จากกรณีมีภาพวงจรปิดของตลาดนัดกลางคืนแห่งหนึ่ง ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้บันทึกเหตุการณ์ หญิงวัยกลางคน 3 คน รุมทำร้าย เด็กนักเรียนหญิง อายุ 17 ปี โดยมีชายวัยรุ่น 2 คน ยืนกันไว้ไม่ให้คนเข้ามาช่วย
ล่าสุดวันนี้ (10 ม.ค.61) เวลา 16.00 น. เด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ หลังถูกแม่ค้า 3 คน รุมกระชากผม ตบตี ขณะเดินซื้อของ โดยมีชายวัยรุ่นอีก 2-3 คน ยืนคุมเชิงไม่ให้คนอื่นเข้าช่วย โดยเหตุเกิดที่ตลาดนัดแห่งหนึ่ง ย่านถนนกาญจนาภิเษก ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เวลา 16.45 นาที วันที่ 9 ม.ค.61 โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน
น้องบี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ มาตลาดเพื่อส่งของ ระหว่างเดินมากับเพื่อนชาย ได้หยุดพิมพ์มือถือ แชทคุยกับลูกค้า ทำให้เดินช้า แม่ค้าที่เดินตามหลังจึงตะโกนว่า “เดินแบบนี้ไปเดินในห้างดีกว่า” แล้วก็ด่าตนว่า “ไม่มีการศึกษา” ตนจึงเถียงกลับไปว่า “แล้วป้ามีการศึกษาหรือเปล่า” จากนั้นก็ด่ากันด้วยถ้อยคำหยาบ ก่อนแยกย้ายกันไป
จนถึงช่วงเกิดเหตุ ป้าได้เข้ามาชี้หน้าด่าเพื่อนชายของตน ขณะที่ตนเดินมาถึงพอดี จึงเกิดการโต้เถียงกันอีกครั้ง ทำให้แม่ค้าเข้ามาทำร้ายตน จนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า และหัวเข่า หนำซ้ำโทรศัพท์มือถึอไอโฟน ตกจนจอแตก โดยหลังแจ้งความเสร็จ แม่ค้าที่ก่อเหตุยังข่มขู่ว่า "เสียค่าปรับแค่ 500 จะกลับมาซ้ำอีก"
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ลงพื้นที่ พบว่า จุดเกิดเหตุอยู่ข้างร้านขายน้ำ ในตลาดดังกล่าว "ป้าอิ๋ว" (นามสมมติ) แม่ค้าที่ทะเลาะวิวาทกับเด็กผู้หญิงในคลิป เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.61) ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ขณะตนกำลังเดินเข้าตลาดเพื่อมาเปิดร้าน พบเด็กผู้หญิงใส่ชุดนักเรียน เดินกอดคอมากับเด็กผู้ชายอยู่ข้างหน้าตน ทำให้เดินแซงไปข้างหน้าไม่ได้ จึงพูดไปว่า “น้องเอาสักทางสิ” เพื่อให้ทั้งคู่หลบ
แต่เด็กผู้หญิง กลับตอบมาว่า “แล้วไงอะ” ตนจึงบอกไปว่า เดินไปข้างหน้าไม่ได้ เด็กผู้หญิงได้เถียงกลับมา ตนจึงพูดไปว่า “เป็นเด็กมีการศึกษาทำไมพูดจาแบบนี้” เด็กผู้หญิงกลับต่อว่า ด้วยคำหยาบคาย วินาทีนั้นยอมรับว่า มีการด่ากันไปมาตลอดทาง จากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้าย โดยยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตนก็คิดว่าเรื่องจบแล้ว จึงเดินมาเปิดร้านตามปกติ
ป้าอิ๋ว (นามสมมติ) บอกว่า หลังจากนั้นได้เดินไปซื้อน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ เด็กผู้ชายได้เดินมาถามตนว่า จะเอายังไง ลักษณะเหมือนจะเข้ามาหาเรื่อง ตนจึงตอบกลับไปลักษณะว่า เป็นผู้ชายไม่ควรมาทะเลาะกับผู้หญิง ก่อนที่เด็กผู้หญิงจะเดินเข้ามาชี้ที่ตนให้เด็กผู้ชายรายดังกล่าวดู พร้อมระบุว่า "คนนี้ไง" ด้วยความโมโห ที่เด็กผู้หญิงไม่ยอมจบ ตนจึงเข้าไปตบ 1 ที
