กลายเป็นคุณแม่สุดสตรองของจริง สำหรับ "อร อรอนงค์ ปัญญาวงศ์" อดีตนางสาวไทยปี 2535 หลังจากผ่านมรสุมชีวิตคู่หย่าร้างกับอดีตสามีนักธุรกิจที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมายาวนานกว่า 20 ปี ต้องกลายมาเป็น Single Mom ซะอย่างนั้น แต่ถึงจะกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่ คุณแม่อร ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าความโชคร้ายในความรักคืออุปสรรคในชีวิต กลับกันเป็นแรงผลักให้ตัวเอง มั่นใจ สบายใจ และมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น ส่วนลมหายใจที่เหลืออยู่ ขอทุ่มเทให้กับลูกชาย อองตองและอองรี พร้อมรับหวงลูกชายมากถึงขั้นไม่ยอมให้มีแฟนจนกว่าจะเข้ามหาวิทยาลัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ชมพู่ ก่อนบ่าย" เผยหลังมีลูก ชีวิตคู่ไม่เหมือนเดิม!!!
- เกือบตายมาแล้ว! "ไอซ์ ศรัณยู" เผยประสบการณ์เที่ยวทั่วโลกที่ไม่มีวันลืม
- Tiktok พาดัง! "สาม-ปริม-แจ็คเด้" ศิลปินน้องใหม่จาก ค่าย "ลายไทย เรคคอร์ด"
- ชีวิตพลิกไม่หยุด! "เค้ก B5" จากนักร้องสู่เจ้าของร้านขนม ล่าสุดเป็น "หมอดู"!
- สายมูตัวพ่อ "เชน ธนา" จัดงานแต่งอีกครั้ง เสริมความปังให้ชีวิต!
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
อร อรอนงค์ : ตอนนี้สถานภาพก็คือหย่ามาประมาณ 1 ปีแล้วค่ะ หลังจากที่มีเรื่องมีราวกับอดีตสามี ก็หย่าอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว 1 ปีกว่า เดือนกรกฎาคมปีที่แล้วที่เราหย่ากัน
ถาม เพราะอะไรทำไมถึงตัดสินใจแบบนั้น
อร อรอนงค์ : ระหว่างที่เราใช้ชีวิตคู่ อรก็ให้เกียรติสามี เขาไปทำงานเราก็ไม่ตาม ไม่จี้ ด้วยความที่เรามีลูกด้วย บางครั้งเราอาจจะเผลอไป บางครั้งเราก็ลืมที่จะเทคแคร์เขา เราอาจจะมัวแต่เทคแคร์ลูก มันอาจจะเป็นช่องว่างที่ความต้องการของผู้ชายกับผู้หญิงมันห่างกันในช่วงหนึ่ง เรารู้มาสักระยะหนึ่ง แต่ว่ามันกินเวลามานาน เป็นเรื่องมือที่สาม แต่หลังจากที่เรารู้เราก็ให้เวลาเขาประมาณหนึ่งปี ว่าจะเปลี่ยนแปลงไหม แต่ว่าเราทิ้งไว้นานเกิน 2 ปี มันก็คงจูนกันไม่ติดแล้ว เลยตัวสินใจว่าเราสามารถมูฟออนไปได้ทางออกที่ดีที่สุดและทำให้ชีวิตของเรามีทางออกที่มีความสุขมากที่สุด
อร อรอนงค์ : เราก็ได้มีโอกาสได้คุยกับลูกเหมือนกัน ถ้าพ่อกับแม่หย่ากันลูกจะว่ายังไง ตอนนั้นน้องก็อายุ 12-13 ประมาณนี้ ปัจจุบันคนโตอายุ 15 คนเล็ก 13 แต่คือเรื่องราวมันเกิดขึ้นมา 3 ปีก่อนที่แม่จะหย่า ในระหว่างเริ่มต้น มันก็มีที่ลูกอาจจะแบบไปเจอบุคคลนั้นบ้าง เลยทำให้ลูกรู้สึกว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปกับสิ่งที่พ่อทำ พอแม่พูด ลูกก็รับรู้ได้โดยอัตโนมัติ พอถึงเวลาที่ต้องหยุดความสัมพันธ์ของการเป็นสามี ภรรยา พ่อกับแม่ก็ต้องเลิกกัน ลูกคนโต บอกว่าคุณแม่ๆ รู้หรือเปล่าที่โรงเรียนมีวิทยากรมาพูดว่าปัจจุบันนี้ภาพของคนโดยส่วนใหญ่แล้วครอบครัวบางครอบครัวอาจจะมีความแตกแยกกัน แต่เขาไม่หย่าขาดจากกัน เขาอยู่ด้วยกันเพราะมีความจำเป็นหรือเพราะเหตุผลใดๆ ลูกมีความเป็นผู้ใหญ่มาก คนโตเขาจะมีเหตุผลค่ะ ต้องยกความดีให้พี่อ้อย พี่ฉอด เพราะวิทยากรที่ไปพูดในโรงเรียนคือ พี่อ้อย พี่ฉอด ลูกชายคนโตเขาก็เก็บเกี่ยวข้อมูลมาแล้วก็เอามาเล่าให้แม่ฟัง
อร อรอนงค์ : วันแรกที่เรารู้ว่าสามีเรามีผู้หญิง ถ้าไม่มีลูก เราอาจจะเคว้ง ต้องขอบคุณที่มีลูกที่คอยเป็นกำลังใจให้เรา และเราสามารถเดินเคียงคู่ไปกับลูกได้และลูกเองก็รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
อร อรอนงค์ : พอเราพูดว่าพ่อกับแม่ต้องแยกทางกัน จะต้องไปหย่านะ รู้ใช่ไหมว่าคุณแม่เป็นคนที่อยู่ในวงการ อย่างน้อยๆ มันต้องมีข่าวออกมา มีคนมาถามอะไรแบบนี้ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนในวงการ แต่เมื่อสถานภาพเปลี่ยนหรือเกิดเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นย่อมมีข่าวแพร่ออกไป เราก็บอกลูกว่าถ้ามีข่าวออกไปลูกไม่ต้องตกใจนะ เพราะอันนี้มันเป็นเรื่องของคนที่อยู่ในวงการอยู่แล้ว เขาก็โอเคกับเรา ยิ่งลูกคนโตเขาเข้าใจอยู่แล้วเขาบอกเราว่า ถ้าคุณแม่ทำแล้วมีความสุข คือ ก็ทำได้เลย
ถาม เหงาไหมทุกวันนี้
อร อรอนงค์ : ไม่เหงา ด้วยความที่เราโชคดีที่เราก็ยังมีงานในวงการบันเทิง ผู้ใหญ่ได้ให้ความเอ็นดูเราอยู่ให้งานเราทำ เรายังดูแลลูก ทำร้านเสื้อผ้าชื่อแบรนด์ อรอนงค์ เป็นเสื้อผ้าสวมใส่ง่ายๆ สบายๆ มีหน้าร้านอยู่ที่ตลาดบองมาร์เช่ มันก็เลยทำให้เราไม่ได้อยู่นิ่งแล้วมีเวลาว่างๆ
ถาม จะเหงาก็มีใครไม่ได้ เพราะว่าลูกชายหวงมาก
อร อรอนงค์ : คนเล็กคือหวงมาก เพราะเราถามเขาว่าถ้ามีผู้ชายเขามาจีบแม่ได้ไหม เขาตอบเราเลยว่า ไม่ ส่วนคนโตเขาจะแนวมีเหตุผล ถ้าเขามาดีก็ลองคุยๆ ดู
ถาม ใม่ใช่แค่ลูกที่หวงแม่ แต่แม่ก็หวงลูกเหมือนกัน
อร อรอนงค์ : ถ้ายังไม่เข้ามหาวิทยาลัยห้ามมีแฟน บอกอย่างนี้เลย เพราะว่าเราก็บอกเขาด้วยเหตุผลว่าเห็นไหมขนาดคุณแม่มีแฟนในขณะที่คุณแม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่การตัดสินใจก็อาจจะผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้นลูกยังอยู่ในวัยเรียน ความคิดความอ่านความรับผิดชอบตัวเองมันยังไม่มี
อร อรอนงค์ : ที่เราสอนแบบนั้น ด้วยความที่บ้านเรายากจน เราต้องช่วยเหลือครอบครัวเรา เราเรียนนาฎศิลป์ตั้งแต่ม.2 เราก็ทำงานเป็นนางรำ ยู่ศูนย์วัฒนธรรม เรามีความรู้สึกว่าเรามีหน้าที่ในการดูแล แล้วเราก็ยังเป็นเด็ก เราไม่มีเวลาไปสนใจในเรื่องของความรัก เพราะเราเห็นเพื่อนที่มีความรักในวัยเรียนมันไม่ประสบความสำเร็จเลย ทุกคนต้องร้องไห้แล้วมาปรึกษาเราเหมือนเราเป็นศิราณี ก็เลยเอาประสบการณ์นี้มาเล่าให้ลูกฟัง