คุณแม่คนสวย "แนน ชลิตา" พาลูกชาย "น้องธัชช" วัย 4 ขวบครึ่งมารายการ ต้มยำอมรินทร์ ทำเอาเหล่าพิธีกรชื่นชมในความน่ารัก ช่างพูดของน้องธัชชกันใหญ่ เห็นตัวแค่นี้รู้จักเป็นนักรีวิวแล้วนะ แถมยังอยากเลื่อนขั้นเป็นยูทูบเบอร์ตัวน้อยและขอมีช่องยูทูบของตัวเองด้วย น่ารักขนาดนี้ ทำคุณตา คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่และคุณน้าหลงแบบสุดๆ แต่แม่แนนก็ไม่ตามใจลูกจนเกินไป พร้อมเผยเคล็ดลับการเลี้ยงลูกอีกด้วย บอกเลยว่าน่าเอาเป็นแบบอย่างมากๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ตูน เอเอฟ 3" เปิดเส้นทางจากนักร้องล่าฝันสู่เชฟมืออาชีพ
- คุณแม่ 2 พิธีกร "อั๋น ภูวนาท-เอิ๊ก พรหมพร" เผยวีรกรรมสุดแสบที่จำไม่เคยลืม!
- "นิโคล" ปรึกษา "ทิกเกอร์" ทุกเรื่อง ไม่เว้นเรื่องรัก!
- "ลิฟท์ สุพจน์" ยกธุรกิจครอบครัวให้ภรรยาคุม เคยทะเลาะเกือบบ้านแตก!
- "เจี๊ยบ วรรธนา" วางไมค์! ผันตัวเป็นนักเขียนบทมือทอง
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวีที่นี่
ถาม เป็นคุณแม่สายสตรองมาก แนนกับพี่เม่น(สามี)เข้มงวดกับลูกมากไหม ?
แนน : เข้มงวดกันคนละเรื่อง อย่างแนนจะเข้มงวดกับเขาเรื่องการเรียน มีช่วงนึงที่ต้องเรียนออนไลน์ 3 เดือน รู้ตัวเลยว่าตัวเองเป็นคนไม่ปล่อยวาง เพราะตัวเองเป็นเด็กเรียน เป็นเด็กห้องคิง เวลาลูกเรียนกับคุณครู เราจะแอบหยิกอยู่ใต้โต๊ะ "ธัชช ตั้งใจเรียนสิ" คือเขาเด็ก ฟังๆ ได้ 10 นาที เขาก็อยากไปเล่น เดี๋ยวก็วิ่งไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวก็วิ่งไปกินขนม แนนเป็นคนที่ ถ้าลูกจำตรงนี้ไม่ได้ แนนไม่ปล่อยให้กินข้าว เราซีเรียสเพราะเราเป็นคนตั้งใจเรียน เราก็อยากจะให้ลูกได้ เราก็พยายามทำใจ สามีก็บอกว่า "แนน ลูกเพิ่งจะสี่ขวบครึ่ง อย่าไปซีเรียส" เราบอก ไม่ได้ เราต้องปลูกฝังวินัยให้ลูกตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก
ถาม แล้วถ้าเทียบกับพี่เม่น เขาซีเรียสเรื่องอะไร?
แนน : ซีเรียสเรื่องมารยาท เวลาเขาไปไหน เขาจะให้ลูกสวัสดีทุกคน พ่อบอกสวัสดีครับ ธัชชต้องสวัสดีมีมารยาท ใครให้ของก็ต้องขอบคุณ พ่อเขาจะซีเรียสเรื่องนั้น
ถาม ถ้าเจอใครแล้วไม่สวัสดี ไม่ขอบคุณ พ่อจะมีวิธีการดุยังไง?
แนน : เขาไม่ดุ เขาก็จะบอกว่าธัชชสวัสดีหรือยัง สวัสดีก่อน เขาจะพูดจนหลังๆ ธัชชเป็นนิสัย เห็นน็อต เห็นแจน เห็นที่บ้านเดินลงมาก็สวัสดีครับ กลายเป็นอัตโนมัติตามที่พ่อเขาพยายามจะปลูกฝัง ใส่เรื่องพวกนี้ลงไป
ถาม เมื่อกี้จับสับปะรดแล้วเดินเข้าไปล้างมือ ดูเป็นเด็กสะอาดตั้งแต่เด็ก
แนน : ทำไมธัชชต้องล้างมือ เพราะอะไร?(ถามลูกชาย)
ธัชช : มือมันเหนียว
ถาม ใครดุกว่ากัน คุณพ่อกับคุณแม่?
ธัชช : ไม่มี
ถาม จริงๆ แนนดุไหม?
แนน : ก็คิดว่าตัวเองดุนะ ดุบางเรื่อง จริงๆ พ่อใจดีกว่า ไอ้นี่อ้อน(แซวธัชช) เขาเคยบอกว่าเขากลัวน้าน็อตมากที่สุด เขาเคยดุธัชชกลัว เขาตัวใหญ่
ถาม ความประหยัดเนี่ย คุณพ่อเป็นคนปลูกฝังเลยใช่ไหม?
