ส่อวุ่น! ลุงไฟคลอกดับส่อจัดฉากเผาชิงทอง ปัดโยงเขยฝรั่งฆ่าปิดปากคดีลูกหาย (คลิป)

จากกรณี วันที่ 21 ก.ค. 63 เวลา 17.30 น. ร.ต.อ.จิรภัทร แปงใจ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ มีผู้เสียชีวิตในบ้าน ถนนราชพฤกษ์ ก่อนเบี่ยงขวาขึ้นทางต่างระดับวุฒากาศ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตธนบุรี

เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ปลูกอยู่ริมถนนในรั้วรอบขอบชิด เนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายข้าวหมูแดงหมูกรอบ

โดยผู้เสียชีวิตคือ นายอนันต์ แสงอุไร ผู้ที่เคยร้องเรียนว่า น.ส.นันทิยา แสงอุไร ลูกสาว หายตัวไป และขาดการติดต่อตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 หลังที่เคยอยู่กินกับนายซีมอน เบตัน ชาวอิสราเอล ผู้ต้องหาในคดีฆ่านายตำรวจอิสราเอลและอำพรางศพโดยการนำศพไปโบกปูนเมื่อปี 2559 และก่อนหน้านี้เคยมาร่วมรายการต่างคนต่างคิด ที่สถานีโทรทัศน์ของอมรินทร์นั้น

จากการตรวจสอบสภาพศพ แพทย์ลงความเห็นระบุว่า เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ และที่ร่างกายพบว่ามีรอยบีบรัดที่บริเวณคอด้วยนั้น

วันที่ 23 ก.ค. 63 เมื่อเวลา 13.30 น. ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย น.ส.ยุพาพัชร์ อธิคมสิริกุล ลูกสาวนายอนันต์ นำเอกสารหลักฐานมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

น.ส.ยุพาพัชร์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 น. เพื่อนบ้านพบมีควันไฟออกมาจากกลางตัวบ้าน จึงได้วิ่งไปทุบกำแพงร้องเรียกพ่อของคน แต่ไม่ได้รับเสียงตอบกลับ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมพ่อถึงไปนอนตายตรงนั้น เพราะปกติถ้าพ่อจะนอน พ่อจะเข้าไปนอนในบ้าน

ประกอบกับหลังจากที่ได้ผลชันสูตร แพทย์บอกว่าพ่อไม่ได้ตายเพราะสำลักควันไฟ แต่กลับพบความผิดปกติบริเวณลำคอ พบร่อยรอยมือคนบีบกด และมีรอยเล็บจิก นอกจากนี้ พบเขม่าควันไฟในหลอดลมเพียงเล็กน้อย ซึ่งสำลักควันไฟตาย ต้องมีเขม่าควันไฟมากกว่านี้ และที่น่าสงสัยคือบริเวณที่คาดว่าเป็นต้นเพลิง ไม่มีปลั๊กไฟ ซึ่งปลั๊กไฟจะมีเพียง 2 แห่ง คือห้องน้ำและข้างประตู หากเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ต้องเป็นที่ห้องนอนที่มีแอร์และปลั๊กไฟเท่านั้น

ที่น่าสงสัยอีกอย่างคือ สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และพระเครื่องเลี่ยมทอง 1 องค์ ที่พ่อสวมใส่ประจำหายไป อีกทั้งมีเงินสดหลายแสนบาทที่ต้องตรวจสอบว่าหายไปอีกหรือไม่

ทั้งนี้ บ้านหลังดังกล่าวปกติพ่อคนอยู่คนเดียว แต่พักหลังพ่อเอาเพื่อนอีก 1 คนเป็นผู้ชายมาอยู่ด้วย ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ส่วนที่ร้านจะมีคนงานพม่า ผู้หญิง 2 คนมาช่วยขายของ แต่จากการสอบถามในวันเกิดเหตุพบว่าหลังจากขายของเสร็จ คนงานทั้ง 2 คนได้กลับบ้านไปตั้งแต่เวลา 14.00 น. แล้ว

อย่างไรก็ตาม ตนตั้งข้อสังเกต สาเหตุที่ปักใจเชื่อว่าพ่อถูกฆาตกรรม เพราะตอนเกิดเหตุได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่าระหว่างที่มาดับเพลิง มีโซ่คล้องประตูอยู่ด้านนอก จึงได้ตัดโซ่เข้าไป ซึ่งผิดสังเกต เพราะปกติหากพ่อตนอยู่บ้าน จะเอาแค่กรรไกรเสียบรูประตูเอาไว้เท่านั้น

โดยพยานคนสำคัญ 2 ราย คือป้าน้อย (นามสมมติ) เจ้าของร้านชำ ให้ข้อมูลว่า ช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาซื้อเบียร์ 3 ขวด จนกระทั่ง 16.00 น. เกิดเพลิงไหม้ที่บ้านผู้ตาย และคิดว่าชาย 2 คนดังกล่าวอาจจะเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่

