เป็นคู่ซี้ต่างวัยที่สนิทกันมากตั้งแต่เข้ามาอยู่บ้านเอเอฟด้วยกัน ความผูกพันที่มีให้กันนับสิบๆ ปีเลยทำให้ "ซานิ นิภาภรณ์ ฐิติธนการ" และ "ตุ้ย เกียรติกมล ล่าทา" รู้กันทุกเรื่อง คุยกันทุกอย่าง ล่าสุดทั้งคู่ได้ควงกันมาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ นั่งเล่าอดีตให้ฟังกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกันเคลียร์ให้ฟังชัดๆ กลางรายการให้หายข้องใจใครหลายๆคน ที่เห็นความสนิทของทั้งคู่ที่ดูจะเหมือนคู่รักมากกว่าเพื่อน ว่าชีวิตนี้คงเป็นแฟนกันไม่ได้แน่นอน คอนเฟิร์ม!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ตั๊ก ศิริพร" เปิดใจ มีลูกแล้วทุกข์ เพราะรักมาก!
- "สงกรานต์" เจ้าพ่อเพลงดังร้อยล้านวิว!! เปิดอกยอมรับชีวิตอยู่ในช่วงขาลง
- "ดี้ ปัทมา" ขายหน้ากากอนามัย แต่ไม่ทิ้งงานวงการ!
- "บ่าววี" ขอสู้สุดชีวิต งานหดแต่ไม่ทิ้งลูกน้องในช่วงโควิด!
- "แอน สิเรียม" ผันตัวเป็นชาวสวน พร้อมควงลูกสาว "นนนี่" เคลียร์ใจความต่างขั้ว
ซานิ : ถูกชะตาตั้งแต่ที่เราเข้าบ้าน AF เลย จริงๆ สนิทกันเพราะว่ามีคอนเสิร์ตเดอะวินเนอร์ คนประเภทเดียวกันเคมีเราก็จะเข้ากัน
ถาม สนิทกันจน ตุ้ย จะแย่งแม่ของ ซานิ เป็นของตัวเองเลย??
ซานิ : ใช่ค่ะ พี่ตุ้ยสนิทกับแม่ เขาเป็นเด็กกตัญญูมาก
ตุ้ย : คือตอนไปถ่ายละคร นิเขาก็จะเอาคุณแม่ไปด้วย ผมก็จะรู้สึกว่าอยู่ในกองมันก็ไม่ได้สบาย ผมก็จะมีเก้าอี้สนามที่เราติดไป เราก็จะเอามาให้คุณแม่นั่ง แม่ทานอะไรหรือยัง เราแบบเทคแคร์แม่
ถาม ถามเลยดีกว่า อย่าง ซานิ ใช่สเปก ตุ้ย ไหม
ตุ้ย : จะเพลินๆ ก็ได้ (หัวเราะ) ไม่ครับ รู้สึกเหมือนน้อง
ซานิ : สเปกพี่ตุ้ยคือสาวไทบ้านเลย ไม่ชอบผู้หญิงปรุงแต่งเยอะ เขาชอบคนง่ายๆ เรียบร้อย
ตุ้ย : ผมเป็นคนขี้หวง ชอบมองคนอื่นนะ แต่ไม่ชอบให้ใครมามองคนรักเรา
ถาม ตุ้ย เป็นคนเจ้าชู้ไหม??
ซานิ : ถ้าโสดเจ้าชู้ แต่ถ้าไม่โสดเขาจะเป็นคนนิ่งมากเฉยๆ เลย
ถาม แล้วตอนนี้มีแฟนหรือยัง??
ตุ้ย : จะเป็นคนนอกวงการส่วนมาก เพราะเราเป็นคนขี้หวง ถ้าเป็นคนในวงการด้วยกันจะไม่ได้ ใส่แบบเปิดนิดหน่อยก็ไม่ได้ เวลาเข้าฉากละคร จับไม้จับมือนิดหน่อยก็ไม่ได้ ขี้หวง ผู้หญิงในวงการบันเทิง เราจะเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันมากกว่า 14 ปีในวงการบันเทิง ผมไม่เคยมีแฟนในวงการ ไม่มีชอบเลย เพราะความขี้หวงของเรา เดี๋ยวทำให้คนอื่นเขาทำงานลำบากไปหมด
ตุ้ย : อีกอย่างคือที่ไม่คบกับผู้หญิงในวงการเพราะว่าถ้าเราเลิกมันก็มีโอกาสวนกลับมาเจอกันอีก แต่ถ้านอกวงการเราเลิกกับเขาเราก็ไม่ได้เจอกันอีก
ถาม มีครั้งหนึ่งเห็นว่าไปเที่ยวด้วยกันแล้ว ซานิ ตามจีบผู้หญิงให้ ตุ้ย แต่กลับเจอเหตุการณ์ชวนขนลุก เกิดอะไรขึ้น
ตุ้ย : มีอยู่ครั้งหนึ่ง เราไปทำงานด้วยกันที่เชียงใหม่ แล้วไปร้านๆ หนึ่ง
