถามผู้ตายว่าทำไมด่าและกล่าวหาว่าตนไปลักเครื่องมือช่าง แต่ผู้ตายกลับด่าทอ และจะทำร้ายตน ตนจึงกลับไปบ้านก่อน และกลับมาเพื่อเคลียร์ปัญหา แต่ผู้ตายไม่สนใจ แถมยังด่าและจะทำร้ายตนอีกครั้ง ตนจึงกลับไปบ้าน

กระทั่งรอบที่ 3 ตนได้เสพยาบ้าครึ่งเม็ด ที่เพื่อนรุ่นน้องนำมาให้ ก่อนแบกปืนลูกซองของพ่อไปหาผู้ตายที่บ้าน แต่ผู้ตายไม่กลัว กลับท้าทายให้ยิง ตนจึงจ่อยิงผู้ตาย 1 นัด จนผู้ตายล้มลงต่อหน้า

อย่างไรก็ตาม ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และควบคุมตัวผู้ต้องหาไปโรงพักเพื่อทำการสอบสวนต่อไป