คอตกนอนคุก! อดีตพนักงานเซเว่นบุกฉกเงิน อ้อนเมีย “อย่าทิ้งกันนะ” ช็อกผัวเป็นโจร (คลิป)

เมื่อวันที่ 2 ก.ย.63 เวลา 10.30 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลบางกอกใหญ่ พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางกอกใหญ่ แถลงการจับกุม นายจักรรินทร์ รักสุข หรือ อั๋น อายุ 39 ปี หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดยาว 1 ฟุต จี้ชิงเงินร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 8 โดยก่อเหตุเมื่อช่วงเวลา 01.05 น. ของวันที่ 1 ก.ย. 63 สวมเสื้อคลุมสีแดงเลือดหมูใส่แมสก์ ก่อนที่จะใช้อาวุธมีดเดินเข้าไปหลังเคาน์เตอร์จี้พนักงานชายให้เข้าไปหลังร้าน

จากนั้น หยิบขนมมาสแกนที่เครื่องคิดเงิน 2 เครื่อง เพื่อให้ลิ้นชักเก็บเงินเปิด และหยิบเงินสดในลิ้นชักออกไป ก่อนจะเปิดเอาเงินที่อยู่ใต้ด้านล่างออกไปรวมทั้งสิ้น 14,734 บาท ระหว่างนั้นมีลูกค้ามาซื้อของก็ทำทีเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ คิดเงินให้ลูกค้า โดยใช้เวลาอยู่ในร้านประมาณ 3-4 นาที หลังก่อเหตุข้ามสะพานลอยไปขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป

เจ้าหน้าที่มีการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายอั๋น เคยเป็นอดีตพนักงานร้านสะดวกซื้อ สาขาซอยอิสรภาพ 47 ทำอยู่นาน 2 เดือน ก่อนถูกให้ออกจากงาน เพราะเคยมีพฤติกรรมยักยอกเงิน จากนั้นก็ไปพักอาศัยอยู่กับแฟนสาวที่ห้องพักย่านจรัญสนิทวงศ์ 25 เมื่อไม่มีเงิน ประกอบกับมึนเมา จึงก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ

เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอาญาตลิ่งชันเพื่อออกหมายจับ ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธและพาอาวุธมีดไปในเมือง โดยไม่มีเหตุอันควร เข้าจับกุมในห้องพักในเวลาประมาณ 23.00 น. พบหลักฐานที่ใช้ก่อเหตุเป็นรองเท้าผ้าใบสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ผ้าปิดปากสีดำ ของกลางที่ได้จากการก่อเหตุคือ ซองบุหรี่ และไฟแช็ก

เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายอั๋นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ร้านสะดวกซื้อซอยจรัญสนิทวงศ์ 8 และจำลองการหลบหนีหลังก่อเหตุ ได้ข้ามสะพานลอยแล้วขึ้นรถแท็กซี่ ใช้เวลาทำแผน 10 นาที

โดยช่วงระหว่างทำแผนชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่านำเงินไปให้ภรรยาจ่ายค่าห้องจริงหรือไม่ นายอั๋นพยักหน้า เมื่อถามว่ามีการวางแผนล่วงหน้าหรือไม่ นายอั๋นตอบว่า "ไม่ได้วางแผนครับ" เมื่อถามว่าเครียดหรือไม่ นายอั๋นพยักหน้า ตอบว่า "เครียดมาก" ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าหากย้อนเวลากลับไปได้จะทำหรือไม่ นายอั๋นตอบว่า "ผมจะไม่ทำ ตอนนี้เป็นห่วงภรรยา และอยากขอโทษ"

ภรรยาของนายอั๋น ผู้ก่อเหตุ อยู่ในอาการเสียใจร้องไห้ตลอดเวลา บอกว่า ตอนนี้เครียดหนักถึงขั้นนอนไม่หลับ เพราะไม่คิดมาก่อนว่าสามีจะไปก่อเหตุชิงทรัพย์ ไม่ทราบมาก่อนว่าสามีเคยมีพฤติกรรมลักขโมย ตนยอมรับว่ามีปัญหาด้านการเงินจริง ติดค้างค่าเช่าห้องไว้ประมาณ 5,000-8,000 บาท

ที่ผ่านมา สามีเป็นคนไม่ค่อยพูด ลักษณะถามคำตอบคำ ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีเพื่อนฝูง ไม่สุงสิงกับใคร ซึ่งเมื่อวานนี้วันเกิดเหตุตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตนทำงานโรงงานเข้ากะกลางคืน เมื่อกลับห้องมากลางดึกก็เห็นสามีนอนอยู่ที่ห้องแล้ว โดยที่ไม่ทราบว่าสามีเพิ่งไปชิงทรัพย์มา รุ่งเช้าสามีได้นำเงินให้ตนจำนวน 9,000 บาท บอกว่าเป็นเงินเดือนที่ได้จากการทำงาน ตนจึงได้นำเงินไปจ่ายค่าห้อง จำนวน 3,500 บาท ส่วนเงินที่เหลือได้นำไปใช้หนี้ และซื้อของใช้ส่วนตัวจนหมดแล้ว ยืนยันว่าสามีให้เพียง 9,000 บาท ไม่ได้ให้ทั้งหมด

ซึ่งสามีทำงานร้านสะดวกซื้อมาหลายปี เปลี่ยนที่ทำงานมาหลายที่ เมื่อเงินเดือนออกก็จะให้ตนทั้งหมด ซึ่งตนไม่ทราบมาก่อนว่าสามีตกงาน แต่ก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะช่วงหลัง ๆ สามีให้เงินน้อยลง บางเดือนก็ไม่ได้ให้ แต่ตนก็ไม่ได้ถามเพราะคิดว่าคงมีค่าใช้จ่าย

จนกระทั่งช่วงบ่าย ตำรวจมาที่ห้องนำตัวสามีไปที่โรงพัก ตนจึงทราบว่าเงินที่สามีมอบให้นั้นมาจากการชิงทรัพย์ ตนตกใจมาก รีบเดินทางไปที่โรงพัก ได้พูดคุยกันเพียงเล็กน้อย สามีพูดกับตนว่า "ไปเยี่ยมหน่อยนะ อย่าทิ้งผมนะ" ตนก็ตอบไปว่าไม่ทิ้งสัญญาว่าจะไปเยี่ยม ซึ่งตนเสียความรู้สึกที่สามีไม่เคยพูดไม่เคยปรึกษา จึงอยากให้สามีกลับเนื้อกลับตัว ส่วนหนี้ที่เหลืออยู่ตนก็จะจัดการด้วยตัวเอง