ซานิ : เราไปเจอผู้หญิงคนหนึ่ง สวยออร่ามาก ต้องบอกว่าผู้หญิงเชียงใหม่เวลาเราเจอยิ่งตอนกลางคืนนะ จะขาวพุ่งมากๆ เราก็คิดแล้วว่าคนนี้ พี่เราต้องได้ ต้องตามจีบเอาเบอร์มาให้ได้ เพราะหุ่นดีโครต แล้วผมดำยาวถึงกลางหลัง เราก็เดินเข้าไป เราเห็นพร้อมกันทั้งคู่ เราบอกพี่ตุ้ย คนนี้หุ่นโครตดี แล้วเขาเดินหายเข้าไป ค่อยๆ หายไปในซอย แล้วก็เดินหายเข้าไปในศาลพระภูมิ
ตุ้ย : เราก็หันมาถาม นิ เห็นไหม
ซานิ : เห็น เราก็โบกรถกลับเลยทันทีทั้งคู่ แบบตอนนั้นสร่างเลยค่ะ คือตอนนั้นเราอาจจะแซวเพลินปากไปนิดนึง ก็ได้ขอขมาไปเรียบร้อย
ถาม เราทั้งคู่ก็ผ่านมาถึงขนาดนี้ เคยมีสักแว๊บไหมที่ปิ๊งกัน
ซานิ : ไม่มีเลยค่ะ
ตุ้ย : ไม่มีเลย
ซานิ : จะบอกว่าที่ไม่มีความรู้สึกนั้นเพราะอะไรรู้ไหม เพราะพี่ตุ้ยเขาเห็นการพัฒนาของหนูตั้งแต่ที่เราเป็นลิงจนมาถึงทุกวันนี้ เขาเห็นเราหมด ตอนแรกเราเหมือนเด็กผู้ชายจริงๆ จบจากเอเอฟคือทอมบอยเลย ถ้าคนไม่ถามว่าเพศไหน เราแทบไม่ต้องตอบเลยเพราะคำตอบอยู่บนใบหน้าของเรา อยู่ที่ทรงผมของเรา มันเลยทำให้พี่ๆ หรือคนที่มาเจอเราแรกๆ เห็นเราเป็นน้องชายเลย
ถาม ภาพที่เราเห็น คือเขาวางให้เราหรือเปล่า??
ตุ้ย : เป็นคาแรคเตอร์ของแต่ละคนที่มีอยู่ในตัวเองมากกว่าครับ ไม่มีการเซ็ตว่าใครจะต้องเป็นแบบไหน ซานิเขาก็จะเป็นแบบของเขา ผมก็จะเป็นตัวของตัวผมเอง ก็จะมีการแนะนำปรึกษากันเรื่องแฟนคลับมากกว่า
ซานิ : เพราะตอนแรกหนูให้แฟนคลับขึ้นมาถึงห้องนอนได้เลย คุณพ่อคุณแม่เรา เวลามีคนเชียร์เรา มีคนมาช่วย แม่เราก็รู้สึกซาบซึ้งใจ พอเราออกจากบ้านมา เขาก็อยากมาเจอเรา บางทีเรานอนอยู่ที่คอนโดตอนนั้นที่เราอยู่ก็ไม่ได้ใหญ่มากเปิดประตูมาเจอเราเลย หนูก็แบบมันใช่เหรอ แต่ด้วยความพ่อแม่เราเขาก็เกรงใจ เขารักลูกเรานะ เขาก็อยากเจอแต่เขาก็ลืมไปว่าบางทีเราก็ต้องมีกรอบเอาไว้ เราก็มาเจอพี่ๆ เราก็ได้ปรึกษาพี่ตุ้ย เราเจอแบบนี้ๆ นะ พี่เขาก็แนะนำว่าเรื่องนี้เราต้องวางกรอบไว้นะ เราไม่ใช่ไม่รักเขานะ แต่เราได้เท่านี้ เขาได้เท่านี้ ต้องมีพื้นที่ต่อกันเราถึงอยู่ด้วยกันได้นาน
ถาม ตุ้ย กลัว ซานิ ในเรื่องการแต่งตัวมาก เพราะ ซานิ แต่งตัวล้ำมาก??
ตุ้ย : ใช่ครับ เขาเป็นคนที่ชอบการแต่งตัว ล่าสุดเขาเลยเปิดร้านขายเสื้อผ้า เราเคยไปออกงานด้วยกัน นางจะเยอะมาก ผมเคยเห็นตู้เสื้อผ้าเขา เสื้อผ้าเยอะอลังการมาก ใหญ่กว่าห้องครัวอีก เลยทำให้เรากลัว คนอะไรจะใส่เสื้อผ้าเยอะได้ขนาดนี้
ถาม ทำไมถึงเปลี่ยนการแต่งตัว เสื้อผ้า หน้าผม แบบชนิดที่เปลี่ยนแรงมากหนักมาก??
ซานิ : มันเริ่มจากความขี้เกียจของเราก่อน ช่วงที่เราผมสั้น แล้วเครื่องประดับเราเยอะมาก เหมือนโซ่แซ่กุญแจมือเยอะมาก กว่าเราจะใส่ กว่าจะออกจากบ้านเป็นครึ่งชั่วโมง เป็นชั่วโมงเลยค่ะ มันเหนื่อย แต้ถามว่าหยุดได้ไหม มันหยุดไม่ได้ แต่เมื่อเราผมยาวขึ้น ประกอบกับจะให้เราไปใส่อะไรแบบนั้นมันก็ไม่เข้า เราเลยเปลี่ยนจากการใส่โซ่แซ่กุญแจมือ เป็นหมวก เป็นใส่เสื้อผ้าสวยๆ ที่ดีเทลเยอะแทน เราเป็นผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวสวยๆ แบบนี้ พี่ตุ้ยเขาถึงไม่ชอบ
Advertisement