จากกรณีพระอาจารย์เดือนชัย ธมฺวิจโย หรือ หลวงปู่เดือนชัย อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำจารย์ครูภูหินต่าง จ.มุกดาหาร ที่ถูกคำสั่งของคณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร ให้ออกจากพื้นที่จังหวัดมุกดาหารนั้น ขณะนี้พบว่าหลวงปู่เดือนชัยยังคงพักอาศัยอยู่ที่พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ พุทธชยันตี 2,600 ปี ฯ ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก โดยหลวงปู่ยังคงปิดประตูบ้านพัก ไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบ
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
ล่าสุดวันที่ 27 ก.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปยังอุทยานฯ พบว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความความคึกคัก เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวชดเชยวันสงกรานต์ ประชาชนต่างเดินทางมาสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเช่าบูชาเหรียญของหลวงปู่เดือนชัย
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ พระครูสังฆรักษ์ ณรงค์ธัช ธิติโสภโณ (หลวงเตี่ย) พระผู้ดูแลอุทยามาฆบูชาอนุสรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้บรรยายกาศของอุทยานฯ เต็มไปด้วยความครึกครื้น เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ทำให้ญาติโยมเดินทางมาเที่ยวมาสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเช่าเหรียญหลวงปู่เดือนชัยติดไม้ติดมือกลับไป ซึ่งขณะนี้เหลือน้อยมากแล้ว
หลวงปู่เดือนชัยได้เดินทางมาพักอาศัยอยู่ที่อุทยานฯได้ประมาณ 4 วันแล้ว แต่ 2-3 วันที่ผ่านมานี้ หลวงปู่เดือนชัยมีอาการท้องเสีย ไม่ค่อยสบาย เนื่องจากใช้ดวงธรรมรักษาลูกศิษย์ที่ป่วยด้วยโรคร้ายตามวิถีพระป่า หลวงปู่จึงไม่ขอรับแขก ไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบ ทำให้ญาติโยมที่มาเช่าเหรียญแล้วอยากจะให้หลวงปู่เจิมให้ ต้องผิดหวังกันไปหลายคน
หลวงเตี่ย ยังบอกด้วยว่า ปกติแล้วหลวงปู่เดือนชัยจะเดินทางไปมาระหว่าง จ.กาฬสิทธุ์ จ.นครนายก และจังหวัดอื่น ๆ ตามกิจนิมนต์ โดยจะเดินทางไปพักอยู่แต่ละที่คราวละประมาณ 2 -3 วันสลับกันไป โดยไม่แจ้งใครล่วงหน้า เนื่องจากหลวงปู่มีกุญแจส่วนตัวของบ้านพักของอุทยานฯ ซึ่งเมื่อหลวงปู่เดินทางไปที่ใด ลูกศิษย์ที่ติดตามก็จะบอกต่อกันปากต่อปาก ให้ผู้ที่ศรัทธาที่อยากจะพบเข้ามาพบได้