แนน : เวลาเขาอยากได้อะไร เราจะบอก เนี่ยแม่ไม่ได้ทำงานเห็นไหมคะ หรือไม่ก็ แม่ต้องออกไปกี่รอบเนี่ย กว่าแม่จะได้เงินมาซื้อของให้ธัชชอย่างนึง ก็พยายามบอกเขาว่าเงินมันไม่ได้หาง่ายๆ
ถาม แล้ววิธีการใช้เงิน?
แนน : เขาไม่ค่อยอยากได้ของเล่นอะไรเยอะแยะมากมาย เขาชอบทำของจริงๆ ทำน้ำปั่น แล้วก็ถูพื้น ชอบเปิดแอร์ ทำความสะอาด ชอบแบบนั้น ของเล่นก็เล่นเหมือนกัน แต่ไม่ได้ซื้ออะไรให้ราคาแพง ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน ต้องทำอะไรแลกเปลี่ยน
ถาม แนนมีวิธีในการบอกลูก เวลาเขาเห็นเพื่อนๆ มีแล้วอยากได้บ้าง
แนน : เขาอยากได้นาฬิกาไอโม่เพราะมีเพื่อนที่โรงเรียนใส่ไปโรงเรียน อยากได้มาก พูดทุกวัน เราก็บอกว่าเขาไม่ได้ได้จริงๆ หรอก สงสัยเขาให้มารีวิวแล้วถอดคืน น่าจะเป็นอย่างนั้น
ถาม มีการสอนให้หยอดกระปุกออมสินไหม?
แนน : ตอนเด็กๆ ก็มีนะ หยดจนเต็มแล้วก็เก็บ แล้วก็ใส่กระเป๋าแตงโม ธัชชจะมีกระเป๋าไว้เก็บสตางค์เป็นกระเป๋าแตงโม
ถาม นิสัยที่ประหยัดแบบนี้ ได้มาจากคุณพ่อไหมคะ?
แนน : ก็คิดว่าน่าจะได้คุณพ่อ(สามีแนน) จริงๆ ประหยัดกับขี้เหนียวมันใกล้กันมากเลย เขาเป็นคนที่จะซื้ออะไร คือคิดแล้วคิดอีก คือเขามีเงินมากกว่าเรา หาเงินได้มากกว่าเรา บางทีไปดูเสื้อกัน จริงๆ ไม่ได้แพงเลยนะ ประมาณ 790 หรือ 990 อะไรอย่างนี้ เขาก็แบบดู เราก็ทำไมไม่ซื้ออะ? เขาบอกเดี๋ยวรอมันลด 500 เดี๋ยวมันก็ลด
ถาม จนแนนทนไม่ไหว ต้องซื้อให้
แนน : ซื้อให้ เขาเป็นคนชอบซื้อของใช้ในบ้าน เป็นพ่อบ้าน เขาจะดูเปรียบเทียบ เวลาไปห้างจะมีสติกเกอร์ ประหยัด 30 20 พี่เม่นมีเป็นกระเป๋า อย่างเราอะ ซื้อเหอะ ไม่เป็นไร เราขี้เกียจ ไม่ได้ดูอะไรวุ่นวาย เขาพกสติกเกอร์อันนั้นทั้งแผ่น ไปซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วก็หยิบมา เดี๋ยวก่อนๆ ซื้อครบพันหรือยัง? เขาเป็นอย่างนั้น เขาเคยพูดกับเราว่า เขาเคยไม่มีมาก่อน เขาบอกว่าไม่มีเลย คือจน เขามาสร้างฐานะด้วยตัวเองได้ เขาเคยพูดกับเรากับสอนลูกว่า จะไม่มีวันกลับไปจนอีกแล้ว เพราะว่ารู้จักใช้เงินและก็วางแผนการใช้เงิน บางทียังมาสอนเราอีกว่าแนนต้องรู้จักวางแผนการใช้เงินนะ ดูสิ ช่วงโควิดก็ไม่มีงานอะไรอย่างนี้ เขาเคยผ่านจุดที่ไม่มีมาแล้ว
ถาม แล้วที่บอกว่าพี่เม่นถึงขนาดสมัครไอจี เพื่อตามดูเมียตัวเอง เพราะอยากรู้ว่าเมียหนีไปช้อปปิ้งที่ไหน?
แนน : เขาก็มี แต่ไม่ค่อยตามใคร ตั้งเป็นส่วนตัว รับเป็นเพื่อนก็ไม่ค่อยรับ เขาเลือกรับ ถ้าเป็นเพื่อนเรา "ฉันต้องเจอเขาอีกไหมคนนี้?" เขาจะถามก่อน ถ้าคนที่เจอครั้งเดียวในชีวิต เขาจะบอกว่าไม่ต้องรับได้ไหม ชาตินี้ไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว เขาเป็นคนอย่างนั้น ไอจีมีเพื่อนอยู่ไม่กี่คน หลักสิบ เพราะดูเมีย ไว้ส่องเมียเลี้ยงลูกหรือเปล่า? แล้วก็ดูนาฬิกา ดูหุ้น เขาดูแค่นี้ ชีวิตเขา เขาไม่อยากรู้เรื่องคนอื่น ไม่สนใจเรื่องคนอื่น เขาก็มีความสุขของเขา
ถาม คิดถึงวงการบันเทิงไหม?
