ทหารประเทศมาลีทำรัฐประหาร บุกจับ ปธน.-นายก บังคับให้ลาออก

19 ส.ค. 63

เกิดรัฐประหารในมาลี อดีตอาณานิคมของฝรั่งเศส ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา ทหารบุกจับกุมประธานาธิบดี-นายกฯ บีบให้ลาออก

เกิดเหตุรัฐประหารในประเทศมาลี อดีตอาณานิคมของฝรั่งเศส ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา หลังจากที่กำลังทหารกลุ่มหนึ่ง ก่อเหตุยึดอำนาจ และบุกเข้าจับกุมตัวประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และนายทหารระดับสูง ตลอดจนเหล่ารัฐมนตรี ในกรุงบามาโก เมืองหลวงของประเทศ โดยทั้งหมดถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว

รายงานข่าวระบุว่า คณะนายทหารที่นำโดย พันเอกซาดิโอ กามาร่า ได้กระจายกำลังกันบุกจับกุมตัว ประธานาธิบดี อิบราฮิม บูบาการ์ เกอิต้า , นายกรัฐมนตรี บูบู ซิสเซ่ รวมถึงประธานรัฐสภา และรัฐมนตรีของหลายกระทรวง ตลอดจนมีการจับกุมนายทหารระดับสูงที่ภักดีต่อรัฐบาลไปคุมขัง โดยการรัฐประหารครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

หลังจากที่ข่าวการยึดอำนาจถูกเผยแพร่ออกมา มีรายงานว่า มีประชาชนจำนวนมากออกมาโห่ร้อง แสดงความยินดีตามท้องถนนทั่วกรุงบามาโก พร้อมกับพากันจับมือแสดงความขอบคุณและให้กำลังใจทหาร ที่ก่อเหตุรัฐประหารในครั้งนี้ ขณะที่ประชาชนบางส่วน ฉวยโอกาสก่อเหตุจุดไฟเผาอาคารกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานรัฐบาลหลายแห่ง

ล่าสุด ประธานาธิบดีอิบราฮิม บูบาการ์ เกอิต้า วัย 75 ปี ซึ่งครองอำนาจมานาน 7 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ.2013 ถูกกดดันให้ออกแถลงการณ์ ลาออกจากตำแหน่ง ทางโทรทัศน์ โดยเขากล่าวว่า ขอลาออกจากตำแหน่ง เพื่อหลีกเลี่ยง “การนองเลือด”

การรัฐประหารที่เกิดขึ้นในมาลีครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่ประชาชนจำนวนมาก ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลตามท้องถนน เพราะไม่พอใจต่อความล้มเหลวในการบริหารประเทศ และความล้มเหลวในการปราบปราบกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงในประเทศ

ล่าสุด รัฐบาลสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส สหภาพยุโรป และบรรดาชาติเพื่อนบ้านของมาลีในทวีปแอฟริกา ต่างพากันออกมาแถลงโจมตีการทำรัฐประหารในครั้งนี้ และเรียกร้องให้ฝ่ายทหารที่ยึดอำนาจ คืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนชาวมาลีโดยเร็วที่สุด

1597832056154

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม