จากกรณีเฟซบุ๊กชื่อ รวิภา นก อิ่มอารมย์ ได้เผยแพร่ภาพสด ขณะที่กำลังแกะกุ้ง พอจะแกะก้ามของกุ้งกลับพบตะปู 4 ตัว โดยซื้อกุ้งจากตลาด อตก. แล้วพบว่า กุ้งที่ซื้อมานั้นมีตะปูสอดไส้อยู่ก้ามของกุ้ง เพื่อจะเพิ่มให้กุ้งนั้นมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าปกติ
โดยมีข้อความระบุว่า "เตือนภัยกันจ้า ระวังตะปูในก้ามกุ้ง ต้องการให้กุ้งมีน้ำหนักขึ้นถึงขั้นต้องยัดตะปู ใส่เลยจ้า 55555 วันนี้ไปตลาด อตก. ย้ำนะคะว่า ตลาด อตก. ได้ซื้อกุ้งมาโลละ 950 บาท 7 ตัว น้ำหนัก 2 โล ซื้อมา 1,900 บาทค่ะ ได้ของแถมตะปูมา 4 ตัวด้วยจ้า ต้องการให้กุ้งหนัก ถึงกับต้องยัดตะปูกันเลยทีเดียวจ้า"
ล่าสุดวันที่ 25 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายัง ตลาด อตก. กรุงเทพฯ จากนั้นได้พูดคุยกับน.ส.วลิดา ดีจะมาลา อายุ 38 ปี แม่ค้าขายกุ้ง ร้านที่เป็นประเด็นข่าว เปิดเผยว่า ลูกค้ามาซื้อกุ้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. ลูกค้ารายนี้เดินวนตลาดหากุ้ง 3-4 รอบ ถามราคากุ้งจากทุกร้าน และสุดท้ายมาหยุดที่หน้าร้านตน จากนั้นลูกค้าถามว่ากุ้งแม่น้ำ ตัวใหญ่ที่สุดราคาเท่าไร ตนจึงบอกว่าราคา 2 กก. ราคา 1,300 บาท ซึ่งลูกค้าบอกต่อว่า มีคนแนะนำมาว่ากุ้งตัวใหญ่ ราคาไม่ถึง 1,000 บาท
โดยลูกค้า ระบุว่า ต้องการนำกุ้งไปใช้จำนวนมากเพื่อจัดงานเลี้ยง ประมาณ 4-5 กก. ตนจึงแนะนำกุ้งขนาดเล็กลง ราคาถูกลงกิโลกรัมละ 980 บาท แต่มีการต่อรองกัน กระทั่งตกลงราคาที่กิโลกรัมละ 950 บาท ลูกค้าจึงซื้อกุ้งไปจำนวน 2 กก. เป็นเงิน 1,900 บาท
จากนั้นในวันเดียวกัน ลูกค้ารายนี้โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า เจอตะปูในกามกุ้ง ตนจึงทราบในเวลาต่อมาว่า เป็นลูกค้าคนที่มาซื้อกุ้งจากร้าน กระทั่งทางตลาด อตก. มีการประสานคุยกับลูกค้าและโอนเงินคืนจำนวน 1,900 บาทในวันถัดมาทันที พร้อมบอกว่า ทางร้านพร้อมรับผิดชอบ หากเป็นความเสียหายที่มาจากทางจริง พร้อมคืนเงินให้ แต่ส่วนตัวมองว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่มีเจตนาไม่ดี มุ่งทำลายชื่อเสียงของทางร้านหรือไม่
นางวลิดา ยังบอกว่า กุ้งทุกตัวที่ขายผ่านการตรวจวัตถุภายในตัวกุ้งทุกครั้ง ตั้งแต่บริเวณลำตัว-ก้ามกุ้ง หากมีตะปูจริงเครื่องตรวจจะต้องส่งเสียงดัง นอกจากนี้ยังตรวจกุ้งว่า “กุ้งหัวหลุดไหม ก้ามกุ้งหักไหม กุ้งเนื้อนิ่มไหม”
ทั้งนี้ทางร้านยืนยันหนักแน่นว่า ไม่ได้เกิดจากทางร้านแน่นอน เพราะการยัดตะปูยัดในก้ามกุ้งนั้นเป็นเรื่องยาก อีกทั้งต้องรักษาให้ก้ามกุ้งมีสภาพสมบูรณ์ไม่เสียหาย การที่ผู้ประกอบการจะมาทำแบบนี้ ต้องใช้เวลาและชำนาญ เพราะก้ามกุ้งมีหนาม ยัดเข้าไปเลือดที่นิ้วมือออกได้ ทั้งยังบอกว่า แค่เวลามาดูสินค้า ตรวจสินค้า บริการลูกค้า ก็แทบไม่มีเวลาแล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีทางร้านจะนำตะปูไปยัดในก้ามกุ้ง เท่ากับฆ่าร้านตัวเองไม่คุ้ม เสียสินค้า เสียเงิน เสียเวลา เสียชื่อเสียง และเสียผลประโยชน์ ทั้งนี้ต้องคำนึงหาสิ่งที่ดีให้แก่ลูกค้า
