รวบมือปืนชุดกันฝนเคาะประตูยิงหนุ่มป่วยจิต อ้างเคยสนิทแต่น้อยใจเพื่อนห่างเหิน (คลิป)

จากกรณี วันที่ 26 ส.ค. 63 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ชนาธิป ภาโนมัย ผกก. สภ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย  ร.ต.อ.ถวัลย์ หอมพรมมา พนักงานสอบสวน พร้อมกำลังตำรวจ ตำรวจวิทยาการ แพทย์เวร รพ.สุวรรณคูหา กู้ภัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช  เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรศพ นายสถิต พึ่งเมือง หรือ เพ็ญ อายุ 44 ปี ซึ่งเคยมีประวัติเข้ารับการรักษาอาการทางจิต  ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่เบ้าตาและขมับขวาเลือดไหลนองพื้น เสียชีวิตในบ้านพักใน หมู่บ้านนาไร่ ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา

จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้ห้องน้ำประตูหลังบ้าน บานประตูมีช่องกระจกสองช่อง แตกหนึ่งช่อง สภาพศพแข็งตัว คาดว่าเสียชีวิตมาเกิน 12 ชม.

จากการตรวจที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนในบริเวณบ้าน พบมีดและปืนของผู้ตายวางอยู่  รอบบ้านมีกล้องวงจรปิดติดตั้ง เจ้าหน้าที่จึงนำเครื่องบันทึกไปให้ช่างตรวจสอบ และติดตามคนร้ายจากรูปพรรณ

ล่าสุดวันที่ 27 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณบ้านหมู่ 5 หมู่บ้านนาไร่ ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เตรียมจัดงานพิธีสวดอภิธรรมศพที่บ้านจุดเกิดเหตุ

นางหนูล้อม พึ่งเมือง อายุ 66 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เผยว่า ผู้เสียชีวิตคือนายสถิต พึ่งเมือง ลูกชาย ปกติจะอาศัยอยู่กับนายแก่นสี สามีของตนเองที่บ้านจุดเกิดเหตุ โดยลูกชายมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานาน ทั้งกินเหล้า ดมกาว ยาม้า เลยจะมีนิสัยพูดจาโผงผางเพราะเสพยา จนมีอาการป่วยทางโรคจิตเวช หากเวลาคลุ้มคลั่งมักจะทำร้ายร่างกาย ตนเอง สามี และเพื่อนบ้าน อยู่บ่อยครั้ง

ทั้งนี้ ตนเองเคยพาไปรักษาแล้วหลายครั้ง แต่ลูกชายก็จะบอกว่า "ไม่ได้บ้า พ่อกับแม่นั่นแหละบ้า" จนทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว และไม่อยากเข้าใกล้ลูกชาย เพราะหวั่นได้รับอันตราย หากลูกชายคลั่ง

ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ลูกชายขอเงินจากตนเอง สามีไปจำนวน 40,000 บาท เพื่อนำไปซื้อกล้องวงจรปิดไปติดตั้งรอบบ้าน จำนวน 4 ตัวรอบมุมบ้าน เนื่องจากเกรงว่าหากเวลาตนเองและสามีไม่อยู่บ้าน ข้าวของภายในบ้านจะหาย หลังจากที่ลูกชายซื้อกล้องวงจรปิดมาติด ช่วงนั้นได้มีปัญหาทะเลาะกับตนเองเนื่องจากคลั่งยาเสพติดอย่างหนัก ทุบตีและทำร้ายร้างกายคนในบ้าน ทำให้ตนเองกับสามีหนีออกจากบ้าน ไปพักอาศัยอยู่กับน้องสาวที่ จ.อุดรธานี

