แม่ใจสลายรับศพพรานเก่ง อภัยหมอปลาทายผิด คาดโดนกับดักปืนของคนอื่น (คลิป)

จากกรณี พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งพบศพ พรานเก่ง หรือ นายเสน่ห์ เฟื่องฟู อายุ 42 ปี ที่หายไปจากบริเวณเขาชมพู่-เขาเขียว เขตป่าสงวน ม.2 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 15 ส.ค. 63 จนกระทั่งเมื่อวานนี้พบศพเหลือแต่โครงกระดูก พบอาวุธปืนล่าสัตว์ข้างตัว และมีรอยเชือกที่ขาจากอาวุธปืนผูกไว้

ล่าสุด วันที่ 5 ก.ย. 63 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรีอ ระบุว่า พนักงานสอบสวนมีการเชิญตัวญาติและครอบครัวของพรานเก่งเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าโครงกระดูกที่พบใช่พรานเก่งหรือไม่ อีกทั้งจะมีการนำ DNA พ่อแม่ของพรานเก่งให้โรงพยาบาลชลบุรีไปตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

ขณะเดียวกัน นางประคอง เฟื่องฟู แม่ของพรานเก่ง บอกว่าวันนี้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ตนแน่ใจว่าเป็นศพลูกชาย เนื่องจากเสื้อผ้า รองเท้า อาวุธปืนที่ตัวและรูปพรรณคือลูกชาย ส่วนอาวุธปืนที่ผูกไว้เป็นกับดักไม่ใช่อาวุธปืนของลูกชาย เนื่องจากลูกชายไม่ได้มีอาชีพล่าสัตว์ เพียงแต่มีเวลาว่างจากการทำเกษตรจึงเข้าไปหาของป่าเพื่อมาทำกินเท่านั้น

สำหรับสาเหตุการตาย ตนไม่ติดใจ ครอบครัวไม่ติดใจ ไม่อยากพาดพิงหรือสงสัยใคร เนื่องจากพรานเก่งไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร ไม่มีเรื่องชู้สาว หรือขัดผลประโยชน์มาก่อน "ลูกชายคงได้ชดใช้เวรกรรมด้วยชีวิตของตัวเองแล้ว และเชื่อว่าเกิดความพลั้งพลาดเผลอเตะกับดักจนเสียชีวิตจริง" 

ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านหนองน้ำเขียว ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นายกาง เทียนสุวรรณ อายุ 51 ปี เพื่อนพรานเก่ง เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับพรานเก่งมากว่า 20 ปี สนิทกันเนื่องจากมักไปเที่ยวด้วยกันประจำ ไปล่าสัตว์ เช่น หมูป่า เก้ง และนก ซึ่งตนและพรานเก่งมักจะเข้าไปหาของป่าตามแนวเขาดังกล่าวบ่อยครั้ง ชินทางและรู้จักพื้นที่บนเขาเป็นอย่างดี

โดยการหาของป่า ตนและพรานเก่งจะใช้ไฟฉายเดินส่องสัตว์และมีอาวุธปืนส่วนในการล่าสัตว์ แต่ไม่เคยทำกับดักยิงสัตว์ที่ผูกกับปืนไว้ เนื่องจากเห็นใจและสงสารคนที่มักจะเดินหาพืชผักตามแนวเขา อาจจะพลาดพลั้งไปเหยียบกับดัก ต่อให้ชำนาญเส้นทางบนเขาก็มองไม่เห็น โดยเฉพาะจุดที่พบศพพรานเก่ง เป็นพื้นที่รก หมูป่าชอบลงมากินหญ้าและมันสำปะหลังของชาวบ้าน ส่วนสาเหตุการตายของพรานเก่ง ตนเชื่อว่าเป็นเพราะพลาดเตะกับดักจริง ไม่ใช่การฆาตกรรม

ขณะที่รถมูลนิธิกู้ภัยสว่าง บ้านบึง นำศพของพรานเก่งจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ มาถึงศาลาวัดหนองน้ำเขียว สถานที่เตรียมจัดงานศพ ญาติทุกคนมีอาการเศร้าเสียใจ แม่ของพรานเก่งนั่งร้องไห้เสียใจตลอดเวลา

นางประคอง เฟื่องฟู แม่ของพรานเก่ง เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ดีใจที่วันนี้เจอศพลูกชาย แต่เมื่อเห็นศพลูกชายก็อดที่จะร้องไห้ด้วยความเสียใจไม่ได้ ยังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียลูกชายกะทันหัน ตนไม่ติดใจกับสาเหตุการตายของลูกชาย พร้อมอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง เชื่อว่าเป็นกรรมของลูกชาย หลังจากนี้ขอให้เขาไปสู่สุคติ

