ล่า “ไอ้เอ๋” โจรปล้นเงิน แสบฉกรถสาวหนี ตร.ทั้งกุญแจมือ รปภ.เผยนาทีขอบุหรี่อย่างใจเย็น (คลิป)

จากกรณีคืนวันพุธที่ 2 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา ขณะที่พนักงานสอบสวน พ.ต.ท.ณัฐชาติ เกตุชาติ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ เบิกตัวนายเอ๋ ชิเนหันนา อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ในเขตพื้นที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ และสภ.เมืองสระบุรี เมื่อเช้าวันที่ 31 ส.ค. 63 ก่อนจับกุมตัวแล้วนำมาฝากขังที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี

ซึ่งนายเอ๋ ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากห้องพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี โดยอาศัยจังหวะเผลอวิ่งหนีลงมาจาก สภ.เมืองสระบุรีทั้งที่ใส่กุญแจมือ กระทั่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหา และติดตามไล่ลาตัวนายเอ๋ พร้อมตั้งรางวัลผู้พบเบาะแสจำนวน 10,000 บาท เพื่อเร่งติดตามตัวคนก่อเหตุให้เร็วที่สุด

ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้ต้องหาสะเดาะกุญแจมือที่ถูกล็อกไว้ทั้งสองด้านแล้วหรือไม่ ส่วนพาหนะที่ใช้ในการหลบหนี เป็นรถจักรยานยนต์ที่ไปโจรกรรมมา ทั้งนี้ ผู้ต้องหาไม่ได้นอนมา 2 คืนก่อนหลบหนี ร่างกายค่อยข้างอ่อนแรง ประกอบกับมีความเครียดสะสมสูง

เนื่องจากเมื่อวานนี้ 2 ก.ย. 63 ขณะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายเอ๋ ตัดพ้อว่า "ชีวิตไม่มีอะไร อยู่ไปก็เท่านั้น รู้อย่างนี้นำปืนปลอมที่ก่อเหตุออกมาล่อเป้าให้ตำรวจยิงก็ดี" คล้ายมีอาการเครียด ไม่อยากมีชีวิตอยู่ โดยตอนนี้คาดว่าผู้ต้องหาน่าจะหลบหนีไปยังพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

สำหรับพฤติการณ์การหลบหนีออกจาก สภ.เมืองสระบุรี ของนายเอ๋ (ผู้ต้องหา) อาศัยจังหวะที่พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำ ลุกขึ้นวิ่งหนีออกมาทางประตูด้านหลังอาคาร สภ.เมืองสระบุรี ก่อนวิ่งผ่านด้านหลังอาคารมายังหน้าห้องสืบสวน ก่อนวิ่งออกไปนอก สภ.เมืองสระบุรี โดยใช้ช่องว่างของอาคาร สภ.เมืองสระบุรี ออกไป

โดยคนร้ายลักรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฌ 5819 พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจอดไว้ที่หน้าหมู่บ้าน มีกุญแจคาอยู่ ขับรถหลบหนีไปเข้าไปในบริเวณห้องเช่า ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 200 เมตร จอดรถและเปิดประตูห้องเช่าเพื่อหาทางหลบเข้าไปอยู่ในห้อง ในระหว่างนั้นได้เจอนายธเนศ แก้วประไพ เจ้าหน้าที่ดูแลฃอาคาร 

นายธเนศ แก้วประไพ อายุ 53 ปี รปภ. เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งดูรายการ "ทุบโต๊ะข่าว" ช่องอมรินทร์ ทีวี 34 เอชดี อยู่ในป้อม รปภ. ของห้องพัก เห็นผู้ห้องหาขับรถจักรยานยนต์มาในบริเวณหน้าห้องพัก ซึ่งเป็นห้องพักชั้นเดียวมีผู้เช่าทั้งรายวันและรายเดือน

จากนั้น ผู้ต้องหาเดินไปบิดประตูที่หน้าห้องหมายเลข 3C พยายามจะเปิดประตูเข้าไป ตนเข้าใจว่าเป็นญาติของผู้เช่าห้องพัก จึงเดินออกมาดู ผู้ต้องหามองเห็นตนแล้วเดินปรี่เข้ามาจึงทราบว่ามือทั้งสองข้างถูกล็อกด้วยกุญแจมือ ผู้ต้องหาพูดขึ้นว่า "ขอบุหรี่หน่อย" ตนจึงตอบกลับไปว่า "ไม่ดูดบุหรี่ หนีตำรวจมาหรอ" ผู้ต้องหาตอบว่า "ครับ หนีตำรวจมา คดียาเสพติด" ก่อนจะขี่รถออกไปจากพื้นที่หน้าห้องพัก

นายธเนศ เล่าต่อว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมใจเย็นมาก ขณะขับรถใช้มือทั้งสองข้างจับที่แฮนด์จักรยานยนต์ ช่วงที่ขับออกจากหน้าห้องพักไปนั้น ผู้ต้องหาหยุดรถมองกระจกหลังมาที่ตนด้วยสายตาเยือกเย็น ฉลาด คล้ายกับดูว่าตนจะแจ้งตำรวจหรือไม่ ทันทีที่ผู้ต้องหาขับรถออกไปแล้ว ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้ง 191 ทันที

สำหรับห้องพักมี่ผู้ต้องหาไปบิดประตู โชคดีที่ไม่มีคนอยู่ภายในห้อง คาดว่าผู้ต้องหาอาจจะมาชิงทรัพย์หรือหลบหนีตำรวจ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าช็อกตกใจมาก เหงื่อท่วมตัว กลัวคนร้ายมีอาวุธหรือมาทำร้าย อีกทั้งเมื่อทราบว่าตนแจ้งตำรวจ หวั่นความปลอดภัยในชีวิต เพราะคนทำงานกลางคืน กลัวผู้ต้องหาพาพรรคพวกมาทำร้าย

ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ ม.7 ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านของนายเอ๋ ผู้ต้องหา นายประสิทธิ์ อายุ 70 ปี ลุงของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายเอ๋ ออกจากบ้านนี้ไปนายหลายเดือนแล้ว และไม่ได้ติดต่อกัน ซึ่งนายเอ๋จะย้ายไปอยู่คนเดียว ส่วนแม่ของนายเอ๋ก็ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเช่นกัน เพราะแม่นายเอ๋เบื่อลูกชาย เนื่องจากลูกชายมีพฤติกรรมชอบขโมยของ ส่วนตนเองก็ไมค่อยสนิทสนมกับนายเอ๋ และตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ได้กลับมาหาตน แต่ตนทราบข่าวแล้วก็รู้สึกเฉย ๆ เพราะตนไม่ได้สนใจนายเอ๋อยู่แล้ว