ตร.โคราชติดอาวุธสงครามคุ้มกันร้านทอง

ตำรวจถืออาวุธสงครามคุ้มกันร้านทองเข้ม หวั่นโจรปล้นทอง หลังราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

สภ.เมืองนครราชสีมา จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ พร้อมอาวุธปืน
ซึ่งมีทั้งอาวุธปืนพก และอาวุธปืนสงครามชนิด M4 ลงพื้นที่ตรวจร้านทองต่างๆ ที่อยู่บริเวณถนนรอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
อ.เมือง จ.นครราชสีมา ภายหลังจากที่ พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังลงพื้นที่เฝ้าระวังอาชญากรรมตามร้านทองทุกแห่งทั่วทั้งจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยเช้าวันนี้ (19 ส.ค.)ทองคำแท่งมีราคาขายที่บาทละ 29,500 บาท และทองรูปพรรณขายที่ราคาบาทละ
30,000 บาท

ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงนี้ทองคำมีราคาสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้คนตกงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอาชญากรรมปล้นร้านทอง หรือปล้นธนาคารขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไว้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น ตนเองจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.ในพื้นที่ทั้ง 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะในพื้นที่ตัวเมือง และชุมชนใหญ่ๆ ที่มีร้านทองตั้งอยู่ ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ และชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ เข้าไปลาดตระเวน ตรวจร้านทองต่างๆ ถี่ขึ้นวันละหลายรอบ รวมทั้งลาดตระเวนตรวจธนาคารต่างๆ ด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้กับร้านค้าและลูกค้าที่มาใช้บริการซื้อขายทองคำ ซึ่งครั้งนี้จะต่างจากชุดลาดตระเวนทั่วไป โดยให้มีการเบิกอาวุธสงครามชนิด M4 ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่งจะซื้อมาให้ตำรวจทั่วประเทศใช้เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ติดตัวไปด้วย เนื่องจากปัจจุบันนี้โจรผู้ร้ายมักจะใช้อาวุธสงครามก่อเหตุ ดังที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ บ่อยครั้ง

ดังนั้นหากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แต่อาวุธปืนพกประจำกายจะต่อสู้กับคนร้ายไม่ได้เลย ซึ่งการใช้อาวุธสงครามในการออกมาลาดตระเวนคุ้มกันร้านทองในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยสร้างความอุ่นให้กับร้านทองและประชาชนที่มาใช้บริการร้านทองแล้ว ยังเป็นการป้องปรามไม่ให้โจรผู้ร้าย กล้าที่จะมาก่อเหตุอาชญากรรมได้อีกด้วย