จากรณีดราม่าระหว่าง “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” และ “เก้า เกริกพล” ในเรื่องส่านแบ่ง 70/30% ของยอดวิวจากยูทูป หลายๆคนก็อยากรู้ว่าเรื่องราวนี้จะจบลงยังไงแบบไหน เพราะอีกฝ่ายบอกว่าสัญญาใจไม่มีอยู่จริง แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกเรามีสัญญาใจกัน วันนี้ ทางรายการ Z Story จึงได้ติดต่อไปหา “ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต” เกี่ยวกับเรื่องของทางกฎหมายว่าในส่วนของทางกฎหมายจะสามารถทำอะไรได้บ้างทำยังไงได้บ้าง โดยทนายเจมส์ .......
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โดนแกงทั้งอำเภอ!!! "กรรชัย" โชว์หลักฐานค่าตัวหลักหมื่น "เก้า" ยันได้ 500 จาก "เจนนี่"
- เปิดเรทค่าตัว "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" สูงสุด 2 แสนบาท!!
”ในคดีลักษณะแบบนี้ต้องอธิบายก่อนนะครับ ในทางกฎหมายการทำนิติกรรมสัญญา บางประเภทกฎหมายกำหนดว่าจะต้องมี สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ในภาษากฎหมายคือกฎหมายกำหนดรูปแบบเอาไว้ สัญญาบางประเภทกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดเอาไว้ เพราะฉะนั้นต่อให้ไม่มีสัญญาก็สามารถฟ้องร้องกันได้ อย่างกรณีของน้องเก้า คือสัญญาร่วมลงทุน ในทางกฎหมายคือการลงทุนเพื่อเป็นหุ้นส่วน การลงทุนร่วมกันกฎหมายไม่ได้กำหนดรูปแบบ ไม่ได้บังคับให้ไปจดทะเบียน หลักฐานคือคุณลงทุนด้วยอะไร กรณีของน้องเก้า น้องเก่าลงทุนด้วย ด้วยน้ำเสียง ด้วยชื่อเสียงของตัวเองมี ด้วยลิขสิทธิ์ภาพ ด้วยลิจสิทธิ์นักแสดง ในทางกฎหมายเรียกว่าลงทุนด้วยแรง เพราะน้องเจนนี่ร้องเพลงเสียงผู้ชายไม่ได้ เพราะฉนันลิขสิทธิ์ทั้งหมดจะเป็นของน้องเจนนี่คนเดียวไม่ได้ น้องเก้าลงทุนด้วยแรงน้องเก้าต้องเป็นหุ่นส่วนด้วย ในทางกฎหมายกำหนดไว้ ถ้าเกิดไม่ได้กำหนดไว้ว่าค่าแรงของน้องคิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ ให้สันนิษฐานไว้ว่า มีส่วนเท่าๆกัน 50/50 ได้เลย