“น้องเพลง” ลูกสาว “อ้อย กาญจนา” เผยคุณแม่มีหลายโรครุมเร้าทั้ง หัวใจ-มะเร็ง

28 ส.ค. 63

อีกหนึ่งข่าวที่ช็อควงการบันเทิง ก็คือการจากไปของนักแสดงรุ่นใหญ่ อ้อย กาญจนา จินดาวัฒน์ โดยลูกสาว น้องเพลง ภตภร (พัด-ตะ-พร) สีบุญเรือง ได้ออกมาแจ้งข่าวร้ายเมื่อวานนี้ว่า คุณแม่ได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เมื่อเวลา 16.47 น. ที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ในวัย 61 ปี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน "อ้อย กาญจนา จินดาวัฒน์" นักแสดงชื่อดัง เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ
- ย้อนรอยผลงานสุดประทับใจ "อ้อย กาญจนา" นักแสดงมากฝีมือ!!
- “ปั้นจั่น” เผยอาการป่วย “น้าอ้อย กาญจนา” พร้อมยกเป็นแบบอย่างในวงการบันเทิง
- "เบิร์ด ธงไชย" สุดอาลัย "อ้อย กาญจนา" นางเอกคู่ขวัญ "ด้วยรักและผูกพัน"

s__66854960

โดยวันนี้ (28 สิงหาคม 2563) เวลา 16.00 น. ก็ได้มีพิธีรดน้ำศพ ณ ศาลา 2 ลิ่วเฉลิมวงศ์ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร โดยมีสามี คุณโต้ง สาธิต รอดเกิด และลูกสาวลูกชายทั้ง 2 คน น้องเพลง ภตภร (พัด-ตะ-พร) สีบุญเรือง , น้องพิณ พรรษวัชร์ รอดเกิด รวมถึงคนบันเทิง อาทิ ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย , ส้ม ชนากานต์ ชัยศรี, เกม ศานติ สันติเวชชกุล, สุเชาว์ พงษ์วิไล , พ่อรอง เค้ามูลคดี , หมู ดิลก , ปัทมา , ปู ปริศนา , ตุ๊ก เดือนเต็ม เข้าร่วมพิธี จากนั้นเวลา 18.30 น. ก็มีพิธีสวดพระอภิธรรม ซึ่งมีครอบครัวเป็นเจ้าภาพ โดยบรรยากาศทั้ง 2 ช่วงก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

 

ในส่วนของพวงหรีดที่ส่งมาร่วมไว้อาลัยในวันแรก ก็เกือบจะแน่นศาลแล้ว อาทิ ชมพู่ อารยา , แอน ทองประสม , / ยุ้ย จีรนันท์ -ธันญ์ ธนากร / ป๋อ ณัฐวุฒิ , ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาติ และอีกมากมาย

ด้าน ลูกสาวก็ได้ออกมาเปิดใจถึงการสูญเสียคุณแม่ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ โดยเผยว่า แม่ป่วยเป็นโรคหัวใจมาประมาณ 10 ปี ซึ่งเป็นโรคหัวใจกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นโรคที่รักษาไม่หาย ต้องกินยาเพื่อปรับสภาพร่างกายเท่านั้น ไม่เหมือนเส้นเลือดหัวใจตีบ ที่ทำบอลลูนแล้วก็จบ

 

ทำให้หัวใจก็อ่อนแอมาตลอด ร่างกายก็พยายามฟื้นฟูตัวเอง เอาอวัยวะอื่นมาช่วยเป็นพลังเสริมร่างกาย จนวันนึงพลังงานสำรองมันก็อาจจะหมดไป และบวกกับว่ามาเจอโรคแทรกซ้อนอีกเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว โดยเจอมะเร็งที่เยื้อหุ้มปอดกับที่กระดูก ซึ่งเป็นระยะที่ลุกลามแล้ว

แต่แม่ก็สั่งไม่ให้บอกใครเรื่องอาการของโรคมะเร็ง เพราะไม่อยากใช้ชีวิตเป็นคนป่วย อยากใช้ชีวิตให้มีความสุขทุกวัน เขาก็ยังมีความคิดว่าเขาจะสู้ เขาจะหาย (เสียงสั่น) แต่เรื่องโรคหัวใจตนก็แกมๆ บังคับเขา ขอว่าต้องบอกบางคนนะ เพราะต้องฝากพี่ๆที่กองถ่ายให้ดูแล จะได้ทราบว่าแม่ต้องมีข้อควรระวังอะไรบ้าง

