กมธ.งบ 64 คุยไม่ลงตัว เลื่อนพิจารณาซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ ไปอีก 3 วันให้กองทัพเรือเข้ามาชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง
วันนี้(26 ส.ค.) กมธ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 64 พิจารณาวาระที่กองทัพเรือขออนุมัติงบ 2.2 หมื่นล้าน ซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำจากจีนนั้น
ล่าสุด 15.00 น. มีรายงานว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ระบุว่า จากการพูดคุยวันนี้ ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน และกมธ.ทุกคนเห็นด้วยกับการที่กองทัพจะมีเรือดำน้ำเพิ่ม 2 ลำ เพื่อความมั่นคงในการดูแลน่านน้ำ แต่กมธ.บางส่วนก็มีข้อห่วงใยในเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด-19 จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
ทั้งนี้งบประมาณมีรายละเอียดมาก คณะใหญ่ต้องไปปรึกษา และให้กองทัพเรือชี้แจงถึงขั้นตอนต่าง ๆ ว่ากองทัพเรือได้ปฏิบัติไปถึงขั้นไหนแล้ว เนื่องจากกรณีทางกองทัพเรือได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2563 จากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตราเป็นกฎหมายไปแล้ว
ส่วนกระแสสังคม กมธ.คณะใหญ่ก็น้อมรับความห่วงใย ต้องให้ทุกภาคส่วนคุยกันและตกผลึก และคณะใหญ่จะมารับฟังอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าใช้เวลา 2-3 วัน และจากการศึกของกมธ.หลายคน มองว่ามีความจำเป็น เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านก็มีเรือดำน้ำ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย แม้แต่พม่า ที่ไม่ค่อยมีกำลังก็ยังมีเรือดำน้ำแล้ว 1 ลำ และกำลังสั่งอีก 4 ลำ ดังนั้นกมธ.ทุกคนเห็นด้วย แต่ยังต้องตกลงกันว่าจะทำอย่างไรในช่วงเวลานี้
นายสันติ กล่าวอีกว่า ส่วนการยกเลิกการซื้อเรือดำน้ำนั้นเป็นไปไม่ได้เพราะการซื้อเรือดำน้ำ ผ่าน ครม.แล้ว และสภาอนุมัติให้ไปดำเนินการ ให้ทั้งเงินและอำนาจกองทัพเรือไปดำเนินการ ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ มีมติว่าจะไม่อนุมัติให้ซื้อเรือดำน้ำ และจะลงมติคว่ำงบประมาณดังกล่าว ไม่คว่ำหรอก เป็นเรื่องความจำเป็นของบ้านเมืองต้องอยู่บนเหตุบนผล