แม่แรงงานไทยที่กลับมาจากประเทศอิสราเอลแล้วกระโดดโรงแรมเสียชีวิตระหว่างพักกักตัวควบคุมโรค ที่ จ.ชลบุรี สุดเสียใจและยังไม่ทราบแรงจูงใจที่ลูกฆ่าตัวตาย ขณะหลายหน่วยงานเดินทางไปให้กำลังใจเผยได้เงินเยียวยาจากภาครัฐเพียง 4 หมื่น
จากกรณีหนุ่มชาวบุรีรัมย์ เพิ่งเดินทางกลับจากประเทสอิสราเอล ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ณ สถานกักกันโรคแห่งรัฐที่กำหนด ใน จ.ชลบุรี จนเสียชีวิตนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนุ่มกลับจากอิสราเอล ดิ่งตึกดับในสถานกักตัวโควิด นายกฯ เสียใจ พร้อมสั่งสอบ
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่จากกระทรวงแรงงาน,ประกันสังคม,สำนักงานจัดหางาน จ.บุรีรัมย์ และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานบุรีรัมย์รวมถึง อสม. ชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างมาให้กำลังใจนางสายยนต์ พรมงาม อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ม.6 ต.บ้านยาง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ หลังจากนายพล พรมงาม อายุ 39 ปี ลูกชายซึ่งอยู่ระหว่างการพักกักตัวควบคุมโรคณพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) โรงแรมจอมเทียนปาล์มบีช พัทยา จ.ชลบุรี แล้วกระโดดอาคารโรงแรมเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วานนี้
นางสายยนต์ ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าหลังทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่พร้อมกับเล่าว่า ลูกชายไปทำงานด้านการเกษตรที่ประเทศอิสเอล ตามสัญญาจะอยู่ได้ 5 ปีแล้วต่อสัญญาอีก 1 ปี ก่อนหน้านี้ลูกชายโทรศัพท์มาบอกว่าจะกลับบ้านในวันที่ 25 ส.ค.นี้ แต่ต้องถูกกักตัวอีก 14 วัน
ตนเองดีใจที่จะได้เห็นหน้าลูกชายที่ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 5 ปี แต่จู่ๆ ก็มาทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่แรงงานว่าลูกชายได้เสียชีวิตแล้วเพราะกระโดดโรงแรมในที่กักตัว ตนตกใจมากเพราะลูกชายไม่เคยส่งสัญญาณอะไรมาก่อน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่หามูลเหตุของการฆ่าตัวตายในครั้งนี้ว่าเป็นเพราะอะไรและทำไมถึงมาฆ่าตัวตายทั้งที่ใกล้จะกลับบ้านแล้ว
ด้านนางสาวสุทริณี ปิยะสันติกุล รักษาราชการแทนประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้น นายพลเคยอยู่ในระบบประกันสังคมมาก่อนแล้วออกจากระบบไปเมื่อเดือน พ.ย.2556 ซึ่งยังมีเงินเก็บสะสมไว้อยู่ประมาณ 40,000 บาท เงินจำนวนนี้ประกันสังคมจะจ่ายให้กับญาติที่ถูกต้องตามกฎหมาย คือ พ่อกับแม่ของนายพล ส่วนภรรยาซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสและลูก ตามกฎหมายประกันสังคมจะไม่มีสิทธิ์รับเงินเยียวยานี้