เมื่อวันที่ 16 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่ช่วงบ่าย กลุ่มปกป้องสถาบัน ภายใต้ชื่อศูนย์กลางประสานงาน นักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (ศอปส.) ที่รวมตัวกันด้านหน้าหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน ยืนยันจุดยืนเพื่อสังเกตการณ์การชุมนุมกลุ่มเยาวชนปลดแอก เกี่ยวกับการละเมิดสถาบัน ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำในลักษณะดังกล่าวจะรวบรวมหลักฐานร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที่ 17 ส.ค.63
โดยมีการโบกธงชาติไทย สลับกับการพูดปราศัยของแกนนำ ระบุว่า พวกตนออกมาด้วยใจ ไม่มีใครจ้างมาชุมนุม ส่วนด้านหน้าแมคโดนัลด์ กลุ่มเลือกข้างประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนเยาวชนปลดแอก ทำกิจกรรมแสดงละครใบ้บนถนน เกี่ยวกับเหตุการณ์สลายการณ์ชุมนุมที่วัดปทุมวนาราม เมื่อปี 2553 ซึ่งผู้กำกับการ สน.สำราญราษฏร์ ได้ประกาศชี้แจงว่า ผู้ชุมนุมกำลังฝ่าฝืนกฎหมาย โดยการลงมาบนถนนทำให้กีดขวางการจราจร ขอให้ทุกคนขึ้นไปจัดกิจกรรมบนฟุตพาธ สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ชุมนุมบางส่วน ซึ่งมีการโห่ไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นเวลา 14.40 น. กลุ่มแกนนำเยาวชนปลดแอกขึ้นเวทีบนฟุตพาธ หน้าร้านแมคโดนัลด์ ก่อนขอให้มวลชลชู 3 นิ้ว พูดพร้อมกันว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” และประกาศลงถนนราชดำเนินกลาง ซึ่งกลุ่มเลือกข้างประชาธิปไตย ได้ยุติการชุมนุมที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ เพื่อมาหนุนกลุ่มเยาวชนปลดแอก
หลังจากนั้นมีการตั้งเวทีใหญ่ พร้อมเครื่องขยายเสียง ด้านหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมวลชนขยายพื้นที่จนเต็มถนนยาวไปถึงสี่แยกคอกวัว การชุมนุมยังย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง คือ 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.ขอให้รัฐบาลยุบสภา ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมการร้องเพลงแจวเรือตามหาประชาธิปไตย การพับนกพิราบขาวจากกระดาษเอสี่ สัญลักษณ์แห่งสันติภาพเพื่อบินไปหาประชาธิปไตย
โดยมีแกนนำกลุ่มต่าง ๆ สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวที อาทิเช่น กลุ่มนักเรียนเลว พูดเรื่องการแก้ไขกฎระเบียบของนักเรียนไทย ตัวแทนจากไอลอว์ (iLaw) หรือ โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน ที่ขอความร่วมมือในการลงชื่อตามเป้าหมายจำนวน 50,000 ชื่อ เพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ คณะผู้หญิงปลดแอก เรียกร้องกฎหมายที่เอาผิดผู้หญิงทำแท้ง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง สน.ชนะสงคราม สน.สำราญราษฏร์ และพื้นที่ใกล้เคียง ตรึงกำลังโดยรอบเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ขณะที่กลุ่มศูนย์กลางประสานงาน นักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (ศอปส.) ได้สลายตัวไปตั้งแต่เวลา 15.30 น. หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเจรจาเพื่อลดการกระทบกระทั่ง