น้าชายพระรับเอาเงิน "น้องเจี๊ยบ" ไปลงทุน ปัดไม่รู้ปมสาบสูญ แม่เชื่อมีคนซ่อนลูก (คลิป)

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.63 เวลา 10.30 น. ตำรวจ สภ.ป่าไร่ จังหวัดมุกดาหาร ได้เชิญเเม่ของน้องเจี๊ยบ เเละญาติ ๆ ที่ร่วมค้นหาในวันที่น้องหายไป ประกอบด้วยพี่ชาย น้าธาตุ เเละน้าวิชัย เข้าให้ปากคำ ใช้เวลาสอบปากคำ 3 ชั่วโมง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

- สาวหายปริศนา ญาติคาใจหอบเงินแสนให้วัด พระขวางค้นกุฏิพบรอยเท้าโผล่ใกล้ห้วย 
- เจ้าอาวาสแฉสาวสวยหายถูกญาติกดดัน ไม่ให้ค้นวัด - เจอแชตเข้าวัดนิสัยเปลี่ยน

พ.ต.ท.นาม พานิชนอก สารวัตรใหญ่ สภ.ป่าไร่ จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดีว่า ตั้งเเต่ได้รับเเจ้งจากญาติในวันที่ 12 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ว่าน้องเจี๊ยบได้หายไป ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเป็นเเนวทาง ซึ่งกรณีน้องเจี๊ยบ เป็นการหนีออกจากบ้านเอง

ส่วนจะไปที่ไหนขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นมีการตรวจสอบตามบ้านญาติ เเละบ้านเพื่อน ที่คาดว่าน้องจะไป ส่วนในสำนักสงฆ์ วันที่ 19 ส.ค.63 ที่ผ่านมา มีการค้นทุกจุดอย่างละเอียดเเล้ว

ส่วนกรณีรอยเท้าสุดท้ายที่ญาติพบอยู่ที่หน้าสำนักสงฆ์ ก็มีความเป็นไปได้ที่น้องเจี๊ยบอาจย้อนเข้าไป เเล้วหนีไปที่อื่น เเต่การหนีในครั้งนี้ตำรวจเชื่อว่าต้องมีผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าตอนนี้น้องอยู่ในพื้นที่ หรือหนีออกนอกจังหวัดไปเเล้ว

โดยวันนี้ได้เชิญครอบครัวน้องเจี๊ยบมาสอบปากคำ ถึงที่มาที่ไป เเละสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ทราบว่าทั้งเเม่ พี่ชาย เเละญาติ ๆ ต่างรู้สึกเป็นห่วงน้องเจี๊ยบ ดังนั้นจึงขอให้น้องเจี๊ยบกลับบ้าน มาปรับความเข้าใจกับครอบครัว

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับ นางทองอาจ คนยืน เเม่ของน้องเจี๊ยบ กล่าวถึงความรู้สึกว่า ตอนนี้รู้สึกกังวลเพราะเป็นห่วงลูก ซึ่งตนเชื่อว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ เเต่มีคนพาไปซ่อน ส่วนคนที่พาลูกไปก็ยังเชื่อว่าเป็นกลุ่มคนที่ลูกเคยอยู่ด้วยในสำนักสงฆ์ 

ส่วนเรื่องเสื้อผ้าที่เจอเเช่อยู่ในห้องน้ำสำนักสงฆ์ ตนคิดว่าคงไม่ใช่ของน้องเจี๊ยบ เพราะถึงเเม้จะเป็นชุดขาวเหมือนกัน เเต่สภาพต่างกัน ซึ่งวันที่น้องหาย น้องใส่เสื้อขาว เเละผ้าถุงสีขาว สภาพใหม่ เป็นชุดปฏิบัติธรรมที่ตนเพิ่งซื้อให้ ส่วนชุดที่เเช่อยู่ในห้องน้ำ สภาพค่อนข้างเก่า 

คุณเเม่ ยังกล่าวถึงเรื่องเงิน 150,000 บาท  หลังจากพระคำนวณ เเละน้าชายของพระคำนวณ มีการอ้างว่าเเม่รับทราบเรื่องการยืม เพราะมีการพูดคุยกันระหว่างที่เยี่ยมชมโรงเรียน เเละมีการเซ็นสัญญากันนั้น คุณเเม่ชี้เเจงว่า ไม่เป็นความจริง เพราะวันที่ไปเยี่ยมชมโรงเรียน เป็นการไปหลังจากที่ลูกสาวนำเงินไปให้พระคำนวณเเล้ว เเละยืนยันว่าไม่มีการเซ็นสัญญาใด ๆ กับน้าชายของพระ 