เพราะว่าความรักในวัยเรียนเรารู้สึกว่าเป็นความรักแบบฉาบฉวย แต่เราก็บอกลูกว่าถ้ามีเพื่อนเป็นหญิงก็คุยกันได้นะ แต่เราก็ต้องเว้นช่องว่างของการเป็นเพื่อนเท่านั้น เป็นแฟน กิ๊กกัน พากันไปเที่ยว จับมือ จับแขนอะไรไม่ได้ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนที่อยู่ในกรอบอยู่แล้วเราเลยมีความรู้สึกที่ว่า สิ่งที่ผู้ใหญ่ปลูกฝังคือความรักที่เขามีให้เรา เขาคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างถ้าเราออกนอกกรอบ เขามีประสบการณ์มาก่อนเขาก็จะรู้ก่อน เขาบอก เขาสอนเพราะเขาเป็นห่วงใยเรา
ถาม แล้วจริงๆ มีคนมาจีบไหม
อร อรอนงค์ : ยังไม่มีค่ะ เพราะด้วยความที่เราเป็นคนนิ่งๆ แบบนี้ คนก็เลยไม่กล้าเขามา
ถาม เป็นคุณแม่ที่รักลูกมาก ช่วงนี้ลูกบอกว่าอยากจะเป็นเชฟ ทำทุกอย่างเพื่อเก็บเงินให้ลูกได้เรียน
อร อรอนงค์ : ประมาณนั้นค่ะ เพราะเรารู้ว่าการไปเรียนเชฟจะต้องใช้เงินลงทุนพอสมควร ในการเรียน การฝึกทำเองที่บ้าน มันก็ต้องมีการลงทุน ทุกอย่างมันก็เป็นเม็ดเงิน ก็จะบอกเหมือนกันว่าถ้าเราตั้งใจจะทำ ถ้าเราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง มันก็จะเป็นสิ่งที่ดี บางครั้งก็ให้เขาเก็บค่าขนมอะไรของเขาเองด้วย เวลาจะซื้ออุปกรณ์ เราก็จะบอกลูกว่า ลูกออกครึ่งหนึ่ง แม่ออกครึ่งหนึ่งนะ ลูกก็จะได้รักของของตัวเองด้วย ถ้าแม่ซื้อให้หมดเลย ลูกเขาก็จะไม่มีความภูมิใจหรือรักของสิ่งนั้นๆ
ถาม ทำทุกอย่างถึงขนาดที่ว่าเอาเสื้อผ้าของตัวเองไปขายจริงหรือเปล่า
อร อรอนงค์ : เขาอาจจะคิดว่าเราไม่เคยไปขายของตามตลาดนัด ซึ่งตลาดนัด เป็นตลาดนัดที่รุ่นพี่ที่สาธิตเกษตร เขาชวนเราไปขาย เป็นตลาดเฉพาะกิจ ไม่ใช่ตลาดนัดทั่วๆ ไป เวลาขายของเราก็ขายในสไตล์นิ่งๆ แบบนี้
ถาม แล้วตอนที่เราตัดสินใจไปขายกังวลไหมว่าจะมีคนเห็นเราไหม
อร อรอนงค์ : ไม่เลยค่ะ เพราะต้องบอกก่อนเลยว่าก่อนหน้านี้ เราเคยไปเปิดท้ายขายของตลาดนัดดาราอะไรแบบนี้อยู่แล้ว พอเรามีอะไรเราก็เอาไปขาย เราเป็นลูกแม่ค้าเก่าเราไม่อายทำกินอยู่แล้ว เราคิดว่าเราทำงานสุจริตแล้วก็มันเป็นน้ำพักน้ำแรงจริงๆ เงินมาเราก็ภูมิใจเราไม่ได้ไปแบมือขอใคร
ถาม มีคนเยอะมากที่อยู่ใน ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในภาวะความสัมพันธ์ ไม่กล้าเดินออกมา อยากบอกอะไรกับคนเหล่านี้บ้าง
อรอนงค์ : ทุกคนต้องรักตัวเอง ทุกคนต้องก้าวเดินอย่างมีความสุข เราถึงอยู่ในสังคมนี้ได้ ถ้าเราอมทุกข์ เรายังแบกรับภาระที่มันไม่ใช่ความผิดของเรา หรือว่ามันเป็นสิ่งหนึ่งที่อาจจะติดค้างอยู่ในใจเรา มันไม่สามารถที่จะไปบอกใครได้หน้าชื่นอกตรม ดูแล้วไม่มีความสุข เราควรที่จะมูฟออนออกมา แล้วก็ทำชีวิตของเราให้ดี ไม่ต้องมีผู้ชายมาดูแลเรา เราดูแลตัวเองได้ ยิ่งถ้าใคร เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แล้วมีลูกยิ่งต้องมีความสุขกับลูกให้มาก