คุณพ่อลูกสอง "หนุ่ม อรรถพร ธีมากร" ผ่านงานมาทุกรูปแบบทั้งนักร้อง นักแสดง ผู้กำกับมากฝีมือ ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เล่าชีวิตจริงถูกภรรยา ฝ้าย อริญดา กำกับ! ตั้งแต่แต่งงานไม่เคยได้จับเงิน เพราะภรรยาเป็นคนเก็บ รับโควิดพาการเงินโคม่า เผยต้องจ่ายเงินล้านทุกเดือน แม้ไม่มีงาน แต่เพราะได้ธุรกิจใหม่ที่ช่วยพลิกชีวิตช่วงโควิด-19 กับ "A LAMB" เนื้อแกะหมักสูตรพิเศษที่ยอดขายดีจนต้องสั่งล่วงหน้า จัดจ้านแค่ไหนงานนี้ หนุ่ม อรรถพร ถึงกับยกมาให้ชิมถึงรายการทำเอาพิธีกรถึงกับร้องว้าว!! เมื่อได้ชิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "พี สะเดิด" เจ้าพ่อคำคมสอนใจ! รักในการศึกษาธรรมะพอๆ กับเสียงดนตรี
- "แหม่ม พัชริดา" ไม่คิดมีทายาท วางแผนบั้นปลายชีวิตอยู่บ้านพักคนชรา
- "จิตดี ศรีดี" เคลียร์ชัด! หลังเกิดคำถามหายหน้าไปไหนจาก "ทุบโต๊ะข่าว"
- "เจมส์ เรืองศักดิ์" หลงลูกหนัก เบรกงานในวงการเป็นปี ทุ่มเวลาให้ลูกหมด
- "หมวย สุภาภรณ์" นางร้ายสายโหด เผยวินาทีถีบซุปเปอร์สตาร์ "อั้ม พัชราภา"
ถาม ตอนช่วงโควิดหนักๆ เราโดนอะไรที่มันกระทบชีวิตเราเต็มๆ บ้าง?
หนุ่ม : บริษัทของผมทำละคร เป็นบริษัท SME พึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เป็นบริษัทเด็กๆ อยู่สัก 4-5 ปี พอเจอแบบนี้ สภาพคล่องมันขาดทันทีเลย เพราะว่าเราไม่ได้มีขุมกำลัง ไม่ได้มีพลังงานสะสมมาเป็นหลายๆ ปีเหมือนคนอื่นเขา เรากำลังเริ่มต้น
ถาม คือเราต้องหยุดถ่ายถูกไหม ??
หนุ่ม : หยุดถ่าย ออกกองไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย จะมีเรื่องนึงเปิดกล้องมีนาคม สิงหาคมเพิ่งได้เปิด แล้วกลายเป็นว่าอีกโปรเจกต์นึง มันก็ต้องเลื่อน เพราะว่ามันถมในช่วงเวลาเดียวกันไม่ได้ แต่ละโปรเจกต์มันค่อนข้างจะต้องให้เวลาให้ความละเอียดกับมัน
ถาม ลูกน้องเราก็ต้องจ่าย?
หนุ่ม : ทุกเดือน เดือนละล้านกว่าบาท แล้วซัพพลายเออร์ต่างๆ นานาอีก เราก็ต้องหามาจ่ายเขา ไม่จ่ายเขาก็มาตาม ทวงที่บ้าน ช่วงนั้นเครียดมาก ผมว่าหลายๆ คนเครียดกับปัญหาช่วงที่ผ่านมา แต่ตอนนี้พอเริ่มดีขึ้น อย่างน้อยทุกคนก็ได้กลับมาใช้ชีวิตในภาวะเกือบปกติในแบบเดิม อย่างน้อยก็ได้ทำงานได้อะไรบ้าง ซึ่งในช่วงที่โควิด เราก็มีอาชีพเสริมขึ้นมาคือ "A LAMB" เนื้อแกะหมักสูตรพิเศษที่ยอดขายดีจนต้องสั่งล่วงหน้า
ถาม เป็นผู้กำกับแต่ในชีวิตจริงโดนเมียกำกับ? กลัวเมีย?