 
 
 
View this post on Instagram
 
 

คุณแม่จากไปแล้วด้วยโรคหัวใจ เมื่อตอน 16.47น. ของวันนี้ ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้นะคะ ขออนุญาตแจ้งกำหนดการเท่าที่ทราบก่อน เพราะฉุกระหุกมากจริงๆ วันเผาจะรีบแจ้งพรุ่งนี้นะคะ เพราะต้องคุยกับทางวัดก่อน มีบางวันทางวัดติดภารกิจที่ไม่สามารถทำพิธีเผาได้ค่ะ 🙏🏻

A post shared by เพลง - ภตภร สีบุญเรือง (@plengpatapohn) on

ในส่วนของโรคมะเร็งมีการรักษาแบบใหม่ ที่ไม่ต้องทำคีโม ซึ่งโชคดีที่ร่างกายของคุณแม่รับได้ เพราะมีผู้ป่วยแค่ 50% เท่านั้นที่จะรักษาแบบนี้ได้ โดยราคาก็ค่อนข้างสูง สำหรับอาการก็ดีมากในช่วงแรกๆ มาทรุดหนักๆ ช่วงประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา เพราะเริ่มมีเอฟเฟ็กต์จากการที่ต้องเปลี่ยนตัวยา ทำให้เบื่ออาหาร ผอมลงเกือบ 10 กิโลกรัม และที่ทรุดหนักจริงๆก็คือรอบสุดท้ายที่แม่เข้าโรงพยาบาล เขามีอาการหายใจติดขัด โดยโรคหัวใจมักจะมาคู่กับน้ำท่วมปอด

ลูกสาวเล่าต่ออีกว่าเดือนหลังมานี้ แม่มีอาการเหนื่อยเยอะ เวลาไปไหนมาไหนก็จะให้นั่งรถเข็น ไม่ได้เห็นเขาเดินเที่ยวมาเป็นเดือนแล้ว จนวันที่คุณแม่ไปถ่ายรายการของ พี่แอน (แอน ทองประสม) รายการเสือ สิงห์ กระทิง แซ่บ เป็นวันที่ได้เห็นคุณแม่เดินเองครั้งสุดท้าย (น้ำตาคลอ เสียงสั่น) ตนก็ตกใจว่าเขาทรุดลงเยอะมาก จิตใจเขาสู้ แต่ร่างกายเขาไม่ไหว

ทั้งนี้ ลูกสาว บอกว่า หากแม่ไม่เจอโรคแทรกซ้อนก็อาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ เพราะตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ที่รู้ว่าเป็นโรคหัวใจ ไปเจอคุณหมอมาหลายคน หลายท่านบอกว่าอาการหนักขนาดนี้ หัวใจจากทำงาน 100 % เหลือแค่ 20 – 30 % คุณไม่รอดแน่ หมอให้ 3-6 เดือน เต็มที่เลย อยากทำอะไรรีบทำนะ แต่คุณแม่ก็ใจเสียบ้าง แต่ก็สู้ และอยู่มาได้ถึง 10 ปี

นอกจากนี้ ลูกสาว ยังบอกอีกว่า แม่มีห่วง เพราะสั่งเสียไว้ว่า “แม่เป็นห่วงรักลูก รักพ่อ ถ้าแม่ไม่อยู่แล้วให้ดูแลกันดีๆ อย่าทิ้งน้อง” ตนรู้สึกว่าแม่อาจจะห่วงน้องชายมากหน่อย เพราะตนมีครอบครัวของตัวเองแล้ว แต่น้องยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝา แล้วแม่ก็คงห่วงพ่อด้วย เพราะตัวติดกันตลอด

ในส่วนของกำหนดการ เบื้องต้นจะสวดพระอภิธรรมทั้งหมด 7 วัน จากนั้นจะเก็บศพไว้ 100 วัน เพื่อรอทำพิธีฌาปนกิจต่อไป

ถามถึงอาการป่วย ?
"คุณแม่ป่วยเป็นโรคหัวใจมา 10 ปีได้แล้วนะคะ แต่ไม่ค่อยมีใครทราบเพราะคุณแม่ใช้ชีวิตปกติมาก ยังทำงาน แต่พอช่วงหลังๆ ปีกว่าๆเกือบสองปี มาตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งแทรกซ้อนเข้ามาอีก คือคุณแม่เป็นโรคหัวใจกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นโรคที่ไม่หาย ต้องกินยาเพื่อปรับสภาพร่างกาย ไม่เหมือนเส้นเลือดหัวใจตีบ ที่ทำบอลลูนแล้วจบ หัวใจก็อ่อนแอมาตลอด ร่างกายพยายามฟื้นฟูตัวเอง เอาอวัยวะอื่นมาช่วยเป็นพลังเสริมร่างกาย จนวันนึงพลังงานสำรองมันก็อาจจะหมดไป และบวกกับว่ามาเจอโรคแทรกซ้อนอีก ทำให้แทนที่ว่าหัวใจไม่แข็งแรงแล้ว ปอดอาจจะดี กระดูอาจจะดี กลายเป็นว่าหัวใจไม่แข็งแรง ปอดก็มาเจอโรค กระดูกก็มาปวดค่ะ"

เจอที่ไหน?
"ตอนที่เจอเนี้ย เจอที่ที่เยื้อหุ้มปอดกับกระดูก ซึ่งเป็นระยะที่ลุกลามแล้ว ตอนที่คุณแม่เจอก็ทำงานปกติ สั่งห้ามเพลงไม่ให้บอกใครเรื่องอาการของโรคมะเร็ง ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง แม่จะพูดเสมอว่าไม่อยากใช้ชีวิตเป็นคนป่วย อยากใช้ชีวิตให้มีความสุขทุกวัน เขาก็นังมีความคิดว่าเขาจะสู้ จะหาย (เสียงสั่น) เขาเลยไม่ให้เพลงพูดเรื่องมะเร็ง แต่เรื่องโรคหัวใจเพลงก็แกมๆ บังคับเขา ขอเขาว่าต้องบอกบางคนนะ เพราะต้องฝากพี่ๆที่กองถ่ายให้ดูแล จะได้ทราบว่าแม่ต้องมีข้อควรระวังอะไรบ้าง"

เจอมะเร็งตั้งแต่เมื่อไหร่?
"ถ้าจำไม่ผิด ตรวจเจอมะเร็งน่าจะเกือบๆ 2 ปีแล้วค่ะ ตอนนั้นคุณแม่ทำงานถ่ายละครปกติ แต่คุณแม่โชคดีที่มะเร็งมีการรักษาแบบใหม่ ที่ไม่ต้อทำคีโมอย่างเดียว ร่างกายคุณแม่รับยาแบบใหม่ที่ฆ่าแต่เซลล์มะเร็งอย่างเดียวได้ มี 50 % ของคนที่ป่วยเป็นมะเร็งที่จะรับยาแบบนี้ได้ ราคาจะสูงหน่อย ก็ต่อสู้กันมาตลอด อาการดีมากในช่วงแรกๆ มาทรุดหนักๆ ช่วงประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา เริ่มมีเอฟเฟ็กต์ที่ต้องเปลี่ยนตัวยา เบื่ออาหาร ผอมลงเกือบ 10 กิโลกรัม แต่ที่ทรุดหนักจริงๆคือรอบสุดท้ายที่เข้าโรงพยาบาล เขามีอาการหายใจติดขัด แล้วโรคหัวใจมันจะมาคู่กับน้ำท่วมปอด มันก็อันตราย คุณพ่อเลยพาไปส่งที่แผนกฉุกเฉิน จริงๆ ก่อนหน้านี้คุณแม่เข้าฉุกเฉินมา 2 ครั้งแล้ว ในระยะเดือน 2 เดือนนี้ แต่ก็ดื้อขอออกมาทุกครั้งเพราะคิดว่าไม่เป็นอะไร จริงๆคุณแม่รักษาอยูที่รพ.จุฬาฯ แต่ครั้งสุดท้ายฉุกเฉินจริงๆก็เลยไปที่รพ.พระมงกุฎเกล้า แล้วก็ไม่คิดว่าเขาจะไม่ได้ออกมาอีก”

s__66854962

อาการที่เข้าไปล่าสุดคืออะไร?
“หนักนะคะ จริงๆช่วงหลังๆที่อยู่ที่บ้านก็ค่อนข้างหนักมากแล้ว เพลงเจอคุณแม่ทุกอาทิตย์ พาไปหาหมอ ทุกครั้งจะเห็นว่าเขามีอาการเหนื่อยเยอะ เพลงจะให้นั่งรถเข็นไปไหนมาไหน ไม่ได้เห็นเขาเดินเที่ยวมาเป็นเดือนแล้ว จนวันที่คุณแม่ไปถ่ายรายการของ พี่แอน (แอน ทองประสม) รายการเสือ สิงห์ กระทิง แซ่บ เป็นวันที่ได้เห็นคุณแม่เดินเองครั้งสุดท้าย (น้ำตาคลอ เสียงสั่น) เพลงก็ตกใจว่าเขาทรุดลงเยอะมาก จิตใจนะสู้ แต่ร่างกายไม่ไหว เราเริ่มรู้แล้วว่าเดือนนี้หนักจริงๆ และวันที่เข้าโรงพยาบาลก็หายใจหอบด้วย"

คุณแม่ใจสู้มาตลอด?
"ใช่ คุณแม่ใจสู้มาก ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วที่รู้ว่าเป็นโรคหัวใจ ไปเจอคุณหมอมาหลายคน หลายท่านบอกว่าอาการหนักขนาดนี้ หัวใจจากทำงาน 100 % เหลือแค่ 20 – 30 % คุณไม่รอดแน่ หมอให้ 3-6 เดือน เต็มที่เลย อยากทำอะไรรีบทำนะ แต่คุณแม่ก็ใจเสียบ้าง แต่ก็สู้ และอยู่มาได้ถึง 10 ปี ถ้าไม่เจอโรคแทรกซ้อนอาจจะยังไหวอยู่ก็ได้”

ถามย้อนกลับไปเรื่องโรคหัวใจ สามารถรักษาได้ขนาดไหน ?
“เป็นการรักษาด้วยการใช้ยาฟื้นฟูให้หัวใจดีขึ้น ถ้ารักษาที่ต้นเหตุจริงๆก็ต้องถึงขั้นใช้หัวใจเทียม หรือผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่มาก มันก็เป็นไปได้ว่ามีความเสี่ยงตอนผ่าตัดด้วย ก็เลยปรึกษากันว่าช้อยส์นี้มันคงไม่ใช่ ตอนหลังจะย้อนกลับมาทำก็ช้าไปแล้ว เพราะร่างกายอ่อนแอไปเยอะแล้ว”

ใช้ช่วงเวลาสุดท้ายกับคุณแม่ยังไงบ้าง?
“เพลงก็เฝ้า จริงๆ มีเวลาเยี่ยม แต่ก็ขอดูแลคุณแม่นอนตอนที่อยู่ใน ICU เจ้าหน้าที่ก็ทราบว่าอาการหนักมาก ยังโชคดีที่ช่วงระยะสุดท้ายได้เพลงอยู่กับเขาตลอด ทั้งคุณพ่อ น้อง ก็อยู่ด้วย ได้เห็นว่าเขาอาการหนัก แต่เขาก็ยังสู้ มีหลายวันมากเลยที่อยู่โรงพยาบาล เพลงโดนโทรตามกลางดึกต้องมาโรงพยาบาลว่าแม่จะไม่ไหว 2-3 ครั้ง จนเพลงหลอนโทรศัพท์ไปหมดเลย แต่พอไปถึงแม่ก็ฮึดขึ้นมา แต่ร่างกายเขาบอบช้ำและอ่อนแอมาก ก็คงยากที่จะฟื้นตัว เราก็รู้สึกว่าเขากำลังฝืนเพื่อเราหรือเปล่า (สะอื้น)”