จากที่ก่อนหน้านี้ หมอปลาเข้ามาที่บริเวณป่าเพื่อพิสูจน์และบอกกับญาติว่าพรานเก่งไม่ได้อยู่ในป่าแล้ว และยังไม่เสียชีวิตแน่นอน กระทั่งล่าสุดพบศพพรานเก่ง หมอปลาจึงขอโทษมาทางครอบครัว "ตนน้อมรับคำขอโทษของหมอปลา ไม่ถือโทษโกรธใคร
หากต้องการมางานศพตนก็ยินดี" ตนขอขอบคุณทีมค้นหาทุกทีม ประชาชน เพื่อนบ้าน ป่าไม้ ตำรวจ และทหาร ที่เข้ามาช่วยค้นหาพรานเก่ง

นางสาวอุมา กลิ่นเอียม ภรรยาพรานเก่ง เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ตนเห็นสภาพศพสามี เนื่องจากเมื่อวานนี้ขณะพบศพตนเดินทางไปทำธุระที่ จ.ชัยนาท และตนทำใจไม่ได้ ส่วนสาเหตุการตาย ตนเชื่อว่าเป็นเพราะพลาดเหยียบปืนผูกกับดักยิงสัตว์ ไม่ใช่ปัญหายาเสพติดหรือชู้สาว ซึ่งตนไม่ติดใจการตายของสามี แค่เจอตัวได้สามีกลับคืนมาตนก็ดีใจมาก แม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้พูดอะไรกันเลยก็ตาม หลังจากกินไม่ได้ นอนไม่หลับหลายวัน ปูพรมค้นหากันมานาน ตนเชื่อว่าสิ่งที่มองไม่เห็นบนเขาได้ปลอดปล่อยตัวสามีออกมาแล้ว

โดยก่อนพบศพพรานเก่ง ตนไม่ฝันถึงสามีเลย เพราะสามีรู้ว่าตนเป็นคนกลัวผีจึงไม่มาเข้าฝันหรือมาบอกกล่าว และก่อนพรานเก่งเสียชีวิตตนไม่เคยมีลางสังหรณ์ด้วย สามีให้คำสัญญาบอกกับตนว่า "จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่" แต่กลับเสียชีวิตไปก่อน หลังจากนี้ตนจะต้องอยู่ต่อไปให้ได้ ส่วนคุณพ่อและคุณแม่ตนจะดูแลเอง

ทีมข่าวเดินทางมาที่หมู่บ้านโค้งดารา ม.2 บริเวณเขาชมภู่-เขาเขียว ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่พบศพโครงกระดูกพรานเก่ง นางสาวสุพิชญา เจริญนาน อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านโค้งดารา เปิดเผยว่า ได้ทราบข่าวของพรานเก่งที่เหยียบปืนกับดักสัตว์จนเสียชีวิตแล้ว และเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เคยมีเหตุลักษณะเดียวกันเนื่องจากเคยมีคนแก่ในหมู่บ้านขึ้นไปบนเขาพื้นที่ป่าดังกล่าวเพื่อไปหานก กระทั่งพลาดเหยียบโดนกับดักล่าสัตว์จนเสียชีวิต

ภายหลังจากเหตุการณ์ที่เคยมีคนเหยียบกับดักปืนล่าสัตว์เมื่อหลายปีก่อน ชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านโค้งดารา ก็ไม่มีใครขึ้นไปหาของป่าหรือล่าสัตว์อีกเลย ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าไม่ใช่กับดักของชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านโค้งดาราอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันไม่มีคนล่าสัตว์แล้ว

ด้านนางระเบียบ จันทร อายุ 54 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านหนองน้ำเขียว เปิดเผยว่า ตนมาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนานกว่า 20 ปี ประกอบอาชีพค้าขายและหาเก็บกลอยบนเขา นำส่งไปขายให้เฒ่าแก่เพื่อทำขนมขาย เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เป็นวันจ่ายช่วงตรุษจีน ตนและสามีขึ้นไปเก็บกลอยในพื้นที่ป่าเขา จุดที่พบโครงกระดูกของพรานเก่ง ได้ยินเสียงดังก้องแผ่วเบาคล้ายเสียงประกาศให้ไปต่อแถวเพื่อมารับของ แต่ได้ยินไม่ชัดเจนว่ามีคำพูดอะไร แต่เป็นลักษณะคล้ายเสียงประกาศในหุบเขาห่างไกลถนน ไกลชุมชน จากนั้น ได้ยินเสียงคล้ายเสียงคนนอนกรนดัง ก่อนจะเดินทางกลับ

นอกจากนี้ ยังเคยมีชาวบ้านเป็นชาย 3 คนในหมู่บ้านหนองน้ำเขียวที่เข้าไปหาของป่าในเวลากลางดึก ได้ยินเสียงคล้ายเสียงมโหรีแห่เข้ามาในระยะใกล้ ทั้งที่อยู่บนเขาและเป็นช่วงกลางดึก จากนั้นทุกคนจึงรีบออกมาจากป่าทันที ในอดีตมีตำนานบอกเล่าว่าเป็นเมืองลับแล เป็นเรื่องลี้ลับที่มองไม่เห็น