"สิระ" แจ้งความ "มงคลกิตติ์" คุกคาม หลังโพสต์จะต่อยให้ฟันร่วง ชี้อยากให้บทเรียน ก่อนเผชิญหน้าที่สภาฯ และเกือบมีการปะทะกัน ต้องมีการเรียกเจ้าหน้าที่ควบคุม
จากกรณีการปะทะกันของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ กับ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ จนถึงขั้นมีการโพสต์ขู่ทำร้ายร่างกายกันนั้น
ล่าสุดเช้าวันนี้ (21 ส.ค.) ที่ สน.ทุ่งสองห้องนายสิระ ได้มาแจ้งความนายมงคลกิตติ์ ในข้อหา การขู่เข็ญ ข่มขู่คุกคามผู้อื่น หลังจากที่โพสต์เฟสบุ๊กว่า “เจอจะต่อยให้ฟันร่วงหมดปาก” อีกทั้งมีการเดินตามหาตนในสภา ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ มองว่าที่สภาผู้แทนราษฎร ปล่อยให้ ส.ส. กระทำพฤติกรรมแบบนี้ได้อย่างไร ในขณะเดียวกัน ฝากถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะมีการจัดการกับ ส.ส.ที่มีพฤติกรรมแบบนี้อย่างไร หรือมีมาตรการอย่างไรกับผู้แทนที่มีพฤติกรรมเยี่ยงนักเลงแบบนี้ ซึ่งทำให้สภาฯ เสื่อมเสีย และทำให้ ส.ส. เสื่อมเสีย
ส่วนกรณีที่นายมงคลกิตติ์ มีการโพสต์ให้นายกฯ ลาออกนั้น ตนมองว่าจะให้นายกฯ ลาออก หรือการบังคับให้ท่านลาออก สมควรทำหรือไม่ และย้อนถามว่าแล้วตัวนายมงคลกิตติ์เองล่ะสมควรลาออกไหม เพราะมีเรื่องผิดกฎหมายหลายประการ ทั้งเรื่องการพกระเบิดมาในสภาฯ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย อาจจะทำให้สภาฯระเบิด หรือแม้กระทั่งเรื่องการตำแหน่งผู้แทนฝ่ายค้านอิสระของนานมงคลกิตติ์ ก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจอกันที่โรงพัก! "สิระ" ลั่นเอาผิด "มงคลกิตติ์" ขู่ต่อยฟันร่วง
- "มงคลกิตติ์" ของขึ้นตอก "สิระ" เจอที่ไหนจะเอาให้ฟันร่วงหมดปาก!
อีกทั้งแค่เพราะตนถามว่า “สตางค์หมดหรือไม่” ซึ่ง นายสิระฯ ระบุว่าเป็นการถามด้วยความห่วงใย ในฐานะที่เป็นประธานรุ่นสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน จึงคิดว่าถ้าสตางค์ไม่พอใช้ ก็มาบอกตนได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายมงคลลกิตติ์ มีการบริจาคเงินช่วยเหลือโควิด อาจจะไม่มีเงินใช้ แต่นายมงคลกิตติ์ กลับคิดทางลบหาว่าดูถูก ซึ่งความคิดนี้เกิดจากอคติของนายมงคลกิตติ์เอง
นอกจากนี้ นายสิระฯ มองว่า พฤติกรรมของนายมงคลกิตติ์ ไม่ใช้การบันดาลโทสะ แต่เป็นสันดานของคนหรือไม่ และพฤติกรรมเช่นนี้ สมควรเป็นตัวแทนประชาชนหรือไม่ เพราะทำให้ประชาชนผิดหวังแน่นอน
ส่วนกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ มีการลบโพสต์เฟสบุ๊กดังกล่าวออกไปนั้น นายสิระ มองว่า ทำไมต้องลบโพสต์เฟสบุ๊ก พร้อมระบุ "กล้าทำ กล้ารับ กลัวอะไรเต้!” ทั้งนี้ ตนไม่ต้องการท้าต่อยกับนายมงคลกิตติ์แต่อย่างใด แต่จะให้บทเรียนเรื่องข้อกฎหมายและจริยธรรมของ ส.ส. ไม่ให้เยี่ยงอย่างแก่ ส.ส. ท่านอื่นหรือ ปชช.
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 11.15 น. ที่ผ่านมา หลังจากที่นายสิระแจ้งความแล้ว ได้เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้นายมงคลกิตติ์ พยายามที่จะโทรศัพท์มาหา และพยายามที่จะส่งข้อความมาข่มขู่ว่า “อยากมีเรื่องจริงๆไหม เจอกัน” แต่ตนเองไม่ได้รับสาย เพราะติดประชุมทั้งวัน และไม่ได้ให้ความสำคัญกับนายมงคลกิตติ์ มากไปกว่า สส.คนอื่น ในขณะเดียวกัน จะนำเอกสารบันทึกประวันการแจ้งความ ไปยื่นเสนอที่สภาฯ เพื่อถอดถอนการเป็น ส.ส. ของนายมงคลกิตติ์ ต่อไป
ต่อมาทั้งคู่ได้เผชิญหน้ากันที่อาคารรัฐสภา ก่อนที่นายมงคลกิตติ์ จะเดินตามนายสิระ แต่นายสิระได้พยายามเดินเลี่ยงหนีและขอให้ตำรวจสภามาพาจับ "อันธพาล" พร้อมระบุว่า นี่คือสภาอันทรงเกียรติ ก่อนนายมงคลกิตติ์ สวนกลับว่า “ทำไมเวลาพูดไม่คิด ใครเป็นคนเริ่ม” ทำให้นายสิระตอบกลับว่า ”ไม่ต้องมาพูดกับผม” และขอให้เก็บภาพไว้รายงานประธานสภา