ต้องมีสุขภาพที่ดี ดูแลตัวเอง ดูแลลูก แต่เราก็ต้องมีเหตุผลในการคุยกับลูก แล้วก็การ เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว บางคนจะบอกว่าบางคนเลือกว่าจะอยู่กับแม่ บางคนเลือกที่จะอยู่กับพ่อ แล้วพอมีปมในใจ มักจะไปลงอะไรกับลูก ก็อยากจะให้เขาคิดก่อนก่อนที่จะทำอะไรลงไปเพราะว่าผลกระทบมันเป็นระยะยาว แล้วเราไม่รู้ด้วยว่า มันจะติดค้างไปในใจลูกไหม
อรอนงค์ : อย่างเราก็มีอารมณ์โกรธว่าทำไมเขาถึงทำกับเราแบบนี้ แต่เราก็ตั้งสติคิด ยังไงเขาก็ยังเป็นพ่อลูกกัน เราก็จะบอกลูกว่า ลูกไม่ต้องไปโกรธพ่อเขานะ เพราะว่าพ่อเขาก็อยากไปมีชีวิตของเขา มีความสุขของเขา เราก็ปล่อยเขาไปเถอะ เราก็มีความสุขในแบบของเรา คือเวลาไปไหนมาไหนกํบพ่อก็ไปเถอะ แต่จะบอกว่าแม่ไม่ไปด้วยนะ เพราะเหตุผลอะไรลูกก็น่าจะรู้ดี ถ้าเราบอกด้วยเหตุและผล เด็กปัจจุบันถือว่า เป็นยุคที่เด็กรับฟังเหตุผลได้ดี
ถาม รักลูกทุ่มเทเวลาให้ลูกขนาดนี้ ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก เห็นล่าสุดลูกคนเล็กมีแววเป็น ยูทูบเบอร์ คุณแม่เลยสนับสนุนเต็มที่ สร้างช่องยูทูบขึ้นมา
อร อรอนงค์ : เผื่ออนาคตลูก เขาต้องการแบบนี้จริงๆ มันก็มีช่องไว้แล้ว ชื่อ มูฟกับอร ชื่อก็เป็นชื่อแม่ด้วย อนาคตถ้าเขาเริ่มโตเริ่มเรียนรู้ เรื่องของเทคนิคอะไรพวกนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ลูกสามารถต่อยอดทำงานได้
อรอนงค์ : ฝากด้วยนะคะ ช่อง มูฟกับอร ชื่อก็มีความหมายตรงตัวเลย ในช่องก็เหมือนพูดเรื่องราวประสบการณ์ของตัวเองให้กำลังใจทุกคนไม่ว่าจะเกิดมรสุมอะไรก็แล้วแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องดูแลตัวเอง คนที่เรารัก คนที่อยู่รอบข้างเรา คอนเทนท์ทุกอย่างเราคิดเองหมด หรือไม่ก็มีช่องทำอาหารเหนือ เพราะมีแฟนๆ ถามถึงมาว่าคิดถึง
ถาม เรียกว่าเป็นคุณแม่ที่คิวฮอตอีกคนเพราะนอกจากจะลูกแลคุณลูกแล้ว ทำช่องยูทูบ ตอนนี้ก็ยังมีละครอีกด้วย
อร อรอนงค์ : ละคร เพลิงนาง กระแสดีมากๆ เลย บอกเล่าถึงเรื่องราวของครอบครัว จริงๆ ปมที่เกิดขึ้นกับน้องพลอยในเรื่องคือพ่อ มีภรรยาสองคนมีพี่ตั๊ก คือภรรยาที่ออกหน้าตาทางสังคม แต่กับอรคือแม่บ้านที่อยู่ดูแลบ้าน ซึ่งสามีในเรื่องคือถ้าชีวิตจริงมี คงแบบเลิกกันไปนานแล้ว แต่ที่ตัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้เพราะบทเลย เขาเป็นคนที่ยอมไปหมดเลย ยอมเพื่อลูก เป็นเมียก้นครัว ทั้งๆ ที่รักกับสามี แต่รักผิดๆ เพราะเรายอมเป็นน้อยเขา แต่พอลูกเราโตเขาเลยมีปมว่าเพราะพ่อแม่เป็นแบบนี้เขาเลยโหยหาในความรัก ยังไงฝากติดตามชมละครเรื่อง เพลิงนาง ด้วยนะคะ ทุกเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 นะคะ เป็นละครสะท้อนปัญหาสังคมได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