โดยคุณเเม่ กล่าวว่า ลูกสาวมีการไปพูดคุยตกลงกับพระเอง โดยที่ตนไม่ได้รับทราบ เเต่เมื่อลูกสาวมาอ้อนวอน ตนก็นำโฉนดที่ดิน จำนวน 14 ไร่ ไปเข้า ธกส. เเล้วนำเงิน 150,000 มาให้เจี๊ยบ หลังจากนั้นเจี๊ยบก็มาบอกว่าได้นำเงินไปให้พระเเล้ว ให้กับมือพระคำนวณ ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว ตอนเเรกเจี๊ยบบอกว่าจะนำไปลงทุน เเต่ภายหลังพระคำนวณได้ชี้เเจงกับตนว่าเป็นการยืม ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยเซ็นเอกสารใด ๆ เกี่ยวกับการกู้ยืม ทุกอย่างเจี๊ยบเป็นคนจัดการเอง ตนเพียงหาเงินเเล้วนำเงินมาให้เจี๊ยบ

หลังจากนั้นพระคำนวณได้ชักชวนเเม่กับเจี๊ยบไปเยี่ยมชมโรงเรียนของน้าชายพระคำนวณ ที่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งตนก็ไปด้วย โดยระหว่างการเยี่ยมชม น้าชายพระคำนวณก็มีการพูดชี้เเจงว่า เงิน 150,000 ได้นำมาใช้เกี่ยวกับโรงเรียนนี้ ซึ่งไม่ได้พูดคุยเรื่องขอยืม เเต่เป็นการอธิบายหลังจากได้เงินไปเเล้ว

คุณเเม่ ยังกล่าวอีกว่า เคยไปหาลูกสาวที่วัดหลายครั้ง เเต่ละครั้งที่ไปก็มักจะได้ยินพระคำนวณพูดกับน้องเจี๊ยบ ในทำนองที่ว่า "เรียนครูเงินเดือนน้อย คนเป็นครูมีหนี้สินมาก" เเละมีการพูดถึงวิธีการหาเงินที่ง่ายกว่าการเป็นครู เช่น เรื่องการลงทุน ซึ่งตนก็ไม่ค่อยเข้าใจ เเต่เมื่อได้ฟังก็รู้สึกไม่ดี อยากพาลูกออกจากตรงนั้น ตนขอฝากถึงลูกสาวว่า "อยู่ที่ไหนก็ให้กลับมาหาเเม่ มาพูดคุยกัน หากลูกอยากกลับไปอยู่ที่วัด เเม่ก็จะไม่ห้าม เเต่ขอให้กลับมาหาเเม่ก่อน มารักษาตัวก่อน"

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปที่สำนักสงฆ์วัดป่าเทพนิมิต จังหวัดมุกดาหาร เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริงกับพระคำนวณ หัวหน้าสำนักสงฆ์ เเต่พระคำนวณปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล โดยระบุว่า เคยให้ไปมากเเล้ว เเต่สิ่งที่สื่อนำเสนอหลายอย่างไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงไม่อยากให้สัมภาษณ์ เเละไม่อยากให้ข่าวอีกเเล้ว หากอยากทราบว่าน้องหายไปได้อย่างไร ก็ให้ไปถามครอบครัว ไม่ใช่มาถามวัด ซึ่งพระคำนวณพร้อมจะให้ข้อมูลกับตำรวจเท่านั้น ส่วนกรณีเงิน 150,000 บาท ให้ไปถามกับน้าชาย ไม่ต้องมาถามพระ 

นอกจากนี้กรณีรถตู้คันที่ญาติของน้องเจี๊ยบ มีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจพาน้องหนีไปวันที่ 12 ส.ค.63 ทีมข่าวพบว่ายังจอดอยู่ที่วัด ลักษณะฟิล์มกระจกใส ไม่ทึบ เเต่พระคำนวณปฏิเสธการให้ข้อมูล

