กรณีเมื่อวันที่ 26 ส.ค.63 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. บริเวณปากซอยพหลโยธิน 40 ได้เกิดเหตุรถเบนซ์สีเทา ทะเบียน ฉว 4 กรุงเทพฯ พุ่งชนรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 5กพ7376 กรุงเทพฯ จนเสียหลักล้มไถลไปไกลกว่า 10 เมตร แล้วหลบหนีไป เป็นเหตุให้นายณัฐพงษ์ เสตะวัน อายุ 26 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา
จากข้อมูลทราบว่า ก่อนหน้านั้นรถเบนซ์คันดังกล่าวได้มีปัญหากับ นายธันวา วงค์สุรินทร์ อายุ 25 ปี ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มากับแฟนสาว บริเวณถนนงามวงศ์วานอยู่ก่อนแล้ว
เนื่องจากรถเบนซ์ได้ขับปาดหน้า รถจักรยานยนต์ของนายธันวา จำนวน 2 ครั้ง แล้วขับหนีไป นายธันวาจึงไล่ติดตามรถเบนซ์ไปจนถึงทางลงอุโมงค์ลอดแยกเกษตรศาสตร์ ก่อนจะมีปากเสียงชกต่อยกัน บริเวณหน้าประตู 1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
จากนั้นรถเบนซ์คันนี้ได้ใช้จังหวะเผลอขับหลบหนีไปทางถนนพหลโยธิน และชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ของนายณัฐพงษ์
ล่าสุดวันที่ 27 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับนายธันวา วงค์สุรินทร์ หนุ่มไลน์แมน เล่าว่า เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 21.20 น. ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านย่านงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี โดยพาแฟนสาวซ้อนท้ายมาด้วย เพื่อที่จะไปรับงานส่งอาหารช่วงดึกด้วยกัน แต่ขณะที่ตนขี่รถอยู่บนสะพานข้ามแยกพงษ์เพชร รถเบนซ์คันดังกล่าวก็ได้ขับปาดหน้ารถของตน ตนจึงขี่รถตาม
เมื่อลงสะพาน รถเบนซ์ก็ได้ขับปาดกน้ารถตนอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีการพยายามเบรก ทำให้รถจักรยานยนต์ของตนเกือบชนท้ายรถเบนซ์ ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ไปประกบด้านซ้ายของรถเบนซ์ ชายคนขับรถเบนซ์ก็ได้เปิดกระจกฝั่งตรงข้ามคนขับ พูดผ่านหน้าแฟนสาวของตนด้วยท่าทีโมโห "ทำไม มีอะไร" ตนจึงถามกลับไปว่า "ทำไมพี่ขับรถแบบนี้" แต่อีกฝ่ายยังคงพูดน้ำเสียงโมโห "อะไร ทำไมล่ะ" แล้วเร่งเครื่องขับนำหน้าไป ตนจึงขับตาม แต่อีกฝ่ายก็ได้ขับรถปาดหน้าตนอีกครั้ง ตนจึงได้จอดรถ แต่อีกฝ่ายก็ได้ขับนำหน้าไป
ทั้งนี้ตนตัดสินใจขี่รถต่อ ในใจคิดไม่อยากจะตามไปต่อปากต่อคำแล้ว แต่เมื่อตนขับรถมาถึงบริเวณประตู 1 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตนได้สังเกตเห็นรถเบนซ์จอดนิ่งอยู่ข้างทาง ตนจึงได้จอดรถเลยรถเบนซ์คันดังกล่าวไป คนขับรถเบนซ์ก็ได้ขับมาจอดข้างหน้า เปิดประตูรถเดินปรี่เข้ามาหาเรื่องตน "มึงเป็นอะไร มึงจะทำไม" แล้วต่อยเข้าที่ศีรษะ และหูซ้ายของตน ตนได้แต่ก้มหลบ แต่ตนไม่แน่ใจว่าต่อยถูกตนอีกหรือไม่
จากนั้นได้มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยแล้วถ่ายคลิปวิดีโอไว้ พร้อมแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนั้นแฟนสาวของตน และแฟนของคนขับเบนซ์ได้เข้ามาห้าม ไม่ให้ตนและคนขับเบนซ์ทะเลาะกัน
เมื่อคนขับรถเบนซ์ได้กลับเข้าไปนั่งในรถ ตนพยายามยืนขวางประตูฝั่งตรงข้ามคนขับ เพื่อจะรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ สักพักคนขับรถเบนซ์ก็ลงจากรถมาหาเรื่องตนอีก "ทำไม มึงจะอะไรอีก กูทะเลาะกับแฟน แล้วมาเจอมึง แล้วจะทำไม เดี๋ยวมึงเจอกู" จากนั้นก็ได้กลับเข้าไปในรถ และคนขับเบนซ์ก็ขับรถออกไป ทั้ง ๆ ที่แฟนสาวยังไม่ได้ปิดประตูรถ ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ตามมาถึงเส้นพหลโยธิน แต่คลาดกัน ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปสน.บางเขน เพื่อแจ้งความในเวลา 21.45 น.