ด้านลุงหมื่น (นามสมมติ) พยาน เล่าว่า เวลาประมาณ 15.30 น. ตนขับรถผ่านหน้าบ้านของผู้ตายที่ปิดประตูรั้วไว้ไม่สนิท มองลอดเข้าไปเห็นผู้ตายกำลังนั่งกินเบียร์อยู่กับผู้ชาย 2 คน ลักษณะค่อนข้างมีอายุ จนกระทั่ง 30 นาทีต่อมาเกิดไฟไหม้บ้าน รถดับเพลิงวิ่งกันให้วุ่น

ส่วนเรื่องสร้อยคอทองคำของผู้ตายที่หายไป ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะผู้ตายมักจะใส่สร้อยคอทองคำเส้นใหญ่ ก่อนหน้านี้เคยถูกวัยรุ่นจี้ชิงทองมาแล้ว

ด้านนายมานพ ทรัพย์กล้า เพื่อนของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนรู้จักกันผู้ตายไม่เคยมีปัญหากับใคร เพราะอยู่คนเดียว แต่ก็ชอบเอาคนแปลกหน้ามาเลี้ยง เพราะเป็นคนใจบุญ ใครมาหาก็พูดคุยด้วยหมด หรือบางครั้งก็นั่งกินเหล้าด้วย นอกจากนี้ ตนทราบมาว่าวันเกิดเหตุผู้ตายไม่ได้กินเหล้า คิดว่าเหตุครั้งนี้ ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่ลูกสาวผู้ตายหายไป แต่คนร้ายน่าจะประสงค์ในทรัพย์สิน เพราะผู้ตายใส่สร้อยคอ 5 บาท และสร้อยข้อมือและแหวนมูลค่าประมาณ 2 บาท

ส่วนเรื่องลูกสาวของผู้ตายที่หายตัวไปก่อนหน้านี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2560 นายอนันต์ ผู้เสียชีวิต และภรรยา เคยเข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม ให้ช่วยตามหา น.ส.นันทิยา แสงอุไร หรือ ออย อายุ 37 ปี ลูกสาวที่หายไป

โดยเชื่อว่าการหายตัวไปของลูกสาวน่าจะเกี่ยวข้องกับ นายซีม่อน บินตัน อายุ 53 ปี ชาวอิสราเอล ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ นายเฮลิยาฮู โคเฮน อายุ 63 ปี อดีตตำรวจเพื่อนร่วมชาติ โบกปูนในท้องที่ สภ.บางบัวทอง เมื่อปี 2559 ซึ่งตั้งแต่ครั้งนั้น ครอบครัวยังไม่ได้ข่าวความคืบหน้าของ น.ส.นันทิยา จนถึงปัจจุบัน

สืบเนื่องฆาตกรรมอำมหิต นายเฮลิยาฮู โคเฮน อายุ 63 ปี อดีตนายตำรวจอิสราเอล ถูกฆ่าหั่นศพยัดกระเป๋าก่ออิฐโบกปูนอยู่ใต้บันไดภายในทาวน์เฮาส์ ถนนชัยพฤกษ์ หมู่ 2 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ต่อมาตำรวจจับกุมนายซีมอน เบตัน อายุ 50 ปี เพื่อนชาวอิสราเอล ผู้ก่อเหตุและเป็นผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าตัวให้การรับสารภาพลวงผู้ตายไปฆ่าจริงโดยใช้มีดฟัน สาเหตุโกรธแค้นที่ผู้ตายแอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาคนใหม่

นางเปิ้ล (นามสมมติ) น้องสาวของภรรยาผู้ตาย เผยว่า หลังเกิดเรื่องตนเองมั่นใจว่าต้องเป็นการฆาตกรกรรม แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร คิดว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกสาวผู้ตายหายตัวไปเมื่อ 2 ปีก่อน เพราะเวลาก็ผ่านมานานแล้ว และผู้ก่อเหตุอยู่ในคุก โดยผู้ตายเป็นคนดีมีน้ำใจ นิสัยดี แม้เป็นคนโผงผางแต่ก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร และลูกค้าก็มากินข้าวเยอะ

นางนภา ทิมเย็น อดีตภรรยาของผู้ตาย แม่ของ น.ส.นันทิยา ลูกสาวที่สูญหาย เปิดใจว่า ตนไม่เชื่อเด็ดขาดว่าการเสียชีวิตครั้งนี้เกี่ยวข้องกับนายนายซีม่อน บินตัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2560 ที่ครอบครัวไปร้องกองปราบปราม และตระเวนไปออกรายการต่าง ๆ ก็ยังตามหาลูกไม่เจอ ทนายความจึงเอาเอกสารยืนยันว่าไม่ต้องการตามหาลูกสาวแล้วมาให้ตนเซ็น ซึ่งตนกับผู้ตายก็เซ็นยินยอมเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับขณะนี้นายซีม่อน บินตัน ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ไม่สามารถออกมาทำเรื่องนี้ได้ และไม่มีเหตุจูงใจด้วย