แนน : จริงๆ เราก็ไม่ได้เลิกทำโดยถาวร เพียงแต่เราไม่ได้เล่นละครแล้วเท่านั้นเอง ไม่ได้ใช้ชีวิตในวงการละครแบบสมัยก่อนที่กินนอนในกองถ่าย แต่งานอย่างอื่นก็ยังประปราย ไม่ได้คิดว่าโหยหาหรืออะไร พอเรามีครอบครัวแล้ว เรารู้ว่าหน้าที่เราตอนนี้คือเป็นแม่ ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการที่เราจะเลี้ยงเด็กคนนึงให้เป็นคนดี ณ ตอนนี้ เดี๋ยวพออาชีพแม่เสร็จ มันก็คงไม่มีวันหยุดหรอก มันคงต้องเลี้ยงเขาไปจนตาย เพียงแต่ว่ามันอาจจะมีช่วงที่เราได้ทำอะไรตามใจหรือตามฝันสิ่งที่เราอยากทำ เมื่อธัชชต้องโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว
ตอนนี้ยังเป็นวัยที่ต้องการแม่
แนน : เรียกแม่ทุก 5 นาที แม่ๆ ตลอดเวลา เราก็แฮปปี้กับการอยู่กับเขา
ถาม มีความฝันอะไรที่อยากจะทำ?
แนน : บอกพี่เม่นแล้วว่าวันนึงขอไปอยู่อินเดีย 1 เดือน จะไปฝึกโยคะ อยากจะได้ใบรับรอง เพื่อจะนำโยคะศาสตร์นี้มาสอนที่เมืองไทย ตอนนี้ที่เราไม่มีใบอันนี้เพราะว่าโยคะนี้ เขาอยู่ที่เมืองไมซอ ประเทศอินเดีย เราต้องไปหาคนที่เขาคิดอันนี้ เขาบอกว่ายูต้องมา 1 เดือน อย่างน้อยครั้งละ 1 เดือน เหมือนเป็นคอร์ส ไม่ใช่แค่ 1 เดือนแล้วคุณจะได้นะ ปีนึงต้องมาปีละ 1 เดือน ซึ่งตอนนี้เราทำไม่ได้ แต่นี้คือความฝัน เป็นความฝันของแนนที่แนนอยากจะทำ
ถาม ตามแนนจะรู้ว่าเป็นคนนึงที่เล่นโยคะเก่งที่สุดในประเทศแล้ว เขาไม่แพ้ใครในโลกหล้า แนนรู้สึกว่าใบนี้มันสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ?
แนน : ไม่ได้คิดว่าใบนั้นมันสำคัญกว่าชีวิตหรือสำคัญกว่าการสอนคนอื่น แต่คิดว่าเรารักศาสตร์อันนี้ เราอยากจะไปหาจุดกำเนิด ให้คนที่นู่นเขายอมรับเรา อันนี้คือความฝัน แต่จริงเราไม่ได้มายด์ ฉันจะต้องมีใบนี้เพื่อจะสอนคนอื่น ทุกวันนี้เราก็สอนคนอื่นอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราอยากจะได้ใบเพื่อที่จะคอนเฟิร์มว่าเนี่ย ศาสตร์นี้ ฉันไปมาถึงแล้ว ตอนนี้เราไม่มีชื่ออยู่ในสารบบของคนที่คิดศาสตร์ เขาจะมีครูทั่วโลกซึ่งจะมีใบนี้ว่าคุณสามารถได้รับอนุญาตสอนศาสตร์นี้ได้ เราก็เป็นครูโยคะปกติที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนประเภทแอสทังก้า
ถาม อยากมีลูกอีกคนไหม?
แนน : คนดียวพอแล้ว คิดว่าเลี้ยงเด็กคนนึงเราต้องมีเงินประมาณ 20 ล้าน เลี้ยงแบบเรียนอินเตอร์ อยู่ได้โดยที่เราไม่ต้องลำบาก เลี้ยงเขาให้ดีที่สุด เคยคุยกับพี่เม่นว่าไม่อยากให้อยู่โรงเรียนดีๆ แล้ววันนึงพ่อแม่เงินหมด เอาลูกออกจากโรงเรียน เราไม่อยากเป็นอย่างนั้น เราก็เลยคิดว่ามีคนเดียว แล้วเรา 2 คนช่วยกันเลี้ยงได้ ก็โอเค แล้วอีกอย่างเขาก็มีวิตาแล้วเนอะ เล่นกันทุกวัน มีน้องสาวชื่อวิตา(ลูกสาว น็อต วรฤทธิ์) ก็แฮปปี้แล้ว