หนุ่ม : ผมรู้สึกว่าการอยู่ร่วมกัน มันเป็นการต้องฟังซึ่งกันและกัน เราก็เกรงใจเขาแหละ สมมุตเราหาสะตุ้งสตางค์มาได้จากการทำงานทั้งหมด เราก็จะโยนให้เขาไปบริหารจัดการ ผมรู้สึกผมไม่ได้ใช้อะไร วันๆ ผมอยู่บ้านแล้วก็อยู่กองถ่าย ไม่ได้มีชีวิตไปปาร์ตี้ ไปเที่ยวที่ไหนอะไรกับใคร
ถาม มันเป็นข้อตกลงหรือเปล่า?
หนุ่ม : ไม่ๆ ผมรู้สึกว่าให้เขาไปจัดการเถอะ ผมไม่ยุ่งดีกว่า จะใช้อะไรเดี๋ยวบอก อยากเช่าพระ อยากซื้อปลากัด ทำอะไรอย่างนี้ เงินในบัญชีพี่ก็ไม่ได้เก็บ คือมันก็มีคาไว้ในบัญชีเอาไว้ แต่ว่าไม่ได้เอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน จะเอาอะไรก็ ฝ้าย โอนให้หน่อย
ถาม วันนี้ออกจากบ้านมา มีเงินในกระเป๋าเท่าไหร่?
หนุ่ม : ไม่มี ก็มากับเมีย
ถาม เมียไม่อยู่ 1 วัน แล้ววันนี้กระเป๋าเราไม่มีเงินเลยหรอ? ออกมาอย่างเนี้ย?
หนุ่ม : โอนมาให้ก่อน มีพี่ที่ดูแลอยู่ ก็ให้เขาออกให้ก่อน จะกินอะไรก็ลุงจ่ายไปก่อน แล้วเดี๋ยวไปเบิกที่ออฟฟิศ
ถาม ใช้บัตรเครดิตไหม?
หนุ่ม : ไม่ค่อยได้ใช้เพราะว่าไม่ได้ไปเดินห้าง
ถาม เคยถึงขนาดต้องซ่อนเงินเมียไหม?
หนุ่ม : ก็ไม่ต้องซ่อนหรอก ถ้าสมมุตว่าวันนี้ออกรายการ ได้เงินมาหนึ่งหมื่นบาท เราก็จะบอกว่า วันนี้เอาไปหมื่นนึงก็จบ หรือบางทีขอไว้สามพันนะ ไว้ซื้อของเล่น แล้วให้เจ็ดพัน คือชีวิตมันไม่ได้ใช้เงินจริงๆ ตื่นมาเราก็ไปกองถ่าย ถ้าไม่ไปกองถ่ายก็อยู่บ้าน ตื่นมารอเล่นกับลูก
ถาม ได้ข่าวว่าเป็นคนที่หวงลูก ใครจะมาแตะเนื้อต้องตัวไม่ได้เลยใช่ไหม?
หนุ่ม : สมัยที่อันดาเป็นเบบี๋เมื่อประมาณเกือบๆ 7 ปีที่แล้ว พอสัก 3 เดือน เราก็เริ่มกล้าที่จะพาลูกออกไปข้างนอกให้ไปเจอนู่นเจอนี่บ้าง ก็จะมี อ๊าย..น่ารักจังขอจับมือเด็ก พอจับมือเด็กปุ๊บ เด็กก็เอามือมาอม แล้วก่อนที่จะมาจับมือเด็กอะ คุณไปจับอะไรมาบ้าง มีเด็กเคยต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะเคสแบบนี้ ด้วยความที่ไม่ตั้งใจ ด้วยความที่รักและเอ็นดูเด็ก ไม่ได้อะไรนะ แต่ว่าจับแขนไหมหรือว่าส่วนอื่นที่ไม่ต้องไปสัมผัสกับปาก แต่ว่าทุกวันนี้ผมว่ากติกาในการสัมผัสเด็กคงไม่ต้องมีแล้ว เพราะว่ามันมีระยะห่างของโรค
ถาม แล้วยังหวงลูก ไม่ให้ใครแตะเนื้อต้องตัวอยู่ไหม?