จากเหตุการณ์นี้ ไม่ได้รับผลกระทบเรื่องยอดขาย เพราะยังจัดส่งกุ้งในปริมาณมากให้ร้านค้าร้านอาหาร รายละประมาณ 30-40 กก. ไม่เคยเจอตะปูในก้ามกุ้ง ส่วนที่มาของกุ้งนั้น มาจากหลายที่ ไม่สามารถตอบได้ เพราะรับมาจากพ่อค้าคนกลางอีกที เบื้องต้นได้คุยกับพ่อค้าคนกลางแล้วไว้ใจได้ เพราะค้าขายมานานกว่า 10 ปี และหลังจากนี้ทางร้านจะตรวจโลหะมากขึ้นเป็น 2 รอบ รอบแรกตรวจตอนนำของเข้า และรอบที่สองตรวจช่วงที่นำกุ้งยื่นให้กับลูกค้า
อย่างไรก็ตาม อยากฝากบอกว่า คนทำมาหากินกับการค้าขายเป็นอาชีพตัวเอง ไม่มานั่งทำเรื่องไม่ดีเพื่อฆ่าตัวเอง และต้องหาของดี ๆ มาขาย ฝากถึงสังคมให้เชื่อมั่นในการคัดสรรตรวจเช็กอย่างดี ยอมรับว่าเครียด เพราะขายของมา 10 ปี ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางรวิภา อิ่มอารมย์ อายุ 44 ปี ลูกค้า เล่าว่า ตนได้เดินทางไปซื้อกุ้งที่ตลาด อตก. เมื่อวันที่ 21 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่ไปซื้อกุ้งที่ร้านดังกล่าว เนื่องจากมีคนแนะนำว่าที่ตลาด อตก. กุ้งแม่น้ำสด เนื่องจากลูกชายทั้ง 2 คนชอบรับประทานกุ้งแม่น้ำ และอยากให้ลูกชายรับประทานอาหารที่ดี
เมื่อไปถึงสอบถามร้านแรก ซึ่งตนต้องการกุ้งแม่น้ำ 2-3 กิโลกรัม แต่ร้านแรกราคาแพงจึงต้องไปอีกร้าน ซึ่งตนก็ไปพบร้านดังกล่าว ซึ่งร้านที่ตนไปซื้อนั้นเป็นร้านที่ตนเจอกุ้งแม่น้ำที่ต้องการจึงซื้อทันที ไม่ได้ไปดูร้านอื่น โดยซื้อกุ้ง ขนาดปานกลาง กิโลกรัมละ 950 บาท จำนวน 7 ตัว น้ำหนัก 2 กิโลกรัม ซื้อมา 1,900 บาท
โดยปกติแล้วทางร้านจะขายกิโลละ 980 บาท แต่วันที่ตนไปซื้อนั้นทางร้านได้ลดราคาให้เหลือกิโลกรัมละ 950 บาท ร้านที่ตนไปซื้อถือว่าเป็นครั้งแรก เพราะเนื่องจากปกติจะสั่งซื้อที่ย่านบางนา ซึ่งจะเป็นกุ้งที่แช่แข็งมา แต่ไม่ได้สั่งบ่อยเนื่องจากราคาค่อนข้างสูง
หลังจากซื้อกุ้งเสร็จ ตนได้ไปรับลูกกลับมาบ้านในเวลา 18.00 น. ขณะกลับมาที่บ้านและกำลังล้างกุ้งอยู่นั้น ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ผิดปกติอะไร ตนได้ย่างกุ้งจำนวน 3 ตัว และอีก 4 ตัว เก็บเอาไว้ก่อน เพราะกุ้ง 3 ตัวลูกชายก็ทานอิ่มแล้ว ส่วนตนนั้นชอบกินก้ามของกุ้ง แต่กลับพบว่า ไม่สามารถหักได้เนื่องจากแข็งผิดปกติ และพบว่าข้างในนั้นมีตะปู ตนจึงไลฟ์สดเพื่อเตือนผู้บริโภคเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์จะทำร้ายใคร
ทั้งนี้หลังจากที่ตนไลฟ์สดเสร็จ ได้มีคนแนะนำให้ทักไปทางเพจตลาด อตก. ซึ่งตนได้ทักไปและบอกว่าพบตะปูในกามของกุ้ง ทางเจ้าหน้าที่ตลาดได้พูดคุยดี และบอกเงื่อนไขว่า หากพบตะปูในก้าม ก็จะมีการคืนเงินให้ หรือนำของไปเปลี่ยน ซึ่งตนเลือกที่จะเอาเงินคืน และทางแม่ค้าได้ฝากมาขอโทษ หลังจากเกิดเรื่องแม่ค้าได้โอนเงินคืน
อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่า ไม่ได้กล่าวหาแม่ค้าร้านดังกล่าว ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนนำตะปูไปสอดใส่ในก้ามกุ้ง มีหลายคนที่กล่าวหาว่าตนอาจจะเป็นผู้ที่นำตะปูไปใส่เอง แต่หากตนทำแบบนั้นตนจะได้อะไร และมีคนแนะนำให้ตนไปฟ้องร้องที่ สคบ. ตนเลือกที่จะไม่ไป เนื่องจากเสียเวลา เพราะเงินแค่ 1,900 บาทเท่านั้น
เมื่อทีมข่าวเปรียบเทียบกุ้งยัดตะปูกับกุ้งไม่ยัดตะปู โดยกุ้ง 4 ตัวไม่ยัดตะปู จะต้องจ่ายในราคา 988 บาท ส่วนกุ้งที่ถูกยัดตะปู จะหนัก 1.6 กิโลกรัม ซึ่งจะต้องจ่าย 1,007 บาท โดยราคาต่างกันเพียง 19 บาทเท่านั้น