จากนั้นได้เกิดการตบตีกัน ไม่ทราบว่ามีใครเข้ามาช่วยบ้าง เพราะเหตุการณ์ค่อนข้างชุลมุน ไม่ได้เป็นการรุมทำร้าย เพราะแม่ค้าอีก 2 คน ที่เข้ามาตามคลิป ไม่ได้ทราบเรื่องมาก่อน นอกจากนั้น "ป้าอิ๋ว" ยืนยันว่า ไม่ได้มีผู้ชายมายืนคุมเชิงตามข่าว คาดว่า น่าจะเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ที่เดินเข้ามามุงดู และยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่ใจร้อนเกินไป แต่เด็กผู้หญิง ก็ไม่ควรแสดงกิริยาที่ไม่ดี
ด้าน น.ส.ส้ม แม่ค้าอีกรายที่อยู่ในคลิป (เสื้อแดง) เล่าว่า ตนเห็นเด็กผู้ชาย เดินเข้ามาหาเรื่อง ป้าอิ๋ว ก่อนที่เด็กผู้หญิงจะเข้ามาชี้ให้ผู้ชายดู คาดว่าน่าจะมีเรื่องกันมาก่อน จากนั้นทั้งคู่เริ่มเถียง และตบตีกัน ตนเห็นว่า "ป้าอิ๋ว" ถูกกระชากผม จึงเข้าไปช่วยห้าม แต่กลับกลายเป็นถูกลูกหลงไปด้วย จึงต้องป้องกันตัว ไม่ได้เข้าไปรุมตามที่เป็นข่าว เพราะสงสาร "ป้าอิ๋ว" ที่มีโรคประจำตัว ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง
ขณะที่ น.ส.แป้ง (นามสมมติ) หญิงเสื้อเทาในคลิป เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังตั้งร้านขายของในตลาด ก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน แต่ไม่ได้สนใจ จากนั้นได้เดินมาซื้อน้ำ เห็นว่ามีการตบตีกัน ระหว่างเด็กนักเรียนกับแม่ค้าในตลาดจึงเข้าไปช่วยห้าม โดยพยายามแยกทั้งคู่ออกจากกัน ยืนยันไม่ได้เข้าไปทำร้าย เพราะไม่ใช่เรื่องของตัว รวมทั้งไม่ได้รู้จัก "ป้าอิ๋ว" เป็นการส่วนตัว ทราบเพียงว่า เป็นแม่ค้าในตลาดเดียวกันเท่านั้น
ขณะที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ สอบปากคำพยานทั้งหมด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส่วนเด็กผู้เสียหายได้ส่งให้สหวิชาชีพสอบปากคำอีกครั้ง และรอผลการตรวจร่างกายว่า จะแจ้งข้อหาใดอีกบ้าง
ด้าน นายสุวัฏ ตวงสินธุรัตน์ อายุ 33 ปี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ตลาดบีบีมาร์เก็ต กล่าวว่า แม่ค้าที่ก่อเหตุ เปิดร้านขายชุดชั้นในสตรี มาประมาณ 10 ปีแล้ว ในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาด ได้รีบเข้าไประงับเหตุ ซึ่งแม่ค้าคนดังกล่าว เป็นคนค่อนข้างอารมณ์ร้อน หลังจากเกิดเหตุได้มีการพูดคุยกับทั้งสองฝ่าย ทราบว่า ผู้เสียหายเดินช้า และกีดขวางทาง จนเกิดการด่าทอทำร้ายร่างกายกัน
สำหรับมาตรการหลังจากนี้ อยู่ระหว่างพิจารณาหาข้อสรุปว่า จะระงับการขายชั่วคราว หรือระงับการขายของแม่ค้าผู้ก่อเหตุไปเลย ซึ่งจะมีการพูดคุยกับทางแม่ค้าอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเรื่องของคดีคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