จากนั้นไม่นาน ตนก็ได้พบกับนายณัฐพงษ์ เสตะวัน ที่สน.บางเขน จากการสอบถามทราบว่านายณัฐพงษ์ ถูกรถเบนซ์ชนแล้วหนี บริเวณหน้าซอยพหลโยธิน 40 แต่ไม่ทราบว่าใช่รถเบนซ์คันเดียวกันหรือไม่
จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับนายณัฐพงษ์ เสตะวัน อายุ 26 ปี ผู้เสียหายที่ถูกรถเบนซ์ชนล้ม หลังจากที่เข้าไปไกล่เกลี่ยกับคนขับรถเบนซ์แล้ว ซึ่งนายณัฐพงษ์ ระบุว่า เห็นหน้าคนขับแล้วอยากด่าว่า ขับชนแล้วหนีทำไม ไม่มีน้ำใจลงมาดูคนเจ็บ และจากการพูดคุย คนขับรถเบนซ์บอกกับตนว่า “ไม่ได้ตั้งใจ รู้ว่าเฉี่ยวชน แต่มองไม่เห็นว่าชนจนรถล้ม จึงขับรถหนีไป”
นอกจากนี้คนขับรถเบนซ์ยังบอกอีกว่า ขณะเกิดเหตุมีอารมณ์หงุดหงิด ใจร้อน โมโห เนื่องจากทะเลาะเรื่องส่วนตัวกับแฟนสาวบนรถยนต์ ทั้งนี้คนขับรถเบนซ์ได้กล่าว “ขอโทษ” โดยขอโทษ 2 รอบ พร้อมบอกว่า “ยอมรับผิดทุกอย่าง จะรับผิดชอบทุกอย่าง และจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถมอเตอร์ไซค์”
อย่างไรก็ตาม ตนจะเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีอีกครั้ง ขณะนี้ตนรู้สึกสบายใจมากขึ้นและโล่งใจ ที่หนุ่มขับรถเบนซ์เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
โดยก่อนหน้านี้ ในเวลาประมาณ 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่สน.บางเขน นายพิพิธชัย ปภาวงศ์วณิช อายุ 41 ปี หนุ่มขับรถเบนซ์คันที่เกิดเหตุ พร้อมแฟนสาว เดินทางมายัง สน.บางเขน เพื่อพบกับพนักงานสอบสวน ก่อนเข้าให้ปากคำกับพ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี หัวหน้างานสอบสวน สน.บางเขน ขณะเดียวกันตำรวจเชิญตัวนายณัฐพงษ์ เสตะวัน คนที่ถูกรถเบนซ์ชนล้ม เข้ามาไกล่เกลี่ยกับหนุ่มขับรถเบนซ์ ภายในห้องหัวหน้างานสอบสวน
ภายหลังจากมีการสอบปากคำและไกล่เกลี่ยกว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. สอบปากคำแล้วเสร็จนายพิพิธชัย และแฟนสาว รีบเดินออกจากห้องพนักงานสอบสวน ลงไปยังหน้า สน.บางเขน อย่างรวดเร็ว
จังหวะนั้นทีมข่าวพยายามสอบถามนายพิพิธชัย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ความว่า “อย่างฟังความข้างเดียว” รถจักรยานยนต์ที่มีเรื่องกันนั้น ก่อนหน้านี้ขี่รถปาดหน้ากันไปมาหลายรอบ กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ จอดรถลงมาเจอกัน ก่อนจะสมัครใจทะเลาะวิวาท
นอกจากนี้ หนุ่มขับรถเบนซ์ ยังเปิดภาพบาดแผลให้ทีมข่าวดู ในจังหวะที่กำลังเดินออกจาก สน.บางเขน มีบาดแผลบริเวณหน้าผากเป็นรอยแดง พกช้ำทั่วหน้าผาก ส่วนบริเวณลำคอและเนินอกมีรอยถลอกแดงเป็นแนวยาวจากการทะเลาะวิวาทกับฝ่ายคนขี่รถจักรยานยนต์
ทั้งนี้หนุ่มขับรถเบนซ์ ยังระบุว่า ตนพร้อมไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีทุกราย ส่วนเรื่องคดีความ ใครผิดหรือใครถูก ก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป สำหรับการเดินทางมายัง สน.บางเขนวันนี้ เจ้าตัวได้นั่งแท็กซี่มา เพราะไม่ได้ขับรถเบนซ์คันที่เกิดเหตุมาด้วย