ทั้งนี้หลวงปู่เดือนชัยยังไม่กลับไปจำวัดที่ใดเป็นหลักแหล่ง เนื่องจากพระผู้ใหญ่ยังไม่ได้ปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรดี แต่ก็ต้องขอบคุณญาติโยมหลายคนที่มีน้ำใจ เสนอบริจาคที่ดินในจังหวัดนครนายกและจังหวัดในภาคอีสานให้หลวงปู่เดือนชัย เพื่อสร้างสำนักสงฆ์ ซึ่งหลวงปู่ก็คิดอยากจะมีสำนักสงฆ์เป็นของตัวเอง เพื่อที่ญาติโยมจะได้สะดวกในการเข้าพบ แต่ขณะนี้หลวงปู่ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะรับน้ำใจของใคร
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี รายงานว่าที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง โดยเฉพาะที่บ้านลุงพล มีชาวจ.ร้อยเอ็ด เดินทางมา 9 คน ช่วงเช้าเดินทางมาตั้งแต่ตี 4 โดยมาผูกแขนให้ป้าแต๋น และมอบสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 ใบ หมายเลข 883653 พร้อมทั้งมอบเงินเป็นค่าขนมให้กับลูก ๆ ของลุงพลทั้ง 2 คน อีกทั้งยังมีการมีการส่งเสียงโห่ร้องไชโย ”ป้าแต๋นสู้ ๆ”เป็นกำลังใจให้ครอบครัว
ช่วงบ่ายยังคงมีชาวบ้านเดินทางจากทุกสารทิศมาที่บ้านลุงพล และป้าแต๋น เพื่อมาให้กำลังใจ โดยส่วนใหญ่มาด้วยความตั้งใจที่อยากมาให้กำลังใจหลังจากดูข่าว โดยช่วงบ่ายพบว่ามีแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล มาตั้งแผงค้าที่หน้าบ้าน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะสอบถามบ้านเลขที่ (79) อายุลุงพล (44) ปีเกิด 2519 อายุป้าแต๋น (41) ปีเกิด 2522
ทั้งนี้ยังพบว่านอกจากกำลังใจที่คนเดินทางมาแล้ว ยังมีคนส่งไปรษณีย์เป็นพัสดุมาอีกหลายกล่อง เพื่อนให้กำลังใจ ทั้งผลไม้ กล้องวงจรปิดอีก 2 ตัว หม้อหุงข้าว กระเป๋า และเสื้อผ้า
ทีมข่าวสอบถาม นายศักดิ์ พ่อค้าขายลอตเตอรี่ ซึ่งมาตั้งแผงที่หน้าบ้านลุงพล เดินทางมาจาก จ.เลย เปิดเผยว่า ตนมาตั้งแต่ช่วงเช้า ปกติตนจะขายอยู่ กทม. แต่ช่วงนี้มีโควิด-19 ก็มาขายแถวนี้ โดยมาขายตั้งแต่เมื่อวาน แต่ไม่ได้ปักหลักแบบนี้ ประกอบกับเห็นว่ามีคนมาให้กำลังใจลุงพลจำนวนมาก วันนี้ตนจึงมาอีก โดยมาขอลุงพลว่าจะตั้งแผงจุดนี้ ลุงพลก็ใจดี อนุญาตให้ตั้งแผง โดยไม่ได้ว่าอะไร ลุงพลใจดีมาก ๆ
อย่างไรก็ตามวันนี้ก็พอขายได้อยู่บ้าง โดยเลขที่เกี่ยวกับลุงพล ป้าแต๋นก็ขายได้ รวมทั้งเลขมงคล ซึ่งตอนนี้ขายหมดแผงไปแล้ว ตนก็อยากให้คนมาให้กำลังใจมาก ๆ เพราะลุงพลเป็นคนดีมีน้ำใจดี ซึ่งลุงพลไม่ได้เรียกร้องค่าเช่าที่อะไรเลย ถึงไม่เรียก ตนก็คิดว่าจะให้ลุงพลอยู่บ้าง
นายไชย์พล วิภา ลุงของชมพู่ กล่าวว่า ตนเห็นพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ไม่ได้มีการกางร่มแบบนี้ วันนี้เขามาโดยขออนุญาติตน ขอตั้งร่ม ตนก็ไม่ได้ขัด ก็บอกว่าแล้วแต่พ่อค้าแม่ค้า เพราะตนก็คิดว่าคนอาจอยากเสี่ยงโชค ซึ่งเลขที่ซื้อก็เอาทุกอย่าง บ้านเลขที่ อายุ วันเดือนปีเกิด ตนไม่คิดจะไล่พ่อค้าแม่ค้ากลุ่มนี้ เพราะคิดว่าเขาก็ทำงานอาชีพสุจริต ทำมาหากินเหมือนกัน ในทางกลับกันตนดีใจด้วยซ้ำที่พี่ ๆ กลุ่มนี้มีรายได้