จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ได้รับแจ้งเหตุ นายสมทรง พิเกตุ อายุ 62 ปี ใช้มีดปลายแหลมแทงเข้าที่หน้าอกซ้ายของ น.ส.หนึ่งฤทัย กลมกระโทก อายุ 44 ปี บริเวณหมู่บ้านหมู่ 7 ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สาเหตุคาดว่าเกิดจากปมหึงหวง
จากนั้น ผู้ตายวิ่งออกมาบริเวณหน้าบ้าน เพื่อขอความช่วยเหลือ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเดียวกันผู้ก่อเหตุก็ได้ดื่มยาฆ่าหญ้า เพื่อฆ่าตัวตายหนีความผิด และขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นคลิก สีดำ-แดง ทะเบียน สบต.500 กทม. หลบหนีไป
ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบศพนายสมทรง นอนเสียชีวิตน้ำลายฟูมปากอยู่ที่บ้านฝากห้วย บ้านเลขที่ 221 หมู่ 9 ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ห่างจากจุดก่อเหตุประมาณ 7 กิโลเมตร
วันที่ 31 ก.ค. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่บ้าน ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบเป็นบ้านชั้นเดียว ยังคงปรากฏรอยคราบเลือดอยู่ที่บันไดบ้านและหน้าบ้าน ประตูล็อกไว้
นางทองม้วน วิจิตรโท อายุ 53 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า โดยเมื่อเช้านี้ เวลาประมาณ 07.00 น. ตนได้บังเอิญขี่รถจักรยานยนต์สวนกับนายสมทรง ห่างจากจุดที่นายสมทรงเสียชีวิตประมาณ 1 กิโลเมตร
ขณะนั้นนายสมทรงกำลังขี่รถจักรยานยนต์ ใบหน้าเขียวช้ำ น้ำลายไหลเป็นฟองออกจากปาก ขับรถส่ายไปมา ขณะนั้นตนคิดในใจว่านายสมทรงน่าจะเพิ่งขี่รถล้มมา เพราะมีใบหน้าเขียวช้ำ จนมาทราบภายหลังว่านายสมทรงกินยาฆ่าหญ้า หลังแทงภรรยา
โดยในเวลา 10.00 น. ชาวบ้านจึงได้มาพบกับรถจักรยานยนต์ของนายสมทรงจอดอยู่ข้างโอ่งในพื้นที่กระท่อมเลี้ยงไก่ ตอนแรกชาวบ้านคิดว่าโจรแอบขโมยรถจักรยานยนต์มาซ่อน เนื่องจากไม่คุ้นรถจักรยานยนต์คันนี้มาก่อน จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นชาวบ้านก็ได้เดินสำรวจพื้นที่กระท่อมและได้พบศพนายสมทรง
ด้านนางภาวนา หอมระรื่น อายุ 49 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้ก่อเหตุและผู้ตายอยู่กินกันมาได้ประมาณ 2 ปี ฝ่ายชายมีนิสัยไม่สุงสิงใคร ส่วนฝ่ายหญิงเป็นคนมีอัธยาศัยดี ทั้งคู่ประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวรถเข็น และมักมีปากเสียงตามภาษาสามีภรรยาอยู่บ่อยครั้ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นปมหึงหวงระหว่างกัน ฝ่ายหญิงก็ยังสาว มีคนมาติดพันบ้าง
โดยวันนี้ ในเวลาประมาณ 05.00 น. ตนได้ยินเสียงนายสมทรงและนางสาวหนึ่งฤทัยมีปากเสียงกัน จนผู้ตายวิ่งออกมาหน้าบ้าน ตะโกนร้องเรียกตน "ช่วยด้วย ๆ" ตนที่เพิ่งตื่นนอนรู้สึกตกใจ รีบวิ่งออกมาดู พบว่านางสาวหนึ่งฤทัยถูกแทง มีเลือดไหลออกปากและหู ผ่านไป 10 นาที เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุ พบว่านางสาวหนึ่งฤทัยนอนหงายแน่นิ่งไปแล้ว ส่วนนายสมทรงก็เดินหน้านิ่งออกมาจากบ้านแล้วขับรถจักรยานยนต์ออกไป พูดกับตนว่า "จะไปตาย"