ทำให้เมื่อวันที่ 21 ส.ค.63 ลูกชายเข้าใจผิด เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.สุวรรณคูหา ว่าตนเองกับสามีได้หายออกจากบ้านไป กระทั่งคืนวันที่ 25 ส.ค.63 ช่วงหัวค่ำมีเพื่อนบ้านโทรมาบอกกับสามีของตนเองว่า "ทำไมที่บ้านไม่เปิดไฟ ไม่มีคนอยู่หรอ" สามีก็ได้บอกว่ามีลูกชายอยู่ภายในบ้าน ชาวบ้านคนที่มาบอกจึงได้เดินไปแง้มประตูดูที่หน้าบ้าน พบว่าภายในบ้านปิดไฟ แต่เห็นร่างของลูกชายนอนอยู่เลยไม่กล้าเรียก จนเช้าวันที่ 26 ส.ค. 63 เพื่อนบ้านได้เดินเข้าไปดูก็ยังพบลูกชายนอนอยู่ที่เดิมจึงเห็นความผิดปกติ โทรตามหลานสาวของตนเองให้เข้าไปดูลูกชาย จนไปพบว่าลูกชายของตนเองนอนเลือดไหลนองพื้นถูกยิงเสียชีวิต

ตรวจกล้องวงจรปิดเห็นคนร้ายได้สวมเสื้อกันฝนและสวมหมวกคลุมปิดบังใบหน้า และที่ศีรษะได้ติดไฟฉายส่องกบ ถืออาวุธปืนลูกซองยาว เมื่อลูกชายเปิดประตูออกมา คนร้ายได้ยิงลูกชายจนหงายลงกับพื้นเสียชีวิต แล้ววิ่งหลบหนีไปในความมืด

ด้านนายแก่นสี พึ่งเมือง อายุ 67 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนเองและภรรยาก็ยังคงทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะถึงแม้ว่าลูกจะคลั่งยาและทำร้ายร่างกายตนเองบ่อยครั้ง แต่ลูกชายก็ยังเป็นลูกชายของตนเองเสมอ ส่วนปมเหตุที่เสียชีวิต ตนเองไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร เพราะลูกชายปัญหาทางจิต มักมีปากเสียงหาเรื่องชางบ้านไปทั่ว ถึงขั้นเวลาคลั่งยามีชาวบ้านขับรถผ่านหน้าบ้าน หันมองหน้าลูกชายลูกชายยังขี่รถไล่ตาม ถามว่า "มึงมองหน้ากูทำไม มีปัญหาหรอ" และจะทำร้ายคนที่ผ่านไปมา

แต่อีกใจหนึ่ง ตนเองก็มีความคิดว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวเรื่องปัญหาผิดใจปมยาเสพติดหรือไม่ ทำให้คนร้ายตามมายิงลูกชายถึงบ้าน แต่รายละเอียดที่แน่ชัด ตนเองก็ไม่ทราบ หากเป็นไปได้อยากบอกกับลูกชายว่า "ขอให้ลูกชายไปดี ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี อะไรที่ทำไม่ดีกับพ่อแม่ขออโหสิกรรมให้"

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุได้ คือนายวัฒนา งอบสูงเนิน อายุ 38 ปี ที่บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 9 ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี กระท่อมนาข้างหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ พร้อมด้วยอาวูปืนที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ ใส่กระสอบปุ๋ยไปซ่อนไว้ในโอ่งแดงข้างกระท่อม

ผู้ก่อเหตุเล่าวว่า เมื่อก่อนเคยอยู่เคยกินเคยนอนด้วยกันกับผู้ตายเหมือนพี่ชาย มีข้าวมีปลาอาหาร มีกัญชา ยาบ้า ก็จะแบ่งกันสูบ แต่ต่อมานายสถิตเปลี่ยนไป ตัวเองไปส่องกบจะขอเข้าไปพักอาศัยก็ไม่ได้ ในวันเกิดเหตุจึงมาเคาะประตูเรียกผู้ตาย จะเข้าไปนอนพักด้วย แต่ผู้ตายปิดล็อกประตู ก่อนจะเปิดประตูมาด้านหลัง เห็นผู้ตายจะต่อสู้ ตนจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 1 นัด แล้วหนีไป