เสียงดังสนั่นลั่นท้องฟ้าเมืองปทุมฯ ผู้เชี่ยวชาญชี้เป็นดาวตกขนาดใหญ่และระเบิดกลางอากาศ ไม่เป็นอันตราย ขณะชาวบ้านคิดว่าหม้อแปลงระเบิด
จากกรณีเกิดเสียงดังสนั่นช่วงเย็นวานนี้(6 ส.ค.) มีประชาชนจำนวนหนึ่งได้ยินเสียง บริเวณพื้นที่เขตสายไหม แจ้งวัฒนะ พระราม2 ในเขตกรุงเทพมหานคร รวมถึงบริเวณ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และหลายพื้นที่ในจ.ปทุมธานี รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน มีผู้บันทึกภาพกลุ่มควันพาดผ่านบนท้องฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ได้และไม่มีรายงานผลกระทบใด ๆ ต่อชีวิตและทรัพย์สินนั้น
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวจากหลักฐานที่รวบรวมได้เบื้องต้น คาดว่าอาจเกิดจากดาวตกขนาดใหญ่พุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นสามารถได้ยินได้ในหลายพื้นที่และเกิดแรงสั่นสะเทือนที่สามารถรับรู้ได้บางแห่ง อาจมีหน้าต่างสั่นไหว อย่างไรก็ตามหากมีข้อมูลภาพหรือคลิปเหตุการณ์ก็จะมีข้อมูลมากเพียงพอที่จะหาข้อสันนิษฐานที่ชัดเจนกว่านี้
กรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาแล้ว เช่น เมื่อ 7 ก.ย. 58 บริเวณ จ.กาญจนบุรี นนทบุรี ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ สำหรับการระเบิดเหนือท้องฟ้าในลักษณะนี้เกิดขึ้นทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง แต่มีเพียงเหตุการณ์เดียวเมื่อปี 56 ที่เมืองเชลยาบินสค์ประเทศรัสเซียที่มีรายงานผลกระทบรุนแรงจากอุกกาบาตยักษ์พุ่งเข้าสู่โลกและระเบิดเหนือฟ้าสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
ดร.ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่าตามปกติแล้วจะมีอุกกาบาตขนาดเล็กหลุดเข้ามาในบรรยากาศของโลกเป็นประจำโดยทั่วไปไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ แต่หากวัตถุมีขนาดใหญ่และมีมวลรวมหลายตันเมื่อเข้ามาในบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูงจึงเกิดการระเบิดเหนือพื้นโลกมีแสงสว่างวาบและมีเสียงระเบิดตามมาเป็นระลอกในภายหลัง และถึงแม้ว่าจะมีโครงการเฝ้าระวังวัตถุใกล้โลกของ NASA และหลายหน่วยงานที่คอยติดตามวัตถุในลักษณะนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถตรวจจับวัตถุที่มีขนาดเล็ก ๆ ที่อาจมีวงโคจรที่ผ่านเข้าใกล้โลกได้ทั้งหมด เนื่องจากมีความสว่างน้อยและมีจำนวนมากนับล้านวัตถุ
วัตถุที่สามารถทำให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มีหลายชนิดเช่นดาวเคราะห์น้อยที่มักโคจรมาใกล้โลกเศษซากดาวเทียมที่หมดอายุการใช้งานและถูกปล่อยทิ้งไว้ในวงโคจรอาจถูกแรงดึงดูดของโลกดึงกลับมาในชั้นบรรยากาศก็เป็นได้ เหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องปกติสามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ไม่ต้องกังวลและตื่นตระหนกไปเนื่องจากโอกาสที่จะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมาก
อย่างไรก็ตามประเทศไทยมีโครงการเฝ้าระวังวัตถุจากนอกโลก ดำเนินการโดยสดร.ร่วมกับกองทัพอากาศและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.7 เมตรเฝ้าสังเกตการณ์วัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่า 100 เมตร ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ปกติแล้วนักดาราศาสตร์จะตรวจสอบล่วงหน้าและสามารถติดตามวัตถุที่มีขนาดใหญ่ได้เกือบทั้งหมดส่วนวัตถุที่มีขนาดเล็กกว่า 100 เมตรนั้นตรวจสอบได้ยากมากและหากวัตถุขนาดเล็กพุ่งชนโลกก็จะเกิดการเสียดสีในชั้นบรรยากาศอาจเกิดการระเบิดเผาไหม้หมดไปบนท้องฟ้าหรืออาจเหลือเพียงเศษอุกกาบาตขนาดเล็กตกลงมาซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ขณะที่นายวิชิต เชิดรัมย์ ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า ได้ยินเสียงระเบิดบนท้องฟ้าซึ่งก็นึกว่าเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดและก็ไม่ได้คิดอะไรจนมาดูข่าวจึงรู้ว่าเป็นดาวตกระเบิดบนท้องฟ้า และป้าร้านขายข้าวก็บอกว่าตนก็ได้ยินเหมือนก็นึกว่าฟ้าร้องเพราะท้องฟ้ามืดครึ้มเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ได้ยินเสียงดังครื้นเพราะอากาศร้อนมาก