จากกรณีที่มีการโพสต์คลิปวีดีโอ รถยนต์ที่ติดตัวอักษรข้างประตูรถและบริเวณกระจกด้านหลังของรถ ว่า "ข่าว" ได้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ขับไปบนถนนสายเอเชียในเขตจังหวัดสิงห์บุรี โดยไม่มีเหตุอันควร และ จอดรถขวางหน้า รถคันอื่น จนสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการสื่อฯ โดยผู้ที่ใช้ชื่อ เฟซบุ๊ก ว่า "ฟลุ๊ก ออนทัวร์" ได้โพสคลิปและ ข้อความว่า "นักข่าวเมาแล้วซ่า เมื่อคืนที่แยกอินทร์บุรีเวลา 00.45 น." และได้โพสต์คลิปจำนวน 5 คลิป ลงบน เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยในคลิปดังกล่าว ปรากฏภาพรถยนต์ติดสัญญาไฟฉุกเฉิน ได้เปิดสัญญาไฟและเสียง ขณะไล่ตามรถคันที่ถ่ายคลิป จากนั้นก็ได้ขับแซงขึ้นไป และจอดรถขวางทางรถคันที่ถ่ายคลิป ก่อนที่คนขับรถคันดังกล่าวจะเดินมาที่รถยนต์คันที่ถ่ายคลิปซึ่งถูกจอดขวางอยู่ ชายดังกล่าวมีลักษณะท่าทางเหมือนเมาสุรา ก่อนที่จะเดินกลับไปเปิดประตูท้ายรถของตนเพื่อหยิบสิ่งของบางอย่าง ทำให้คนขับรถคันที่ถ่ายคลิปอาศัยจังหวะนี้ขับหลบหนีออกมา
จากการตรวจสอบในเบื้องต้น รถยนต์และบุคคลในภาพไม่ใช่ผู้สื่อข่าวในจังหวัดสิงห์บุรี และไม่ทราบว่าเป็นผู้สื่อข่าวจริงหรือไม่ สังกัดใดและอยู่ที่ไหน วันนี้ผู้สื่อข่าวในจังหวัดสิงห์บุรีจึงได้เดินทางไปพบกับ พ.ต.ต.จารุพัฒน์ สร้างพล สว.ส.ทล.๖ กก.๑ บก.ทล เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
พ.ต.ต.จารุพัฒน์ฯ เปิดเผยว่า จากคลิปวีดีโอดังกล่าวจะต้องตรวจสอบก่อนว่า รถคันที่ก่อเหตุเป็นของใคร ผู้ที่ขับขี่เป็นใคร เป็นนักข่าวจริงหรือไม่ แต่จากภาพที่เห็นการเปิดสัญญาณไฟฯโดยไม่มีเหตุอันควรถือว่ามีความผิด โดยปกติรถที่มีหน้าที่อย่างเช่น รถกู้ภัย รถพยาบาล หรือแม้แต่รถตำรวจเอง หากไม่มีเหตุเร่งด่วนก็จะไม่เปิดสัญญาณไฟฯ และการติดสัญญาณไฟฯ และใช้สัญญาณไฟฯ จะต้องได้รับอนุญาต ซึ่งก็จะต้องตรวจสอบต่อไป สำหรับรถคันที่ถูกจอดขวางถือว่าเป็นผู้เสียหาย ขอแนะนำให้มาแจ้งความเพื่อที่จะได้ดำเนินคดี ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบทะเบียนรถคันดั่งกล่าว เมื่อทราบว่าเป็นของผู้ใดแล้วจะเรียกตัวมาสอบสวนต่อไป