หนุ่ม : ไม่มีแล้วครับ ปล่อยให้เล่นไป
ถาม จากหวงลูกขนาดนั้น ตอนนี้กลายเป็นคุณพ่อสายดุ?
หนุ่ม : ดุนะ มีตวาดบ้าง เสียงดังในบางเคสที่ทำซ้ำ หมายความว่า อันนี้อย่าทำ ทำแล้วเป็นอย่างนี้ มันมีอยู่เคสนึงเราก็ปล่อย อยากไปเล่นนอกบ้านกับเพื่อนๆ ตรงสนามหญ้าไม่ไกลก็ปล่อยให้ไปเล่น น่าจะไปกับพี่เลี้ยง วันนั้นเราไม่ได้ไปด้วย ไปกดกริ่งบ้านเขาแล้วไปแอบหลังพุ่มไม้ รอให้คนโผล่มา เขาออกมา 3 รอบ จนพี่ข้างบ้านเขาต้องมาบอกเราตอนค่ำ บอก เฮ้ย..หนุ่ม บอกลูกหน่อยว่าอย่าไปกดกริ่ง บ้านเขามีคนแก่ ผมบอกตรงๆ นะ อาจจะมีพฤติกรรมเลียนแบบจากคลิปจากอะไรก็ไม่รู้นะ บางทีจากสิ่งที่เห็นหรืออะไรผมไม่รู้ แต่ว่าในที่สุดแล้วเคสแบบนี้มันเกิดขึ้น แล้วผมก็ต้องดุลูก แล้วหลังจากนั้นมันก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย ถ้าถามว่าเราดุลูกไปเรารู้สึกยังไง เราโคตรเสียใจเลยนะ เราไม่ได้อยากดุ ไม่มีพ่อหรือแม่คนไหนที่อยากเป็นบ้าเป็นบอใส่ลูก เพื่อให้ลูกจำพ่อเป็นบ้า
ถาม ตอนเราดุลูก ฝ้ายว่าไงมั่ง?
หนุ่ม : ผมก็โดนฝ้ายดุอีกที ว่าทำไมถึงดุลูกแบบนี้ ก็ต้องยอมรับว่ามันจริง ว่าทำไมถึงดุลูกแบบนี้ แต่ว่าผมมีเหตุผลในแบบของผม ว่า ที่ผมเสียงดังเพราะอย่างนี้ แต่ว่าผมก็ยอมรับ หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยเสียงดังกับลูกอีกเลย
ถาม ในทางกลับกัน ฝ้ายดุลูกไหม?
หนุ่ม : ฝ้ายก็ดุบ้างเหมือนกัน แต่ว่าคนละแนว อันนั้นจะแนวมาคุ เขาจะดุแบบ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกับหม่ามี๊อีกเลย แล้วก็เงียบอึน แล้วลูกก็จะดีดดิ้น แต่ว่าเราไม่ได้ดุลูกพร้อมๆ กัน
ถาม ลูกมีแววเข้าวงการไหม?
หนุ่ม : ผมว่ามี คือเขาชอบเต้น เห็นใน TikTok เขาก็ทำ แล้วเขารู้สึกว่าอยากจะเป็นอะไรแบบนั้นเหมือนที่เขาเห็นสิ่งที่เราดูอยู่ทุกวันนี้ในโซเชียลเขาก็มีอารมณ์แบบนั้น เพียงแต่ว่าแค่กลัวว่าวันนึงเขาจะอยู่กับสิ่งนี้มากเกินไปจนสนใจเรื่องเรียนน้อยลง แต่ว่าทุกวันนี้วิชาชีพมันสำคัญกว่าวิชาการหรือเปล่าในบางกรณี ผมว่าเดี๋ยวมันก็เข้าที่เข้าทางเอง ผมว่าครอบครัวก็ต้องหล่อหลอมให้เขาคิดดี มีจิตใจดีทำดีไว้ก่อน
Advertisement