ทีมบ่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ นายจิตรานนท์ น้าชายของพระคำนวณ เเละขออนุญาติบันทึกเสียงเพื่อเสนอข่าว โดยน้าชายของพระคำนวณ ชี้เเจงถึงกรณีเงินจำนวน 150,000 บาท ว่าเป็นการกู้ยืม ไม่ใช่การลงทุน ซึ่งจุดเริ่มต้นของการพูดคุย มาจากที่ตนเปิดโรงเรียนเอกชน จากนั้นพระคำนวณ มีการพาญาติโยมมาเยี่ยมชม เเละทำบุญที่โรงเรียนเป็นประจำ ก็เกิดความคุ้นเคยกัน เเต่ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา สถานการณ์ทางการเงินของโรงเรียนมีปัญหา ซึ่งตอนนั้นมีญาติของตนอยู่ในวงพูดคุยด้วย จึงได้เอ่ยยืมเงิน เเต่เจตนาจะขอยืมญาติทางสายเลือด โดยมีข้อเสนอคืนให้ในรอบสิ้นปี กำหนดดอกเบี้ยร้อยละ 4

น้องเจี๊ยบเองก็มีความสนใจจะนำเงินมาให้ยืม จำนวน 150,000 บาท เเต่น้องไม่ได้บอกว่าจะนำเงินมาจากไหน ซึ่งตนคำนวณดอกเบี้ยให้ 6,000 บาท/เดือน กำหนดจ่ายสิ้นปี 63 เเต่ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาการยืม ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้โกง มีการเซ็นสัญญาการกู้ยืม เเต่ดอกเบี้ยที่เจี๊ยบยังไม่ได้รับ เพราะยังไม่ถึงรอบที่จะต้องจ่าย ส่วนเงินต้นหากเจี๊ยบอยากได้คืน ตนก็จะคืนให้ เพียงเเต่ต้องเเจ้งตนล่วงหน้า จะได้เตรียมเงินให้ ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับวัด เเละไม่เกี่ยวกับการลงทุนหุ้นเเต่อย่างใด

ทีมข่าวเดินทางไปที่ จ.มหาสารคาม นายจิตรานนท์ เนื่องมัจฉา น้าชายของพระคำนวน และเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เปิดใจว่า รู้จักกับน้องเจี๊ยบ เนื่องจากน้องเดินทางมากับคณะบุญของพระคำนวน เมื่อมาที่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ก็จะแวะไปหาพระ เพราะตนมีศักดิ์เป็นน้าของ พระอาจารย์คำนวณ ฐิตญาโน หัวหน้าสำนักสงฆ์เทพนิมิต

จากนั้นก็คุยกันปกติตามประสา คนเจอหน้ากันบ่อย มีวันหนึ่งน้องเจี๊ยบมาคุยกับตนว่า อยากเล่นหุ้น เพราะเห็นตนเล่นหุ้น แล้วมีกำไร จึงบอกไปตามตรง ด้วยความเป็นห่วงว่า การเล่นหุ้นมีความเสี่ยง คนที่ไม่ได้ศึกษาอาจจะล้มละลายได้ แล้วก็ไม่ได้คุยกันอีก หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเจอกันอีกน้องเจี๊ยบ ก็ถามเรื่องเล่นหุ้นอีก จึงบอกว่าถ้าอยากเล่นจริง ๆ จะเป็นคนสอนให้ 

ส่วนการหายตัวของน้องเจี๊ยบนั้น ตนยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ได้เจอกันมาประมาณ 3 เดือน อยากให้ครอบครัวน้องเจี๊ยบมาคุยกัน จะได้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร และคิดว่าที่น้องเจี๊ยบหายตัวไปส่วนหนึ่งเป็นเพราะครอบครัว อาจะจะกดดันน้องเจี๊ยบ ซึ่งตั้งแต่พูดคุยกันไม่พบว่าน้องเจี๊ยบ มีท่าทีป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งหากเป็นโรคซึมเศร้าจริง คงไม่มาอยู่ที่วัดได้ถึง 2 ปี

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่สำนักสงฆ์วัดป่าเทพนิมิต จังหวัดมุกดาหาร เพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริงกับพระคำนวณ หัวหน้าสำนักสงฆ์ ทีมข่าวสังเกตว่ามีพระลูกวัดพยายามเฝ้าสังเกตการณ์ว่าทีมข่าวว่าทำอะไรบ้าง และบันทึกภาพไว้ทุกขณะที่ทีมข่าวอยู่ภายในสำนักสงฆ์ดังกล่าว ก่อนที่ทีมข่าวจะเดินทางกลับออกจากพื้นที่