จากกรณีนายประไพร เชือกพรม อายุ 60 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านสร้างแก้ว ต.หินโงม ใช้ปืนลูกซองยิง นายสุพร บัวปัด หรือ “โจอี้” อายุ 20 ปี หลานชายทาสยานรก ที่เลี้ยงมากับมือตั้งแต่เกิด จนเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 4 บ้านสร้างแก้ว ต.หินโงม ก่อนที่นายประไพร จะขี่รถมอเตอร์ไซค์สะพายปืนเข้ามอบตัว อ้างว่าหลานชายมักจะขอเงินไปเสพยาวันละ 200-300 บาท หากไม่ได้ก็จะคลุ้มคลั่งอาละวาด และขู่ฆ่ายกครัว
นายทองเลื่อน ขันธะชัย อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านสร้างแก้ว ต.หินโงม เปิดเผยว่า นายสุพร มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแน่นอน ก่อนหน้านี้ ญาติ ๆ เคยนำตัวนายสุพร ไปรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์ให้ยามากินเพื่อระงับอาการทางจิต แต่นายสุพร ก็ไม่ยอมกินยา
ผู้ใหญ่บ้าน ยังบอกอีกว่า นายสุพรติดยาเสพติดมาประมาณ 5-6 ปี สาเหตุที่นายประไพร ใช้ปืนลูกซองยิงนายสุพร หลานชาย เพราะมีอาการอยากเสพยาเสพติด น่าจะเข้าไปทำร้ายตากับยาย จนกระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ไม่นานนักลูกบ้าน ก็วิ่งมาบอกว่ามีเหตุยิงกันในหมู่บ้าน นายประไพรยิงหลานชาย ให้ตนไปดูเหตุการณ์
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุจึงถาม นายประไพร จึงทราบว่าหลานชายเมายาเสพติด ถือมีดพร้าอาละวาดจึงยิงป้องกันตัว ขณะเดียวกันเมื่อวันก่อน หลานชายคลุ้มคลั่งจะฆ่าตากับยาย ถือมีดจะแทงยาย ญาติก็บอกว่าให้ไปแจ้งตำรวจจับ แต่ก็ยังไม่ทันแจ้ง จนมาเกิดเหตุเสียก่อน
สำหรับนายสุพร มักจะชอบไปร้านขายของชำ ไปเชื่อเหล้ามากิน พอเจ้าของร้านไม่ให้เชื่อก็อาละวาดจะทำร้าย จนทำให้เจ้าของร้านกลัว ต้องยอมให้เชื่อเหล้า และคนที่ไปจ่ายเงินให้ก็เป็นตากับยาย จ่ายไม่ต่ำว่า 300 บาทต่อ 1 วัน รวมทั้งมีพฤติกรรมรุนแรง อาละวาดจะทำร้าย และขู่ฆ่าครูอาจารย์ที่โรงเรียนอีกด้วย เด็ก ๆ ในหมู่บ้านหวาดกลัวกันหมด กลัวจะได้รับอันตราย เพราะมีอาการคลุ้มคลั่งตลอดเวลา ซึ่งตนไมแน่ใจว่านายสุพร ไปซื้อหายาเสพติดกับใคร
นายประไพร เชือกพรม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและก่อเหตุยิงหลานชายตาย ให้การว่า ตนใช้ปืนยิงหลานชายตายจริง เพราะตนสุดจะทนกับพฤติกรรมหลานชาย ซึ่งผู้ตายไม่ยอมทำงาน ขอแต่เงินไปซื้อยาบ้ามาเสพวันละ 200-300 บาท พอเสพยาบ้าก็จะดื่มเหล้าขาว ขี่รถจักรยานยนต์รอบหมู่บ้าน ถ้าไม่ให้ก็จะอาละวาดขู่ฆ่าตายาย จนต้องหามาให้
โดยครั้งล่าสุดออกจากโรงพยาบาลมาเดือนมกราคม แต่ก็กลับมาเสพอีก ถ้าไม่ให้ก็ทำพฤติกรรมเหมือนเดิม ตนต้องทนฟังผู้ตายด่าและขู่ฆ่ามา 3 เดือน โดยก่อนเกิดเหตุตนขอให้ปลัดอำเภอมาตรวจปัสสาวะที่บ้าน เพื่อหาสารเสพติดแต่ตรวจไม่พบ พอปลัดอำเภอกลับก็อาละวาดด่าทอว่า “พวกหน้าโง่ เอาเขามาตรวจกู มาจับกู กูจะฆ่าให้หมด”
อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกเสียใจที่ยิงหลาน เพราะเป็นหลานชายคนแรกและเลี้ยงมากับมือ ตั้งแต่เกิดจนอายุ 20 ปี รักหลานมาก แต่หลานเสพยาบ้าจนหลอน ขู่ขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพทุกวัน ถ้าไม่ให้ก็อาละวาดขู่ฆ่า เอาตัวไปรักษาเพราะอยากให้หาย แต่ก็กลับมาเสพอีก จึงต้องตัดสินใจยิงป้องกันตัว เพราะถ้าหลานไม่ตาย ตนก็ต้องตาย
ทั้งนี้ ปลัดอำเภอ จึงได้ควบคุมตัวนายประไพร พร้อมอาวุธปืนลูกซอง พาไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” และควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป