เฟซบุ๊ก
เรื่องเล่าจากโรงหมอ โดยนพ.แมนวัฒน์ โชคสุวัฒนสกุล สูตินรีแพทย์ ได้โพสต์
อธิบายถึงข่าวดังกล่าวว่า "เด็กหญิง 11 ปี กำลังมีไข้ ได้รับวัคซีนมะเร็งปากมดลูกแล้วแน่นหน้าอก อาเจียน ก่อนเสียชีวิต...คุณพ่อโพสเพื่อขอความเป็นธรรม
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวด้วยนะครับ และขอให้มีการตรวจสอบ ช่วยเหลือ เยียวยา ดูแลครอบครัวอย่างเหมาะสมโดยเร็วครับ...
แต่สิ่งที่กังวลอีกเรื่องคือ คนจะกลัวการฉีดวัคซีน
-วัคซีนมะเร็งป้องกันมะเร็งปากมดลูกนี้คืออะไร
@คือวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV หลักๆคือชนิด 16 18 ซึ่งส่วนใหญ่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อชนิดนี้เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกกว่า 70%
นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันมะเร็งที่เกิดจากการติดเชื้อชนิดนี้เช่นมะเร็งอวัยวะเพศชาย ทวารหนัก ลำคอ และกลุ่มโรคหูดหงอนไก่ต่างๆได้ด้วย
การฉีดจะได้ผลดีมาก ในกลุ่มอายุน้อย+ก่อนมีเพศสัมพันธ์ ทั้งชายและหญิง แนะนำในช่วงอายุ 9-26 ปี แต่เกินนี้ก็ฉีดได้
-ไม่ฉีดได้ไหม
@ได้แน่นอน แต่ต้องรู้ว่าความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกในไทยอัตราการเกิดคร่าวๆคือ 20 ต่อแสน สูงเป็นอันดับสองของโรคมะเร็งในผู้หญิงรองจากมะเร็งเต้านม
ตอนนี้มีผู้ป่วยใหม่ปีละประมาณหมื่น
และตายปีละ 5,200 คน
เราจึงพยายามลดอัตราการเกิดคนไข้ใหม่โดยส่งเสริมการคัดกรองโรค และป้องกันโรคโดยไปต่อรอง จัดซื้อวัคซีนมะเร็งปากมดลูกที่ขายกันแพงๆ เข็มละเกือบสามพัน มาได้ในราคาเหมาเหลือเข็มละไม่กี่ร้อย เพื่อฉีดให้กับเด็กๆชั้นประถม ปีละประมาณ 400,000 คน
ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่ร่ำรวยหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ให้การสนับสนุนวัคซีนนี้ฟรี(เฉพาะกับเด็กๆในช่วงชั้นที่กำหนด)
-เอาสรุปๆ เลย หมอว่าฉีดดีไหม
@ดีแน่ครับ แต่ทุกเรื่องก็มีเสี่ยงบ้าง และจำเป็นต้องสังเกตอาการหลังฉีด เช่นเดียวกับการให้ยาทุกชนิด
ตัววัคซีนเองถือว่าปลอดภัยมาก ผลข้างเคียงหลังฉีดที่เจอบ่อยคือ เจ็บแขน ไข้ต่ำๆ ปวดหัว คลื่นไส้ เวียนหัว
ที่แพ้มาก แบบ anaphylaxis อันตรายถึงชีวิตมีโอกาสเกิด 3 ใน 1,000,000 (ref CDC)
อัตราการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่น หรือเสียชีวิตจากยาจริงๆก็ต่ำมากๆ
ถ้าหลังฉีดมาอาการเวียนหัว หน้ามืด ใจเต้นแรง สับสนกระวนกระวาย หมดสติ หรือหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ต้องได้รับการประเมิน และให้การรักษาโดยแพทย์ทันที
ส่วนตัวใช้ยานี้ไม่เยอะมาก...และไม่พบปัญหา ใครเคยใช้กับคนไข้ หรือถูกฉีด หรือคนใกล้ตัวฉีด แล้วเกิดปัญหา รบกวนแชร์ประสบการณ์ครับ"