แม่ได้สั่งเสียอะไรไหม?
“ตอนที่พูดได้ปกติ ไม่ได้มานอนหลับที่โรงพยาบาล เขาสั่งเสียจนเพลงใจเสียไปหลายครั้งเหมือนกัน แต่คงเป็นสิ่งที่เขาอยากจะพูดกับเรา ว่าแม่เป็นห่วงรักลูก รักพ่อ ถ้าแม่ไม่อยู่แล้วให้ดูแลกันดีๆ อย่าทิ้งน้อง เพลงว่าแม่อาจจะห่วงน้องชายมากหน่อย เพราะเพลงค่อยข้างดูแลตัวเองได้ทุกอย่างแล้ว มีครอบครัวของตัวเองแล้ว ดูแลตัวเองได้มากกว่าน้อง และน้องก็ยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝา ลูกชายคนเล็กเนาะ แม่คงห่วงพ่อด้วย เพราะตัวติดกันตลอด"

"อย่างเรื่องงานแม่ก็พูดตลอด เพลงบอกให้แม่บอกทุกคนว่าเป็นอะไร ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ทุกคนพร้อมให้กำลังใจเรา เผื่อเราจะได้ไปเจอหนทางการรักษาดีๆก็ได้ หรือได้เจอคนที่ไม่เจอมานานแล้วเราอยากเจอก็ได้ แต่คุณแม่ยังไม่อยากบอกใคร ยังอยากทำงาน ไม่อยากเป็นคนป่วย ไม่อยากให้ทุกคนเจอแล้วแม่โทรมแล้วไม่กล้าเรียกแม่ไปทำงาน หรือชวนไปไหน แม่ก็บอกว่าจะดูแลตัวเองให้หายให้ได้ ขอให้ทำทุกอย่างเป็นปกติมากที่สุดดีกว่า”

ได้เรียนรู้อะไรจะแม่บ้าง?
“เพลงได้สิ่งดีๆในตัวเพลงมาจากคุณแม่ แม่เป็นแบบอย่างให้เพลงให้ทุกเรื่องๆ เพลงเข้มแข็งและผ่านอะไรมาได้ ชีวิตเราก็ไม่ได้รับราบรื่นมาตลอด เราก็อดทนต่อสู้ ก็เพราะเรามีคุณแม่เป็นกำลังใจ เป็นแบบอย่างให้เรา ว่าเขาทำทุกอย่างได้ดี เขาเก่ง เขาอดทน แล้วเขาก็อยากให้เราได้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เราเห็นในความอึดความเก่งของแม่เราก็เก็บตรงนั้นมาดำเนินชีวิตต่อไปได้ เพลงบอกแม่ในตอนสุดท้ายว่าไม่ต้องห่วงเพลง ทุกอย่างแม่ให้เพลงมาหมดแล้ว อยู่ในตัวเพลงหมดแล้ว ขอให้แม่เชื่อว่าเพลงจะอยู่ต่อไปได้อย่างดีที่สุด"

ในช่วงวินาทีสุดท้ายที่บอก แม่รับรู้ไหม?
"เป็นช่วง 3 – 4 วันหลัง ที่เขาหลับไม่ค่อยได้สติแล้วนะคะ แต่คุณหมอยืนยันว่าแม่ได้ยินนะแค่อาจจะไม่ได้ตอบสนอง เราไม่รู้ว่าเขาได้ยินหรือเปล่าแต่ก็พูดตลอดเพราะถ้าไม่พูดตอนนี้ก็ไม่รู้จะพูดตอนไหนเนอะ เพลงอยากบอกอะไรเพลงก็บอกหมดทุกอย่างเลยค่ะ อยากขอบคุณอะไรเขา ขอบคุณที่ได้เกิดมาเป็นลูกเขา ขอบคุณที่เลี้ยงเรามา อดทนเพื่อเรา ก็บอกทุกอย่างเลย"

กำหนดการเป็นยังไง ?
“สำหรับกำหนดการตอนนี้กำลังรอเช็คกับทางวัด เพราะคุณพ่อตั้งใจจะเก็บไว้บำเพ็ญกุศล 100 วัน เพราะแม่เคยพูดไว้ว่าอยากให้ทำแบบนี้ แต่ยังติดมี่เรื่องที่เก็บแล้วกำหนดการอยู่ว่าจะเป็นไปได้ไหม ยังเดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งค่ะ”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม